เมล็ดพันธุ์ มะเขือเทศสีดา

30 ฿

  • จำนวน 50 เมล็ด
  • มีไลโคปีน (Lycopene) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ ช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งบางชนิด โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก
  • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
  • วิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระในมะเขือเทศช่วยให้ผิวพรรณสดใส ชุ่มชื้น และลดเลือนริ้วรอย
  • มีใยอาหารช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย ป้องกันอาการท้องผูก

เมล็ดพันธุ์ มะเขือเทศสีดา 50 เมล็ด

มะเขือเทศสีดา (ชื่อวิทยาศาสตร์: Solanum lycopersicum) เป็นมะเขือเทศขนาดกลาง มีลักษณะผลทรงกลมรีเล็กน้อย หรือคล้ายรูปไข่ มีขนาดเล็กกว่ามะเขือเทศทั่วไปแต่ใหญ่กว่ามะเขือเทศเชอร์รี่ มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว เนื้อแน่น และมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ เป็นมะเขือเทศที่นิยมรับประทานสดในสลัด ยำ หรือนำไปประกอบอาหารต่างๆ ที่ต้องการรสชาติและกลิ่นหอมของมะเขือเทศ

คุณสมบัติ

  • ขนาดกลาง
    • ผลมีขนาดปานกลาง ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป
  • รูปทรงรีเล็กน้อย
    • มีลักษณะผลทรงกลมรีเล็กน้อย หรือคล้ายรูปไข่
  • รสชาติหวานอมเปรี้ยว
    • มีรสชาติที่กลมกล่อม หวานอมเปรี้ยวลงตัว
  • เนื้อแน่น
    • มีเนื้อค่อนข้างแน่น ไม่เละง่าย
  • กลิ่นหอม
    • มีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ ชวนรับประทาน
  • สีแดงสด
    • เมื่อสุกเต็มที่จะมีสีแดงสดใส
  • ให้ผลผลิตดก
    • โดยทั่วไปแล้วมะเขือเทศสีดาจะให้ผลผลิตค่อนข้างดก

ประโยชน์ของมะเขือเทศสีดา

  • แหล่งของวิตามิน
    • มีวิตามินซีสูง ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน วิตามินเอช่วยบำรุงสายตา และวิตามินเคช่วยในการแข็งตัวของเลือด
  • สารต้านอนุมูลอิสระ
    • มีไลโคปีน (Lycopene) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ ช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งบางชนิด โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก
  • บำรุงผิวพรรณ
    • วิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระในมะเขือเทศช่วยให้ผิวพรรณสดใส ชุ่มชื้น และลดเลือนริ้วรอย
  • ดีต่อสุขภาพหัวใจ
    • โพแทสเซียมในมะเขือเทศช่วยควบคุมระดับความดันโลหิต และใยอาหารช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล
  • ช่วยในการขับถ่าย
    • มีใยอาหารช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย ป้องกันอาการท้องผูก
  • มีแคลอรี่ต่ำ
    • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก

วิธีการปลูก

  • การเพาะเมล็ด
    • เตรียมดินเพาะกล้า เลือกดินร่วน ระบายน้ำได้ดี อาจผสมปุ๋ยหมักเล็กน้อย
    • หว่านเมล็ดมะเขือเทศสีดาลงในดิน กลบดินบางๆ
    • รดน้ำให้ชุ่ม วางในที่ร่มรำไรจนเมล็ดงอก
    • เมื่อต้นกล้ามีใบจริง 2-3 ใบ ให้ย้ายลงกระถางเล็ก หรือถาดหลุมเพื่อเลี้ยงให้แข็งแรง
  • การเตรียมดินและสถานที่ปลูก
    • เลือกสถานที่ปลูกที่มีแสงแดดส่องถึงอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน
    • เตรียมดินปลูกให้ร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี ขุดหลุมปลูกให้มีขนาดเหมาะสม
    • ผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงในดินปลูกเพื่อเพิ่มธาตุอาหาร
  • การย้ายกล้า
    • เมื่อต้นกล้ามีอายุประมาณ 4-6 สัปดาห์ หรือมีความสูงประมาณ 15-20 เซนติเมตร และมีใบจริง 4-6 ใบ ให้ย้ายลงแปลงหรือกระถางที่เตรียมไว้
    • เว้นระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 50-70 เซนติเมตร และระหว่างแถวประมาณ 70-90 เซนติเมตร
  • การดูแลรักษา
    • การรดน้ำ: รดน้ำสม่ำเสมอ วันละ 1-2 ครั้ง ในช่วงเช้าหรือเย็น รดบริเวณโคนต้น หลีกเลี่ยงการรดน้ำโดนใบโดยตรง
    • การให้ปุ๋ย: ให้ปุ๋ยที่มีธาตุอาหารครบถ้วน เช่น ปุ๋ยสูตรเสมอ หรือปุ๋ยอินทรีย์ ทุก 3-4 สัปดาห์ เมื่อเริ่มติดผล ให้เพิ่มปุ๋ยที่มีโพแทสเซียมสูงเพื่อช่วยให้ผลมีคุณภาพดี
    • การทำค้าง: มะเขือเทศสีดาส่วนใหญ่เป็นชนิดเลื้อย จึงจำเป็นต้องทำค้างเพื่อให้ลำต้นเลื้อยและรับน้ำหนักผลได้ดี อาจใช้ไม้ไผ่ เชือก หรือตาข่าย
    • การเด็ดยอด: เด็ดยอดแขนงที่งอกออกมาจากลำต้นหลัก เพื่อให้ต้นเน้นการเจริญเติบโตของผล และช่วยให้ทรงพุ่มโปร่ง อากาศถ่ายเทได้ดี ลดความเสี่ยงของการเกิดโรค
    • การป้องกันและกำจัดโรคแมลง ตรวจสอบต้นอย่างสม่ำเสมอ หากพบโรคหรือแมลงให้รีบกำจัดด้วยวิธีที่เหมาะสม เช่น การใช้สารชีวภัณฑ์ หรือสารเคมีที่ปลอดภัย
  • การเก็บเกี่ยว
    • มะเขือเทศสีดาจะเริ่มให้ผลผลิตหลังจากย้ายปลูกประมาณ 60-80 วัน ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และการดูแล
    • เก็บเกี่ยวผลที่สุกเต็มที่ ซึ่งจะมีสีแดงสด ผิวเต่งตึง และเมื่อสัมผัสจะรู้สึกนิ่มเล็กน้อย