เมล็ดพันธุ์ ถั่วนิ้วนางแดง

30 ฿

  • จำนวน 50 เมล็ด
  • รากและใบใช้ในยาพื้นบ้านเพื่อรักษาอาการบางอย่าง เช่น อาการบวม
  • เมล็ดที่มีสีสันสวยงามถูกนำมาใช้ทำลูกปัด สร้อยคอ หรือเครื่องประดับอื่นๆ
  • ทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้งและดินที่ไม่สมบูรณ์นัก
  • เมล็ดมีสารพิษร้ายแรงที่ชื่อว่า “อะบริน” (Abrin)

เมล็ดพันธุ์ ถั่วนิ้วนางแดง 50 เมล็ด

ถั่วนิ้วนางแดง (ชื่อวิทยาศาสตร์: Abrus precatorius) เป็นพืชไม้เลื้อยในวงศ์ Fabaceae (วงศ์ถั่ว) ที่มีลักษณะเด่นคือเมล็ดสีแดงสดใสมีจุดสีดำเล็กน้อยที่ขั้วเมล็ด เมล็ดของถั่วนิ้วนางแดงมีความสวยงามคล้ายลูกปัด จึงถูกนำไปใช้ทำเครื่องประดับต่างๆ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ต้องทราบคือ เมล็ดของถั่วนิ้วนางแดงมีพิษร้ายแรง หากรับประทานเข้าไปจะทำให้เกิดอาการเป็นพิษรุนแรงถึงแก่ชีวิตได้

คุณสมบัติ

  • ลักษณะทางพฤกษศาสตร์:
    • ลำต้น: เป็นไม้เลื้อยพัน มีอายุหลายปี สามารถเลื้อยปกคลุมต้นไม้อื่นได้
    • ใบ: เป็นใบประกอบแบบขนนก มีใบย่อยรูปไข่ขนาดเล็กจำนวนมาก
    • ดอก: มีขนาดเล็ก สีชมพู ม่วง หรือขาว ออกเป็นช่อที่ซอกใบ
    • ฝัก: มีลักษณะเป็นฝักแบน รูปรี เมื่อแก่จะแตกออก
    • เมล็ด: มีขนาดเล็ก รูปทรงกลมรี ผิวเรียบเป็นมัน มีสีแดงสดใสและมีจุดสีดำเล็กน้อยที่ขั้วเมล็ด
  • สารพิษ: เมล็ดมีสารพิษร้ายแรงที่ชื่อว่า “อะบริน” (Abrin) ซึ่งเป็นโปรตีนที่มีฤทธิ์ยับยั้งการสังเคราะห์โปรตีนในเซลล์ ทำให้เซลล์ตาย
  • ความทนทาน: เป็นพืชที่ค่อนข้างทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้งและดินที่ไม่สมบูรณ์นัก

ประโยช์ของถั่วนิ้วนางแดง

เนื่องจากความเป็นพิษร้ายแรงของเมล็ด ถั่วนิ้วนางแดงจึงไม่มีประโยชน์ในด้านอาหารหรือการบริโภคโดยตรง อย่างไรก็ตาม มีการนำส่วนต่างๆ ของพืชชนิดนี้ไปใช้ประโยชน์ในบางด้านดังนี้

  1. การแพทย์พื้นบ้าน (ด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง) ในบางวัฒนธรรม มีการนำส่วนต่างๆ ของรากและใบมาใช้ในยาพื้นบ้านเพื่อรักษาอาการบางอย่าง เช่น อาการบวม หรือใช้เป็นยาขับประจำเดือน แต่ต้องใช้อย่างระมัดระวังและโดยผู้ที่มีความรู้เท่านั้น เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงต่อการได้รับพิษ
  2. เครื่องประดับ เมล็ดที่มีสีสันสวยงามถูกนำมาใช้ทำลูกปัด สร้อยคอ หรือเครื่องประดับอื่นๆ แต่ต้องมีการเคลือบเงาอย่างดีเพื่อป้องกันการสัมผัสสารพิษโดยตรง และต้องเก็บให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
  3. การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ สารอะบรินถูกนำมาศึกษาในห้องปฏิบัติการเพื่อทำความเข้าใจกลไกการออกฤทธิ์ของสารพิษ และอาจมีศักยภาพในการนำไปใช้ในทางการแพทย์ เช่น ในการรักษามะเร็งบางชนิด แต่ยังอยู่ในขั้นตอนการวิจัย
  4. เป็นวัชพืช ในบางพื้นที่ ถั่วนิ้วนางแดงถือเป็นวัชพืชที่รุกราน เนื่องจากสามารถเลื้อยปกคลุมพืชอื่นๆ และเจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย

คำเตือน: เมล็ดของถั่วนิ้วนางแดงเป็นพิษร้ายแรงมาก การสัมผัสหรือรับประทานเมล็ดอาจทำให้เกิดอาการระคายเคือง ผื่นแดง บวมพอง หากรับประทานเข้าไปจะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องอย่างรุนแรง ท้องเสีย หัวใจเต้นผิดปกติ ชัก และอาจถึงแก่ชีวิตได้ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสและเก็บให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยงโดยเด็ดขาด

วิธีการปลูก

  1. การเตรียมดิน
    • ถั่วนิ้วนางแดงสามารถเจริญเติบโตได้ในดินหลากหลายชนิด แต่ดินร่วนปนทรายที่มีการระบายน้ำดีจะเหมาะสมที่สุด
    • ควรไถพรวนดินและกำจัดวัชพืชออกให้หมด
  2. การเพาะเมล็ด
    • เนื่องจากเปลือกเมล็ดแข็ง อาจต้องทำการกะเทาะเปลือกเล็กน้อย หรือแช่เมล็ดในน้ำอุ่นเพื่อช่วยในการงอก
    • หยอดเมล็ดลงในดินลึกประมาณ 1-2 เซนติเมตร โดยมีระยะห่างระหว่างต้นและแถวที่เหมาะสม (ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการปลูก)
    • รดน้ำให้ชุ่ม
  3. การดูแลรักษา
    • การให้น้ำ รดน้ำอย่างสม่ำเสมอในช่วงแรกของการเจริญเติบโต เมื่อต้นโตขึ้นสามารถทนต่อความแห้งแล้งได้ดีขึ้น
    • การทำค้าง เนื่องจากเป็นไม้เลื้อย ควรทำค้างหรือหาวัสดุให้ต้นเลื้อยเกาะ
    • การกำจัดวัชพืช ควรกำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอ
    • การให้ปุ๋ย ไม่จำเป็นต้องให้ปุ๋ยมากนัก แต่หากดินไม่สมบูรณ์อาจให้ปุ๋ยอินทรีย์เล็กน้อย
  4. ข้อควรระวังอย่างยิ่ง
    • สวมถุงมือและอุปกรณ์ป้องกันเมื่อจัดการกับเมล็ดและต้น
    • ป้องกันไม่ให้เด็กและสัตว์เลี้ยงเข้าใกล้บริเวณที่ปลูก
    • เมื่อไม่ต้องการปลูกแล้ว ควรทำลายต้นและเมล็ดอย่างปลอดภัย เช่น การเผาในที่มิดชิด หรือฝังกลบในที่ที่ไม่มีใครขุดคุ้ยได้