เมล็ดพันธุ์ บวบหอมบ้าน 30 เมล็ด
บวบหอมบ้าน (ชื่อวิทยาศาสตร์: Luffa acutangula (L.) Roxb.) หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า บวบหอม เป็นพืชผักชนิดหนึ่งในวงศ์ Cucurbitaceae (วงศ์แตง) มีลักษณะเป็นไม้เถาเลื้อย ลำต้นมีมือเกาะสำหรับยึดเหนี่ยว ผิวลำต้นเป็นเหลี่ยม ใบมีลักษณะเป็นแฉกคล้ายใบแตง แต่มีขนาดเล็กกว่า ผลมีลักษณะยาวเรียว เป็นเหลี่ยมตามยาว มีกลิ่นหอมอ่อนๆ เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ “บวบหอม”
คุณสมบัติ
- ลำต้น เป็นเถาเลื้อย มีมือเกาะ แข็งแรง สามารถเลื้อยได้ไกล
- ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกสลับ รูปฝ่ามือ มี 3-5 แฉก ขอบใบหยัก มีขนอ่อนๆ ปกคลุม
- ดอก เป็นดอกเดี่ยวหรือดอกช่อ ออกตามซอกใบ มีทั้งดอกตัวผู้และดอกตัวเมียอยู่บนต้นเดียวกัน ดอกมีสีเหลืองสด กลีบดอก 5 กลีบ
- ผล มีลักษณะยาวเรียว เป็นเหลี่ยมตามยาว 10 สัน ผิวผลสีเขียวอ่อน เมื่อแก่จัดผิวจะแข็งและเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ภายในมีเมล็ดแบนสีดำจำนวนมาก
ประโยชน์ของบวบหอมบ้าน
- กลิ่นหอม ผลดิบของบวบหอมมีกลิ่นหอมอ่อนๆ เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภค
- รสชาติหวาน เนื้อผลดิบมีรสชาติหวานเล็กน้อย เนื้อนุ่ม ฉ่ำน้ำ
- คุณค่าทางโภชนาการสูง บวบหอมเป็นแหล่งของวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด เช่น วิตามินเอ วิตามินซี แคลเซียม ฟอสฟอรัส และใยอาหาร
- เติบโตง่าย เป็นพืชที่ปลูกง่าย เจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศร้อนชื้น และให้ผลผลิตค่อนข้างเร็ว
- หลากหลายในการปรุงอาหาร สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู ทั้งผัด แกง ต้ม หรือลวกจิ้ม
วิธีการปลูก
-
การเตรียมดิน บวบหอมชอบดินร่วน ระบายน้ำได้ดี มีอินทรียวัตถุสูง ควรไถพรวนดินให้ลึกประมาณ 15-20 เซนติเมตร และตากดินทิ้งไว้ 2-3 วัน จากนั้นใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักคลุกเคล้าให้เข้ากัน ยกแปลงปลูกให้สูงประมาณ 20-30 เซนติเมตร กว้างประมาณ 1-1.5 เมตร เว้นทางเดินระหว่างแปลงประมาณ 50-80 เซนติเมตร
-
การเพาะเมล็ด
- นำเมล็ดบวบหอมมาแช่น้ำอุ่นทิ้งไว้ประมาณ 6-8 ชั่วโมง เพื่อกระตุ้นการงอก
- หยอดเมล็ดลงในหลุมที่เตรียมไว้ในแปลงปลูก หลุมละ 2-3 เมล็ด ลึกประมาณ 1-2 เซนติเมตร ระยะห่างระหว่างหลุมประมาณ 50-80 เซนติเมตร และระยะห่างระหว่างแถวประมาณ 1-1.5 เมตร
- กลบดินบางๆ รดน้ำให้ชุ่ม
-
การดูแลรักษา
- การให้น้ำ ควรรดน้ำอย่างสม่ำเสมอทุกวัน โดยเฉพาะในช่วงแรกของการเจริญเติบโตและช่วงติดผล ควรรดน้ำในช่วงเช้าหรือเย็น หลีกเลี่ยงการรดน้ำโดนใบโดยตรงเพื่อป้องกันโรครา
- การให้ปุ๋ย เมื่อต้นบวบอายุประมาณ 2-3 สัปดาห์ ให้ใส่ปุ๋ยยูเรีย (46-0-0) เล็กน้อยเพื่อบำรุงต้น จากนั้นเมื่อเริ่มออกดอกและติดผล ให้ใส่ปุ๋ยสูตรเสมอ (เช่น 15-15-15) หรือปุ๋ยที่มีโพแทสเซียมสูง เพื่อช่วยในการเจริญเติบโตของผล
- การทำค้าง เมื่อต้นบวบเริ่มเลื้อย ควรทำค้างให้ต้นเกาะ โดยใช้ไม้ไผ่หรือตาข่ายพลาสติกขึงให้แข็งแรง ค้างจะช่วยให้ต้นบวบเจริญเติบโตได้ดี รับแสงแดดทั่วถึง และผลไม่สัมผัสดินโดยตรง ทำให้ผลสวยงามและลดความเสี่ยงจากโรคและแมลง
- การเด็ดยอด เมื่อต้นบวบมีอายุประมาณ 30-40 วัน หรือมีข้อประมาณ 7-8 ข้อ ควรเด็ดยอดทิ้ง เพื่อกระตุ้นให้แตกแขนงและให้ผลผลิตมากขึ้น
- การกำจัดวัชพืช ควรกำจัดวัชพืชรอบๆ แปลงปลูกอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้แย่งอาหารและน้ำจากต้นบวบ
- การป้องกันและกำจัดโรคแมลง บวบหอมอาจพบปัญหาโรคราน้ำค้าง โรคใบจุด และแมลง เช่น หนอนเจาะผล แมลงหวี่ขาว ควรสังเกตอาการและป้องกันกำจัดตามความเหมาะสม อาจใช้สารชีวภัณฑ์หรือสารเคมีตามคำแนะนำ
-
การเก็บเกี่ยว บวบหอมจะเริ่มให้ผลผลิตหลังจากปลูกประมาณ 45-60 วัน สามารถเก็บเกี่ยวผลดิบได้เมื่อผลมีขนาดพอเหมาะ ผิวสีเขียวสด และยังมีความอ่อนนุ่ม ควรเก็บเกี่ยวอย่างสม่ำเสมอเพื่อกระตุ้นให้ต้นออกดอกและติดผลต่อไป