เมล็ดพันธุ์ มะขามเปรี้ยว

30 ฿

  • จำนวน 20 เมล็ด
  • ผลดิบและสุกใช้ปรุงรสอาหารให้มีรสเปรี้ยว เช่น ต้มยำ ส้มตำ แกงส้ม น้ำพริก
  • ใบอ่อนและดอกใช้รับประทานเป็นผักสดหรือนำมาปรุงอาหาร เช่น แกง
  • เปลือกต้นใช้ต้มดื่มแก้อาการท้องเสีย
  • เนื้อในฝักเป็นยาระบายอ่อนๆ ช่วยบรรเทาอาการท้องผูก ขับเสมหะ บรรเทาอาการไอ

เมล็ดพันธุ์ มะขามเปรี้ยว 20 เมล็ด

มะขามเปรี้ยว (ชื่อวิทยาศาสตร์: Tamarindus indica) เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงใหญ่ มีถิ่นกำเนิดในทวีปแอฟริกา แต่มีการนำเข้ามาปลูกและแพร่หลายในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วยครับ จัดอยู่ในวงศ์ถั่ว (Fabaceae)

คุณสมบัติ

  • ลำต้น
    • สูงประมาณ 15-25 เมตร เรือนยอดเป็นพุ่มกลมหรือรูปไข่ เปลือกต้นสีน้ำตาลแตกเป็นร่องตามยาว
  • ใบ
    • เป็นใบประกอบแบบขนนกสองชั้น มีใบย่อยขนาดเล็กจำนวนมาก ใบมีสีเขียวอ่อน เมื่ออ่อน และจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้ม
  • ดอก
    • ออกเป็นช่อตามปลายกิ่ง ดอกมีสีเหลืองอ่อน มีจุดประสีม่วงแดง กลีบดอกมี 5 กลีบ
  • ผล
    • เป็นฝักยาว โค้งเล็กน้อย เปลือกนอกสีน้ำตาลอมเทาเปราะ ภายในมีเนื้อสีน้ำตาลอมเปรี้ยวหุ้มเมล็ดสีดำเป็นมัน
  • รสชาติ
    • มีรสเปรี้ยวจัด ซึ่งเป็นลักษณะเด่น
  • สารสำคัญ
    • อุดมไปด้วยกรดทาร์ทาริก (Tartaric acid) ซึ่งเป็นกรดอินทรีย์ที่ให้รสเปรี้ยว นอกจากนี้ยังมีวิตามินซี วิตามินบี แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก และใยอาหาร
  • ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา
    • มีรายงานว่ามะขามเปรี้ยวมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ ช่วยขับเสมหะ บรรเทาอาการไอ ต้านอนุมูลอิสระ และอาจมีฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือด

ประโยชน์ของมะขามเปรี้ยว

  1. ทางอาหาร
    • ผลดิบและสุก ใช้ปรุงรสอาหารให้มีรสเปรี้ยว เช่น ต้มยำ ส้มตำ แกงส้ม น้ำพริก
    • เนื้อในฝัก นำมาทำน้ำมะขาม เครื่องดื่ม ขนมหวาน เช่น มะขามกวน มะขามแช่อิ่ม
    • ใบอ่อนและดอก ใช้รับประทานเป็นผักสดหรือนำมาปรุงอาหาร เช่น แกง
  2. ทางยา
    • เนื้อในฝัก เป็นยาระบายอ่อนๆ ช่วยบรรเทาอาการท้องผูก ขับเสมหะ บรรเทาอาการไอ
    • ใบ ใช้พอกฝี แก้อาการปวดเมื่อย
    • เปลือกต้น ใช้ต้มดื่มแก้อาการท้องเสีย
    • เมล็ด นำมาคั่วรับประทานเป็นยาถ่ายพยาธิ (ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้)
  3. อื่นๆ
    • เนื้อไม้ มีความแข็งแรง ทนทาน ใช้ในการก่อสร้าง ทำเครื่องเรือน
    • เปลือกและใบ ให้สีสำหรับย้อมผ้า

วิธีการปลูก

การปลูกมะขามเปรี้ยวสามารถทำได้หลายวิธี

  1. การเพาะเมล็ด เป็นวิธีที่ง่าย แต่ต้นที่ได้อาจมีความแปรปรวนทางพันธุกรรมและใช้เวลานานกว่าจะให้ผลผลิต
  2. การตอนกิ่ง เป็นวิธีที่นิยม เพราะได้ต้นที่มีลักษณะเหมือนต้นแม่ และให้ผลผลิตเร็วกว่าการเพาะเมล็ด
  3. การทาบกิ่ง เป็นอีกวิธีที่ช่วยให้ได้ต้นที่มีลักษณะดีและแข็งแรง
  4. การติดตา คล้ายกับการทาบกิ่ง แต่ใช้ส่วนของตามาเชื่อมกับต้นตอ

ขั้นตอนการปลูกโดยทั่วไป

  • การเตรียมดิน
    • มะขามเปรี้ยวชอบดินร่วนปนทราย ระบายน้ำได้ดี ควรไถพรวนดินและกำจัดวัชพืช
  • การเตรียมหลุมปลูก
    • ขุดหลุมขนาดประมาณ 50x50x50 เซนติเมตร รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก
  • การปลูก
    • นำต้นกล้าลงปลูก กลบดินให้มิดราก ยกเว้นส่วนโคนต้น รดน้ำให้ชุ่ม
  • การดูแลรักษา
    • การให้น้ำ ควรรดน้ำสม่ำเสมอในช่วงแรกที่ปลูก เมื่อต้นโตแล้วสามารถให้น้ำน้อยลงได้ แต่ควรรักษาความชื้นในดินในช่วงฤดูแล้ง
    • การใส่ปุ๋ย ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักปีละ 2-3 ครั้ง หรือใส่ปุ๋ยเคมีสูตรเสมอ เช่น 15-15-15 ในปริมาณที่เหมาะสมในช่วงที่ต้นยังเล็ก เมื่อต้นโตและให้ผลผลิตแล้ว อาจเปลี่ยนเป็นปุ๋ยที่มีโพแทสเซียมสูงขึ้นเพื่อช่วยในการติดผล
    • การกำจัดวัชพืช ควรกำจัดวัชพืชรอบโคนต้นอย่างสม่ำเสมอ
    • การตัดแต่งกิ่ง ตัดแต่งกิ่งที่แห้ง เป็นโรค หรือกิ่งที่แน่นทึบเกินไป เพื่อให้ทรงพุ่มโปร่ง แสงแดดส่องถึง และสะดวกในการเก็บเกี่ยว
    • การป้องกันและกำจัดศัตรู มะขามเปรี้ยวค่อนข้างทนทานต่อศัตรูและโรค แต่ก็อาจพบปัญหาเรื่องหนอนเจาะฝักบ้าง ควรหมั่นสังเกตและป้องกันหากพบปัญหา