เมล็ดพันธุ์ ฝรั่งขี้นกไส้เหลือง 50 เมล็ด
ฝรั่งขี้นกไส้เหลือง (ชื่อวิทยาศาสตร์: Psidium Guajava) ฝรั่งขี้นกไส้เหลือง (บางครั้งเรียกฝรั่งไส้เหลือง) เป็นพันธุ์ฝรั่งที่มีลักษณะเด่นคือเนื้อภายในมีสีเหลืองสดใส ซึ่งแตกต่างจากฝรั่งทั่วไปที่มักจะมีสีขาวหรือชมพู ฝรั่งพันธุ์นี้มักมีขนาดเล็กถึงกลาง เปลือกบางและสีเขียวเมื่อยังไม่สุกและจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเมื่อสุกเต็มที่ รสชาติของฝรั่งขี้นกไส้เหลืองจะหวานและกรอบ เหมาะสำหรับการทานสดหรือใช้ในการทำขนม
คุณสมบัติ
- ลักษณะภายนอก: ฝรั่งขี้นกไส้เหลืองมีเปลือกบาง สีเขียวสดในช่วงที่ยังไม่สุก และเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเมื่อสุกเต็มที่ ขนาดของผลมักจะค่อนข้างเล็กถึงกลาง
- เนื้อใน: เนื้อของฝรั่งจะมีสีเหลืองสดใสและมีความกรอบ ไม่แห้งและมีความชุ่มชื้น เมล็ดมีขนาดเล็กและไม่เด่นชัด
- รสชาติ: ฝรั่งพันธุ์นี้มีรสหวานและกลิ่นหอม ไม่เปรี้ยว ทำให้เป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่ชอบทานฝรั่งในรูปแบบสด
- สารอาหาร: ฝรั่งขี้นกไส้เหลืองมีวิตามิน C สูง ซึ่งช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ยังมีไฟเบอร์ที่ดีต่อระบบย่อยอาหาร
ประโยชน์ของฝรั่งขี้นกไส้เหลือง
- เสริมภูมิคุ้มกัน: วิตามิน C ที่มีอยู่ในฝรั่งขี้นกไส้เหลืองช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ช่วยป้องกันโรคหวัดและการติดเชื้อ
- ดีต่อระบบย่อยอาหาร: ด้วยไฟเบอร์สูงในฝรั่งช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหารและช่วยป้องกันการเกิดท้องผูก
- บำรุงผิวพรรณ: วิตามิน C และสารต้านอนุมูลอิสระในฝรั่งช่วยให้ผิวพรรณดูสดใส ช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยและชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว
- ช่วยลดน้ำหนัก: ฝรั่งมีแคลอรี่ต่ำและมีไฟเบอร์สูง ซึ่งช่วยให้รู้สึกอิ่มนานและลดความอยากอาหาร ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
- ลดความเสี่ยงจากโรคเรื้อรัง: การบริโภคฝรั่งช่วยลดความเสี่ยงจากโรคต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจและมะเร็งบางชนิด โดยสารต้านอนุมูลอิสระในฝรั่งช่วยป้องกันการเกิดโรคเหล่านี้
วิธีการปลูก
- สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม: ฝรั่งขี้นกไส้เหลืองต้องการแสงแดดจัดและอากาศร้อน ชอบดินที่ระบายน้ำดีและไม่แฉะ
- การเตรียมดิน: ดินที่ใช้ปลูกควรมีความร่วนซุยและมีธาตุอาหารเพียงพอ โดยสามารถเพิ่มปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเพื่อปรับปรุงดินให้มีคุณภาพดี
- การปลูก: ควรปลูกในที่ที่ได้รับแสงแดดตลอดวัน การปลูกฝรั่งสามารถทำได้ทั้งจากการตอนกิ่งหรือการปลูกจากเมล็ด แต่การปลูกจากการตอนกิ่งจะช่วยให้ได้ผลผลิตเร็วกว่า
- การดูแล: ฝรั่งขี้นกไส้เหลืองต้องการน้ำอย่างสม่ำเสมอ แต่ต้องระวังไม่ให้น้ำขัง เพราะอาจทำให้รากเน่าได้ ควรรดน้ำในช่วงเช้าหรือเย็น
- การตัดแต่ง: ควรตัดแต่งกิ่งที่แห้งหรือตายออก และตัดแต่งกิ่งให้มีลักษณะโปร่ง เพื่อให้แสงแดดเข้าถึงทุกส่วนของต้น
- การใส่ปุ๋ย: ควรใส่ปุ๋ยบำรุงต้นทุก 2-3 เดือน โดยเฉพาะในช่วงที่มีการออกผล เพื่อเสริมสร้างการเจริญเติบโตและเพิ่มผลผลิต
- การเก็บเกี่ยว: ฝรั่งขี้นกไส้เหลืองจะสุกเมื่อผลมีสีเปลือกที่เริ่มเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีเหลือง ซึ่งจะเป็นช่วงที่รสชาติหวานและพร้อมสำหรับการเก็บเกี่ยว
