เมล็ดพันธุ์ พยูงไทย 50 เมล็ด
พยูงไทย (ชื่อวิทยาศาสตร์: Dalbergia cochinchinensis Pierre ex Laness.) เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงใหญ่ ในวงศ์ Fabaceae (วงศ์ถั่ว) มีถิ่นกำเนิดในภูมิภาคอินโดจีน ได้แก่ ไทย ลาว กัมพูชา และเวียดนาม จัดเป็นไม้ที่มีค่าทางเศรษฐกิจสูงมาก เนื่องจากเนื้อไม้มีความแข็งแรง ทนทาน มีลวดลายสวยงาม และหายาก เป็นไม้หวงห้ามตามกฎหมายของไทย ลำต้นตรง เปลือกสีเทาเรียบหรือแตกเป็นร่องตื้น ๆ ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก ดอกออกเป็นช่อสีขาวนวลหรือชมพูอ่อน ฝักแบนยาว เมื่อแก่จะแห้งและไม่แตก ภายในมีเมล็ดรูปไตสีน้ำตาลเข้ม
คุณสมบัติ
- เนื้อไม้แข็งแรงและทนทานมาก เป็นไม้เนื้อแข็งที่มีความแข็งแรง ทนทานต่อปลวก มอด และสภาพอากาศได้ดีเยี่ยม ได้รับการยกย่องว่าเป็นไม้ที่มีคุณภาพสูง
- ลวดลายสวยงาม เนื้อไม้มีสีแดงอมม่วงถึงแดงเลือดหมู มีลวดลายเส้นสีดำแทรกสวยงาม เป็นที่ต้องการอย่างมากในตลาดไม้
- การเจริญเติบโตช้า เป็นไม้ที่เจริญเติบโตค่อนข้างช้า
- ทนทานต่อสภาพแวดล้อม สามารถขึ้นได้ดีในดินหลายชนิด แต่ชอบดินร่วนปนทรายที่ระบายน้ำดี ทนแล้งได้ดีพอสมควร
- ทรงพุ่มสวยงาม มีทรงพุ่มโปร่ง ให้ร่มเงาได้ดี
- ดอกหอมอ่อน ๆ มีดอกสีขาวนวลหรือชมพูอ่อน มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ในช่วงที่ออกดอก
ประโยชน์ของพยูงไทย
- ใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ เนื้อไม้ที่มีคุณภาพสูง ลวดลายสวยงาม และความทนทาน ทำให้เป็นที่นิยมอย่างมากในการนำมาทำเฟอร์นิเจอร์หรูหรา เครื่องเรือน และของตกแต่งบ้านที่มีราคาสูง
- ใช้ในการก่อสร้าง ความแข็งแรงและความทนทานของเนื้อไม้ทำให้เหมาะสำหรับการนำมาใช้ในงานก่อสร้างบางประเภท เช่น เสา คาน พื้น ที่ต้องการความแข็งแรงเป็นพิเศษ
- ใช้ทำเครื่องดนตรี เนื้อไม้พะยูงมีคุณสมบัติทางเสียงที่ดี จึงนิยมนำมาใช้ทำเครื่องดนตรี เช่น กีตาร์ ไวโอลิน และเครื่องดนตรีไทยบางชนิด
- ใช้ทำเครื่องมือและอุปกรณ์ ความแข็งแรงทำให้เหมาะสำหรับการทำด้ามเครื่องมือ เครื่องมือช่าง และอุปกรณ์ต่าง ๆ
- เป็นไม้ประดับ รูปทรงของต้นและดอกที่สวยงามทำให้พะยูงเป็นไม้ประดับที่มีคุณค่า
- ประโยชน์ทางนิเวศวิทยา เป็นไม้ป่าที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศ ช่วยรักษาความสมดุลของธรรมชาติและเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า
วิธีการปลูก
เนื่องจากพะยูงไทยเป็นไม้หวงห้ามและมีการซื้อขายอย่างผิดกฎหมาย การปลูกจึงควรดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมายและมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน เช่น การอนุรักษ์ การปลูกเพื่อเศรษฐกิจภายใต้การควบคุม หรือการปลูกเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว
- การเตรียมดิน เลือกพื้นที่ปลูกที่มีดินร่วน ระบายน้ำได้ดี มีความลึกของหน้าดินพอสมควร และมีอินทรียวัตถุ หากดินไม่ดีควรปรับปรุงด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก
- การขยายพันธุ์ ส่วนใหญ่ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด
- การเก็บเมล็ด เก็บฝักที่แก่จัดและแห้ง นำเมล็ดออกจากฝัก
- การเพาะกล้า
- เพาะในถุงเพาะชำ นำเมล็ดที่สมบูรณ์มาเพาะในถุงเพาะชำที่บรรจุดินผสม (ดินร่วน ปุ๋ยคอก แกลบดำ อัตราส่วน 2:1:1) รดน้ำให้ชุ่ม วางไว้ในที่ร่มรำไร เมื่อต้นกล้ามีอายุประมาณ 6-12 เดือน หรือมีความสูงประมาณ 30-50 เซนติเมตร จึงย้ายลงแปลงปลูก
- เพาะในแปลงเพาะ หว่านเมล็ดในแปลงเพาะที่เตรียมไว้ เมื่อต้นกล้าแข็งแรงและมีขนาดเหมาะสมจึงย้ายไปปลูกในแปลง
- การเตรียมหลุมปลูก ขุดหลุมให้มีขนาดกว้าง ยาว และลึกประมาณ 50x50x50 เซนติเมตร หรือใหญ่กว่านั้น ขึ้นอยู่กับขนาดของต้นกล้า รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักผสมกับดิน
- ระยะปลูก ระยะปลูกขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการปลูก หากปลูกเพื่อผลิตไม้คุณภาพ อาจใช้ระยะห่างระหว่างต้น 8-12 เมตร และระยะห่างระหว่างแถว 10-15 เมตร หากปลูกเพื่ออนุรักษ์หรือปลูกร่วมกับพืชอื่น อาจใช้ระยะที่ถี่กว่า
- การปลูก นำต้นกล้าลงปลูกในหลุม กลบดินให้มิดโคนต้น กดดินรอบโคนต้นเบา ๆ และรดน้ำให้ชุ่ม
- การให้น้ำ ในช่วงแรกของการปลูก ควรรดน้ำอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ต้นกล้าตั้งตัวได้ หลังจากนั้นสามารถให้น้ำตามความเหมาะสม โดยสังเกตจากความชื้นของดิน โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง
- การให้ปุ๋ย ในช่วง 1-2 ปีแรก อาจให้ปุ๋ยอินทรีย์ เช่น ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก ปีละ 1-2 ครั้ง เพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโต หลังจากนั้นไม่จำเป็นต้องให้ปุ๋ยมากนัก
- การกำจัดวัชพืช ควรกำจัดวัชพืชรอบโคนต้นอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงที่ต้นยังเล็ก เพื่อไม่ให้วัชพืชแย่งอาหารและแสงแดด
- การดูแลรักษา อาจมีการค้ำยันต้นกล้าในช่วงแรกเพื่อป้องกันลมโยก และดูแลป้องกันโรคและแมลงที่อาจเข้าทำลาย เนื่องจากพะยูงมีการเจริญเติบโตช้า จึงต้องมีการดูแลรักษาในระยะยาว