เมล็ดพันธุ์ บวบหอมยาว 30 เมล็ด
บวบหอมยาว (ชื่อวิทยาศาสตร์: Luffa cylindrica (L.) M.Roem.) เป็นไม้เถาเลื้อยในวงศ์ Cucurbitaceae (วงศ์เดียวกับแตงกวา ฟักทอง และบวบเหลี่ยม) มีลักษณะเด่นคือผลจะมีรูปร่างทรงกระบอกยาวมาก บางสายพันธุ์อาจยาวได้ถึง 1-2 เมตร ผิวผลเรียบ มีสีเขียว เมื่อผลอ่อนจะมีเนื้อนุ่ม มีกลิ่นหอมอ่อนๆ เป็นเอกลักษณ์ นิยมนำมาประกอบอาหารหลากหลายเมนู เช่น ผัด แกง ต้ม หรือใส่ในซุป เมื่อผลแก่และแห้ง จะมีเส้นใยเหนียวคล้ายฟองน้ำ สามารถนำมาใช้ขัดตัวหรือล้างจานได้เช่นเดียวกับบวบพวง (ซึ่งเป็นบวบชนิดเดียวกัน)
คุณสมบัติ
- ผลอ่อน (สำหรับบริโภค)
- มีน้ำมาก ให้ความสดชื่น
- มีใยอาหาร ช่วยในการขับถ่าย
- มีวิตามินและแร่ธาตุ เช่น วิตามินซี แคลเซียม และฟอสฟอรัส ในปริมาณที่พอสมควร
- มีแคลอรี่ต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
- มีกลิ่นหอม เป็นลักษณะเด่นที่ทำให้บวบชนิดนี้เป็นที่นิยม
- ผลแก่ (สำหรับใช้สอย)
- มีเส้นใยเหนียว ทนทานต่อการขัดถู
- ดูดซับน้ำได้ดี เหมาะสำหรับใช้เป็นฟองน้ำ
- เป็นวัสดุจากธรรมชาติ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ประโยชน์ของบวบหอมยาว
- ด้านอาหาร (ผลอ่อน)
- เป็นแหล่งผัก สามารถนำมาปรุงอาหารได้หลากหลาย เช่น ผัด แกง ต้ม หรือใส่ในซุป
- ให้ความสดชื่น มีน้ำมาก เหมาะสำหรับรับประทานในอากาศร้อน
- ช่วยในการขับถ่าย มีใยอาหาร
- มีกลิ่นหอมชวนรับประทาน เป็นเอกลักษณ์ของบวบหอม
- ด้านใช้สอย (ผลแก่)
- ใช้ขัดผิว ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ทำให้ผิวสะอาดและสดใส
- ใช้ล้างจาน เป็นฟองน้ำธรรมชาติที่สามารถใช้ล้างจานและเครื่องครัวได้
- ใช้ทำความสะอาดบ้าน สามารถนำมาขัดถูสิ่งสกปรกต่างๆ ได้
- ใช้ในงานฝีมือ เส้นใยบวบสามารถนำมาประดิษฐ์สิ่งของต่างๆ ได้ เช่น ของตกแต่ง
- ด้านอื่นๆ
- เป็นไม้ประดับ ดอกสีเหลืองสวยงามและเถาเลื้อยสามารถใช้ตกแต่งสวนได้
- มีสรรพคุณทางยาพื้นบ้าน บางส่วนของบวบหอมถูกนำมาใช้ในยาแผนโบราณ เช่น ช่วยขับปัสสาวะ หรือแก้ร้อนใน (ควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนนำมาใช้)
วิธีการปลูก
-
การเตรียมดิน
- เลือกพื้นที่ปลูกที่มีแสงแดดส่องถึงอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน
- ไถพรวนดินให้ลึกประมาณ 20-30 เซนติเมตร กำจัดวัชพืชออกให้หมด
- ปรับปรุงดินด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในอัตราที่เหมาะสม
- ขุดหลุมปลูกให้มีระยะห่างระหว่างหลุมประมาณ 1-1.5 เมตร และระหว่างแถวประมาณ 1.5-2 เมตร
-
การเพาะเมล็ด
- นำเมล็ดบวบหอมยาวแช่น้ำอุ่นทิ้งไว้ประมาณ 6-8 ชั่วโมง เพื่อกระตุ้นการงอก
- หยอดเมล็ดลงในหลุมปลูกประมาณ 2-3 เมล็ดต่อหลุม กลบดินบางๆ ประมาณ 1-2 เซนติเมตร
- รดน้ำให้ชุ่ม
-
การดูแลรักษา
- การให้น้ำ รดน้ำสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงแรกของการเจริญเติบโตและช่วงติดผล ควรรักษาความชื้นในดินให้สม่ำเสมอ
- การใส่ปุ๋ย หลังจากต้นกล้ามีใบจริง 3-4 ใบ สามารถใส่ปุ๋ยที่มีธาตุไนโตรเจนสูงเพื่อบำรุงต้น และเมื่อเริ่มออกดอกและติดผล ให้เปลี่ยนเป็นปุ๋ยที่มีธาตุฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมสูงขึ้น
- การทำค้างหรือร้าน เนื่องจากผลบวบหอมยาวมีขนาดใหญ่และน้ำหนักมาก ควรรทำค้างหรือร้านที่แข็งแรงและมีพื้นที่เพียงพอให้เถาเลื้อยและรับน้ำหนักผลได้ดี อาจใช้ไม้ไผ่ขนาดใหญ่ ตาข่าย หรือลวดขึงที่มั่นคง
- การกำจัดวัชพืช ควรกำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอ
- การช่วยผสมเกสร (หากจำเป็น) หากติดผลไม่ดี อาจต้องช่วยผสมเกสรด้วยมือในช่วงเช้าที่ดอกบาน
-
การเก็บเกี่ยว
- ผลอ่อน (สำหรับบริโภค) สามารถเก็บเกี่ยวได้เมื่อผลมีขนาดตามต้องการ (ความยาวประมาณ 50-100 เซนติเมตร หรือตามสายพันธุ์) และยังอ่อนนุ่ม ผิวสีเขียวสด
- ผลแก่ (สำหรับใช้สอย) ปล่อยให้ผลแก่จัด ผิวเป็นสีเหลืองหรือน้ำตาล และแห้ง เมื่อเขย่าจะมีเสียงเมล็ดข้างใน จากนั้นจึงเก็บเกี่ยว นำมาตากแดดให้แห้งสนิท แล้วนำไปแช่น้ำเพื่อลอกเปลือกและเนื้อออก จะได้เส้นใยบวบสำหรับใช้สอย