ใบก้ามปู (จามจุรี) ขุมทรัพย์แห่งเกษตรอินทรีย์
ต้นจามจุรี หรือที่รู้จักในชื่อ ต้นฉำฉา สำสา หรือต้นก้ามปู (Rain tree) เป็นไม้ยืนต้นเศรษฐกิจที่มีคุณประโยชน์มากมาย โดยเฉพาะในด้านการเกษตรอินทรีย์
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
โครงสร้างต้น
- ไม้ยืนต้นโตเร็ว ทรงพุ่มแผ่กว้างคล้ายร่ม
- กิ่งก้านยาว ปลายกิ่งแตกแขนงมาก
- ให้ร่มเงาได้ดีเนื่องจากใบดกหนา
ลักษณะใบ
- เป็นใบประกอบแบบขนนก
- ก้านใบหลัก 1 ก้าน มีก้านใบย่อย 4-6 คู่
- ก้านใบย่อยคู่ที่ 3-5 มีใบย่อยประมาณ 5-6 คู่
- ใบอ่อนสีเขียวอ่อน เปลี่ยนเป็นเขียวเข้ม เหลือง และน้ำตาลตามลำดับ
- มีการหุบใบในตอนเย็นและคลี่ใบในตอนเช้า ช่วยให้น้ำค้างหยดลงสู่พื้นดิน
คุณค่าทางการเกษตร
ปรับปรุงคุณภาพดิน
- เป็นพืชตระกูลถั่ว สามารถตรึงไนโตรเจน
- ใบมีไนโตรเจนสูงถึง 3.25%
- เหมาะสำหรับการทำปุ๋ยหมักและวัสดุปลูก
- ช่วยฟื้นฟูดินเสื่อมโทรม
การทำปุ๋ยอินทรีย์จากใบจามจุรี
วิธีที่ 1 การหมักใบแห้ง
- เก็บใบร่วงใส่ถุงดำ
- หมักในถังใหญ่หรือขอบบ่อ
- รดน้ำให้ชุ่มสม่ำเสมอ
- ใช้เวลาหมัก 2-3 เดือน
วิธีที่ 2 การหมักใบสด
- เก็บใบในช่วงฤดูฝน
- หมักโดยตรงไม่ต้องเติมน้ำ
- เร่งด้วยน้ำหมักหรือ EM
- ใช้งานได้ภายใน 1 เดือน
วิธีที่ 3 การทำวัสดุปลูก
- ตากใบให้แห้งสนิท
- บดหรือหักให้เป็นชิ้นเล็ก
- ผสมกับดินปลูกสำหรับไม้กระถาง
ประโยชน์ด้านอื่นๆ
ระบบนิเวศ
- เป็นที่อยู่ของกล้วยไม้อิงอาศัย
- สร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับเฟิร์น
- ช่วยอนุรักษ์ความชื้นในดิน
การใช้ประโยชน์
- ไม้เศรษฐกิจสำหรับเยื่อและเนื้อไม้
- ไม้ประดับให้ร่มเงา
- แหล่งอาหารสำหรับผึ้งและแมลง
- เลี้ยงครั่ง
การนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์
ผลิตภัณฑ์จากใบจามจุรี
- ดินผสมใบก้ามปู
- ใบก้ามปูแห้งบรรจุถุง
- วัสดุปลูกสำเร็จรูป
บทสรุป
จามจุรีเป็นไม้อเนกประสงค์ที่มีคุณค่าอย่างยิ่งต่อระบบเกษตรอินทรีย์ โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์จากใบในการปรับปรุงดินและทำวัสดุปลูก การใช้ประโยชน์อย่างชาญฉลาดจากต้นจามจุรีจะช่วยสร้างระบบเกษตรที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม