เมล็ดพันธุ์ ผักพาย 500 เมล็ด
ผักพาย (ชื่อวิทยาศาสตร์: Limnophila aromatica (Lam.) Merr.) เป็นพืชล้มลุกขนาดเล็กในวงศ์ Plantaginaceae (วงศ์เดียวกับต้นเทียน) มีลักษณะเป็นพืชน้ำหรือพืชที่ขึ้นในที่ชื้นแฉะ มีลำต้นอวบน้ำ สีเขียวอ่อนหรือม่วงแดงเล็กน้อย ใบมีขนาดเล็ก รูปรี ขอบใบหยัก มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวคล้ายใบสะระแหน่ผสมกับกลิ่นส้มเล็กน้อย ผักพายเป็นที่นิยมในอาหารเวียดนาม (เรียกว่า Rau thơm) และอาหารอีสานของไทย มักใช้เป็นผักสด กินกับลาบ ก้อย ซุป หรือใส่ในแกงต่างๆ เพื่อเพิ่มกลิ่นหอมและรสชาติ
คุณสมบัติ
- ลักษณะ
- พืชล้มลุกขนาดเล็ก ลำต้นอวบน้ำ ใบรูปรี ขอบใบหยัก
- กลิ่น
- มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว คล้ายใบสะระแหน่ผสมกับกลิ่นส้มเล็กน้อย
- รสชาติ
- มีรสชาติหอมเย็น สดชื่น และมีรสเผ็ดซ่าเล็กน้อย
- คุณค่าทางโภชนาการ
- ผักพายมีวิตามินและแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ เช่น วิตามินเอ วิตามินซี และสารต้านอนุมูลอิสระ
ประโยชน์ของผักพาย
- ช่วยดับกลิ่นคาว
- กลิ่นหอมเฉพาะตัวของผักพายช่วยดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์และปลาได้ดี
- ช่วยเจริญอาหาร
- กลิ่นหอมและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ช่วยกระตุ้นความอยากอาหาร
- มีสารต้านอนุมูลอิสระ
- ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากความเสียหายจากอนุมูลอิสระ
- อาจมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ
- สารประกอบบางชนิดในผักพายอาจมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ
- ช่วยขับลม
- ในตำรายาพื้นบ้าน ผักพายถูกนำมาใช้เพื่อช่วยขับลมในกระเพาะอาหาร
- บำรุงผิวพรรณ
- วิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระอาจมีส่วนช่วยในการบำรุงผิวพรรณ
วิธีการปลูก
- การเตรียมพื้นที่
- แปลงดิน เลือกพื้นที่ที่มีความชื้นสูง สามารถกักเก็บน้ำได้ดี อาจทำแปลงยกสูงเล็กน้อยเพื่อควบคุมความชื้น
- กระถาง เลือกกระถางที่มีรูระบายน้ำ แต่สามารถกักเก็บความชื้นได้ดี หรืออาจใช้กระถางที่มีจานรองใส่น้ำไว้
- การขยายพันธุ์
- การปักชำ เป็นวิธีที่นิยมที่สุด โดยตัดส่วนของลำต้นที่มีข้อ นำไปปักชำในดินที่ชื้นแฉะ หรือในน้ำ
- การเพาะเมล็ด สามารถเพาะเมล็ดได้ แต่ไม่นิยมเท่าการปักชำ
- การปลูก
- แปลงดิน ปักชำกิ่งผักพายลงในดินที่เตรียมไว้ รดน้ำให้ชุ่ม ระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 10-15 เซนติเมตร
- กระถาง ปักชำกิ่งผักพายลงในกระถางที่ใส่ดินปลูก รดน้ำให้ชุ่ม
- การให้น้ำ
- ผักพายต้องการความชื้นสูง ควรรดน้ำอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ดินชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา หากปลูกในกระถางที่มีจานรองน้ำ ควรเติมน้ำในจานรองอย่างสม่ำเสมอ
- แสงแดด
- ผักพายชอบแสงแดดเต็มที่ถึงร่มรำไร หากได้รับแสงแดดเต็มที่จะมีกลิ่นหอมมากขึ้น
- การดูแลรักษา
- กำจัดวัชพืชที่ขึ้นมารบกวน และอาจมีการพรวนดินเบาๆ เพื่อให้ดินร่วนซุย
- การเก็บเกี่ยว
- สามารถเก็บเกี่ยวได้เมื่อต้นมีขนาดพอสมควร โดยการเด็ดหรือตัดส่วนยอดและใบ ควรเหลือส่วนโคนไว้เพื่อให้แตกกิ่งใหม่ได้ การเก็บเกี่ยวอย่างสม่ำเสมอจะช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโต