เมล็ดพันธุ์ ฟักทองไข่ลืมผัว

30 ฿

  • จำนวน 8 เมล็ด
  • โพแทสเซียม ช่วยควบคุมสมดุลของเหลวในร่างกาย และช่วยควบคุมความดันโลหิต
  • แคลอรี่ต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
  • ใยอาหารสูง ช่วยส่งเสริมระบบขับถ่ายให้ทำงานได้ดี ป้องกันอาการท้องผูก และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

เมล็ดพันธุ์ ฟักทองไข่ลืมผัว 8 เมล็ด

ฟักทองไข่ลืมผัว (ชื่อวิทยาศาสตร์: Cucurbita maxima) เป็นฟักทองของไทยมาแต่โบราณ เนื้อดีเหนียวแน่นไม่เละ มันอร่อย เหมาะทำอาหารหวานคาว ทุกเมนู ผิวเนียนเรียบเงางาม เก็บผลไว้ได้นาน

คุณสมบัติ

  • เนื้อดีเหนียวแน่นไม่เละ มันอร่อย
  • เหมาะทำอาหารหวานคาว ทุกเมนู
  • ผิวเนียนเรียบเงางาม เก็บผลไว้ได้นาน
  • ผลขนาด 4-5 กิโลกรัม
  • ปลูกง่ายทนโรคและแมลง ปลูกได้ทุกภาค ทุกฤดู

ประโยชน์ของฟักทองไข่ลืมผัว

  1. เบต้าแคโรทีนสูง เป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอ ซึ่งจำเป็นต่อการมองเห็น บำรุงสายตา และช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งและโรคหัวใจ
  2. ใยอาหารสูง ช่วยส่งเสริมระบบขับถ่ายให้ทำงานได้ดี ป้องกันอาการท้องผูก และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
  3. วิตามินซี ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันหวัด และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
  4. วิตามินอี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยบำรุงผิวพรรณ
  5. โพแทสเซียม ช่วยควบคุมสมดุลของเหลวในร่างกาย และช่วยควบคุมความดันโลหิต
  6. แร่ธาตุอื่นๆ เช่น เหล็ก สังกะสี แมกนีเซียม
  7. แคลอรี่ต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
  8. อิ่มนาน ใยอาหารสูงช่วยให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น ลดความอยากอาหาร

