เมล็ดพันธุ์ แฟง 35 เมล็ด
แฟง (ชื่อวิทยาศาสตร์: Benincasa hispida (Thunb.) Cogn.) เป็นพืชผักชนิดหนึ่งในวงศ์ Cucurbitaceae (วงศ์เดียวกับแตงกวา ฟักทอง แตงโม และบวบ) มีลักษณะเป็นไม้เถาเลื้อย ลำต้นมีขนปกคลุม ผลมีขนาดใหญ่ รูปทรงรีหรือกลมยาว ผิวมีขนอ่อนปกคลุมเมื่อยังอ่อน และจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นผิวเรียบ มีนวลสีขาวคล้ายแป้งปกคลุมเมื่อแก่จัด เนื้อสีขาว มีเมล็ดแบนสีขาวจำนวนมาก แฟงเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นิยมนำมาประกอบอาหารทั้งผลอ่อนและผลแก่
คุณสมบัติ
- ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นไม้เถาเลื้อย มีมือเกาะ ลำต้นเป็นเหลี่ยม มีขนปกคลุม ใบเดี่ยว รูปไตหรือรูปหัวใจ ขอบใบหยัก ดอกเดี่ยว สีเหลือง ผลมีขนาดใหญ่ รูปทรงรีหรือกลมยาว ผิวมีขนอ่อนเมื่ออ่อน และมีนวลสีขาวปกคลุมเมื่อแก่ เนื้อสีขาว ฉ่ำน้ำ มีเมล็ดแบนสีขาวจำนวนมาก
- การเจริญเติบโต เจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศร้อนชื้น ต้องการแสงแดดจัด ดินร่วน ระบายน้ำได้ดี
- การออกดอกติดผล ออกดอกและติดผลในช่วงฤดูฝนหรือช่วงที่มีความชื้นสูง
- การขยายพันธุ์ ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด
ประโยชน์ของแฟง
- ใช้ประกอบอาหาร
- ผลอ่อน นำมาผัด แกง ต้ม หรือใส่ในซุปต่างๆ เช่น แกงจืดแฟง ผัดแฟงใส่ไข่
- ผลแก่ นำมาทำเป็นขนมหวาน เช่น แฟงเชื่อม หรือนำไปต้มทำน้ำซุป
- มีคุณค่าทางโภชนาการ แฟงมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก มีแคลอรี่ต่ำ และมีวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ เช่น วิตามินซี แคลเซียม ฟอสฟอรัส และใยอาหาร
- สรรพคุณทางยาพื้นบ้าน ในบางตำรายาพื้นบ้านมีการใช้แฟงเพื่อบรรเทาอาการต่างๆ เช่น ช่วยขับปัสสาวะ ลดไข้ แก้ร้อนใน
- ใช้ในงานประเพณี ในบางท้องถิ่นมีการนำแฟงไปใช้ในพิธีกรรมหรือประเพณีต่างๆ
- เมล็ด: เมล็ดแฟงสามารถนำไปคั่วรับประทานได้
วิธีการปลูก
การปลูกแฟงสามารถทำได้โดยการเพาะเมล็ด มีขั้นตอนดังนี้:
- การเตรียมดิน เลือกพื้นที่ปลูกที่มีแสงแดดจัด ดินร่วน ระบายน้ำได้ดี ไถพรวนดินให้ลึกประมาณ 20-30 เซนติเมตร กำจัดวัชพืช และผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์
- การเพาะเมล็ด
- นำเมล็ดแฟงมาแช่น้ำอุ่นประมาณ 6-8 ชั่วโมง เพื่อกระตุ้นการงอก
- เพาะเมล็ดในกระถางเพาะ หรือแปลงเพาะ กลบดินบางๆ รดน้ำให้ชุ่ม
- เมื่อต้นกล้ามีใบจริง 2-3 คู่ ให้ย้ายลงแปลงปลูก
- การปลูกลงแปลง
- ขุดหลุมปลูกให้มีขนาดประมาณ 50x50x50 เซนติเมตร ระยะห่างระหว่างหลุมประมาณ 1-2 เมตร และระยะห่างระหว่างแถวประมาณ 2-3 เมตร
- รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก
- นำต้นกล้าลงปลูก กลบดินให้มิดโคนต้น กดดินเบาๆ และรดน้ำให้ชุ่ม
- การทำค้าง เนื่องจากแฟงเป็นไม้เถาเลื้อย จึงจำเป็นต้องทำค้างเพื่อให้เถาเลื้อยเกาะ ค้างอาจทำจากไม้ไผ่ ตาข่าย หรือวัสดุอื่นๆ ที่แข็งแรง ควรทำค้างให้แข็งแรงเพื่อรองรับน้ำหนักของผลแฟงที่มีขนาดใหญ่
- การให้น้ำ ควรรดน้ำสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงแรกของการปลูกและช่วงที่ผลกำลังเจริญเติบโต ควรรดน้ำในช่วงเช้าหรือเย็น และหลีกเลี่ยงการรดน้ำโดนใบโดยตรงเพื่อป้องกันโรค
- การให้ปุ๋ย ให้ปุ๋ยเคมีสูตรเสมอ (เช่น 15-15-15) หรือปุ๋ยอินทรีย์ ทุก 2-3 สัปดาห์ เพื่อบำรุงต้นและส่งเสริมการติดผล เมื่อเริ่มติดผล อาจเพิ่มปุ๋ยที่มีโพแทสเซียมสูงขึ้น
- การดูแลรักษา
- การกำจัดวัชพืช ควรกำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอ
- การตัดแต่งกิ่ง ตัดแต่งกิ่งแขนงที่ไม่จำเป็นออก เพื่อให้เถาหลักเจริญเติบโตได้ดี และช่วยให้ผลได้รับแสงแดดอย่างทั่วถึง
- การผสมเกสร (หากจำเป็น) โดยทั่วไปแฟงสามารถผสมเกสรได้เอง แต่หากการติดผลไม่ดี อาจต้องช่วยผสมเกสรด้วยมือ โดยนำเกสรตัวผู้มาแตะที่เกสรตัวเมียในช่วงเช้า
- การป้องกันโรคและแมลง เฝ้าระวังโรคและแมลง หากพบปัญหาให้รีบทำการป้องกันและกำจัดด้วยวิธีที่เหมาะสม เช่น การใช้สารชีวภัณฑ์ หรือสารเคมีในกรณีที่จำเป็น