เมล็ดพันธุ์ ถั่วนิ้วนางแดง 50 เมล็ด
ถั่วนิ้วนางแดง (ชื่อวิทยาศาสตร์: Abrus precatorius) เป็นพืชไม้เลื้อยในวงศ์ Fabaceae (วงศ์ถั่ว) ที่มีลักษณะเด่นคือเมล็ดสีแดงสดใสมีจุดสีดำเล็กน้อยที่ขั้วเมล็ด เมล็ดของถั่วนิ้วนางแดงมีความสวยงามคล้ายลูกปัด จึงถูกนำไปใช้ทำเครื่องประดับต่างๆ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ต้องทราบคือ เมล็ดของถั่วนิ้วนางแดงมีพิษร้ายแรง หากรับประทานเข้าไปจะทำให้เกิดอาการเป็นพิษรุนแรงถึงแก่ชีวิตได้
คุณสมบัติ
- ลักษณะทางพฤกษศาสตร์:
- ลำต้น: เป็นไม้เลื้อยพัน มีอายุหลายปี สามารถเลื้อยปกคลุมต้นไม้อื่นได้
- ใบ: เป็นใบประกอบแบบขนนก มีใบย่อยรูปไข่ขนาดเล็กจำนวนมาก
- ดอก: มีขนาดเล็ก สีชมพู ม่วง หรือขาว ออกเป็นช่อที่ซอกใบ
- ฝัก: มีลักษณะเป็นฝักแบน รูปรี เมื่อแก่จะแตกออก
- เมล็ด: มีขนาดเล็ก รูปทรงกลมรี ผิวเรียบเป็นมัน มีสีแดงสดใสและมีจุดสีดำเล็กน้อยที่ขั้วเมล็ด
- สารพิษ: เมล็ดมีสารพิษร้ายแรงที่ชื่อว่า “อะบริน” (Abrin) ซึ่งเป็นโปรตีนที่มีฤทธิ์ยับยั้งการสังเคราะห์โปรตีนในเซลล์ ทำให้เซลล์ตาย
- ความทนทาน: เป็นพืชที่ค่อนข้างทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้งและดินที่ไม่สมบูรณ์นัก
ประโยช์ของถั่วนิ้วนางแดง
เนื่องจากความเป็นพิษร้ายแรงของเมล็ด ถั่วนิ้วนางแดงจึงไม่มีประโยชน์ในด้านอาหารหรือการบริโภคโดยตรง อย่างไรก็ตาม มีการนำส่วนต่างๆ ของพืชชนิดนี้ไปใช้ประโยชน์ในบางด้านดังนี้
- การแพทย์พื้นบ้าน (ด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง) ในบางวัฒนธรรม มีการนำส่วนต่างๆ ของรากและใบมาใช้ในยาพื้นบ้านเพื่อรักษาอาการบางอย่าง เช่น อาการบวม หรือใช้เป็นยาขับประจำเดือน แต่ต้องใช้อย่างระมัดระวังและโดยผู้ที่มีความรู้เท่านั้น เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงต่อการได้รับพิษ
- เครื่องประดับ เมล็ดที่มีสีสันสวยงามถูกนำมาใช้ทำลูกปัด สร้อยคอ หรือเครื่องประดับอื่นๆ แต่ต้องมีการเคลือบเงาอย่างดีเพื่อป้องกันการสัมผัสสารพิษโดยตรง และต้องเก็บให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
- การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ สารอะบรินถูกนำมาศึกษาในห้องปฏิบัติการเพื่อทำความเข้าใจกลไกการออกฤทธิ์ของสารพิษ และอาจมีศักยภาพในการนำไปใช้ในทางการแพทย์ เช่น ในการรักษามะเร็งบางชนิด แต่ยังอยู่ในขั้นตอนการวิจัย
- เป็นวัชพืช ในบางพื้นที่ ถั่วนิ้วนางแดงถือเป็นวัชพืชที่รุกราน เนื่องจากสามารถเลื้อยปกคลุมพืชอื่นๆ และเจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย
คำเตือน: เมล็ดของถั่วนิ้วนางแดงเป็นพิษร้ายแรงมาก การสัมผัสหรือรับประทานเมล็ดอาจทำให้เกิดอาการระคายเคือง ผื่นแดง บวมพอง หากรับประทานเข้าไปจะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องอย่างรุนแรง ท้องเสีย หัวใจเต้นผิดปกติ ชัก และอาจถึงแก่ชีวิตได้ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสและเก็บให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยงโดยเด็ดขาด
วิธีการปลูก
- การเตรียมดิน
- ถั่วนิ้วนางแดงสามารถเจริญเติบโตได้ในดินหลากหลายชนิด แต่ดินร่วนปนทรายที่มีการระบายน้ำดีจะเหมาะสมที่สุด
- ควรไถพรวนดินและกำจัดวัชพืชออกให้หมด
- การเพาะเมล็ด
- เนื่องจากเปลือกเมล็ดแข็ง อาจต้องทำการกะเทาะเปลือกเล็กน้อย หรือแช่เมล็ดในน้ำอุ่นเพื่อช่วยในการงอก
- หยอดเมล็ดลงในดินลึกประมาณ 1-2 เซนติเมตร โดยมีระยะห่างระหว่างต้นและแถวที่เหมาะสม (ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการปลูก)
- รดน้ำให้ชุ่ม
- การดูแลรักษา
- การให้น้ำ รดน้ำอย่างสม่ำเสมอในช่วงแรกของการเจริญเติบโต เมื่อต้นโตขึ้นสามารถทนต่อความแห้งแล้งได้ดีขึ้น
- การทำค้าง เนื่องจากเป็นไม้เลื้อย ควรทำค้างหรือหาวัสดุให้ต้นเลื้อยเกาะ
- การกำจัดวัชพืช ควรกำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอ
- การให้ปุ๋ย ไม่จำเป็นต้องให้ปุ๋ยมากนัก แต่หากดินไม่สมบูรณ์อาจให้ปุ๋ยอินทรีย์เล็กน้อย
- ข้อควรระวังอย่างยิ่ง
- สวมถุงมือและอุปกรณ์ป้องกันเมื่อจัดการกับเมล็ดและต้น
- ป้องกันไม่ให้เด็กและสัตว์เลี้ยงเข้าใกล้บริเวณที่ปลูก
- เมื่อไม่ต้องการปลูกแล้ว ควรทำลายต้นและเมล็ดอย่างปลอดภัย เช่น การเผาในที่มิดชิด หรือฝังกลบในที่ที่ไม่มีใครขุดคุ้ยได้