วิธีการปลูก

  1. การเตรียมดิน
    • ฟักทองชอบดินร่วนปนทรายที่อุดมสมบูรณ์ ระบายน้ำได้ดี และมีค่า pH ประมาณ 6.0-7.0 (เป็นกลางถึงกรดเล็กน้อย)
    • ควรเตรียมดินโดยการไถพรวน ตากดิน ฆ่าเชื้อโรค และใส่ปุ๋ยอินทรีย์ เช่น ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก คลุกเคล้าให้เข้ากัน
  2. การเตรียมเมล็ด
    • ใช้เมล็ดพันธุ์ฟักทอง “ไข่ลืมผัว” ที่มีคุณภาพดี
    • อาจนำเมล็ดไปแช่น้ำอุ่น (ประมาณ 50 องศาเซลเซียส) ทิ้งไว้ 2-4 ชั่วโมง หรือ 1 คืนก่อนเพาะ เพื่อช่วยเร่งการงอก
  3. การเพาะเมล็ด
    • เพาะในถาดหลุม/กระถางเพาะ หยอดเมล็ด 1-2 เมล็ดต่อหลุม/กระถาง กลบด้วยวัสดุเพาะบางๆ รดน้ำให้ชุ่มชื้น
    • เพาะโดยตรง หยอดเมล็ด 3-4 เมล็ดลงในหลุมปลูกที่เตรียมไว้ เมื่อต้นกล้าแข็งแรงจึงถอนแยกให้เหลือ 1-2 ต้นที่สมบูรณ์ที่สุด
    • การดูแล วางไว้ในที่ร่มรำไร เมล็ดจะเริ่มงอกภายใน 5-10 วัน
  4. การย้ายกล้า (ถ้าเพาะในถาดหลุม)
    • เมื่อต้นกล้ามีใบจริง 2-3 ใบ หรือสูงประมาณ 10-15 เซนติเมตร ลำต้นแข็งแรงพอ สามารถย้ายปลูกลงแปลงได้
    • ควรรดน้ำต้นกล้าให้ชุ่มก่อนย้าย และย้ายในช่วงเย็นเพื่อลดการคายน้ำ
  5. ระยะปลูก
    • ฟักทองเป็นไม้เลื้อยที่ต้องการพื้นที่ในการเจริญเติบโต
    • สำหรับฟักทองพันธุ์เล็ก อาจปลูกห่างกันประมาณ 1.5 – 2 เมตรต่อต้น หรือปลูกเป็นแถว โดยเว้นระยะระหว่างแถว 2 – 3 เมตร (ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และความยาวของเถา)
  6. การดูแลรักษา
    • แสงแดด ฟักทองต้องการแสงแดดจัดตลอดวัน (Full Sun) อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อการเจริญเติบโตและการติดผลที่ดี
    • การรดน้ำ ควรรดน้ำให้สม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงเช้าและเย็น ดินควรรักษาความชุ่มชื้นอยู่เสมอ แต่ไม่แฉะขังน้ำ ซึ่งอาจทำให้รากเน่าได้
    • การให้ปุ๋ย
      • ช่วงแรกเน้นปุ๋ยที่มีไนโตรเจนสูง (ปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยเคมีสูตรเสมอ เช่น 15-15-15) เพื่อบำรุงลำต้นและใบ
      • เมื่อเริ่มออกดอกและติดผล ควรเปลี่ยนไปใช้ปุ๋ยที่มีฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมสูง (เช่น ปุ๋ยสูตร 8-24-24 หรือ 13-13-21) เพื่อบำรุงดอกและผล
      • ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักอย่างสม่ำเสมอ
    • การจัดการเถา สามารถปล่อยให้เถาเลื้อยไปตามพื้น หรือทำค้าง/ซุ้ม เพื่อให้เถาเลื้อยขึ้นไป ซึ่งจะช่วยประหยัดพื้นที่ และทำให้ผลสวยงามไม่เปื้อนดิน
    • การผสมเกสร หากมีการติดผลน้อย อาจจำเป็นต้องช่วยผสมเกสรด้วยมือ โดยนำเกสรตัวผู้ (ดอกที่มีก้านยาว ไม่มีผลเล็กๆ ที่ฐาน) มาแตะกับเกสรตัวเมีย (ดอกที่มีผลเล็กๆ ที่ฐาน) ในช่วงเช้า
    • การเด็ดแขนง/ตัดแต่ง การเด็ดแขนงที่ไม่จำเป็น และตัดแต่งใบล่างที่แก่ หรือใบที่แน่นเกินไป จะช่วยให้ต้นได้รับแสงแดดและอากาศถ่ายเทได้ดีขึ้น
    • การจัดการโรคและแมลง หมั่นสำรวจและป้องกันกำจัดโรคและแมลงศัตรูพืช เช่น เพลี้ยอ่อน เพลี้ยไฟ แมลงวันทอง และโรคราแป้ง ราน้ำค้าง
  7. การเก็บเกี่ยว
    • โดยทั่วไปฟักทองจะใช้เวลาประมาณ 80-120 วันหลังย้ายกล้า หรือประมาณ 45-60 วันหลังดอกบาน ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์
    • สำหรับ “ฟักทองไข่ลืมผัว” ที่อาจนิยมกินตอนอ่อน อาจเก็บเกี่ยวได้เร็วกว่าฟักทองที่รอให้แก่จัด
    • สังเกตเปลือกจะต้องแข็ง มีสีเข้มขึ้น หรือมีลายชัดเจน (แล้วแต่สายพันธุ์) ขั้วผลจะเริ่มแข็งและเป็นสีน้ำตาล
    • เก็บเกี่ยวโดยการตัดขั้วผลให้มีขั้วติดอยู่ประมาณ 2-5 เซนติเมตร เพื่อช่วยให้เก็บรักษาได้นานขึ้น