เมล็ดพันธุ์ กวางตุ้งฮ่องเต้ม่วง

เมล็ดพันธุ์ กวางตุ้งฮ่องเต้ม่วง 200 เมล็ด

กวางตุ้งฮ่องเต้ม่วง (ชื่อวิทยาศาสตร์: Brassica rapa var. chinensis) เป็นพันธุ์หนึ่งของกวางตุ้งที่มีลักษณะใบสีม่วง หรือบางครั้งก็มีสีม่วงเข้มถึงสีเขียวผสมม่วง ซึ่งแตกต่างจากกวางตุ้งชนิดอื่น ๆ ที่มีสีเขียว ในการนำมาใช้ในอาหาร กวางตุ้งฮ่องเต้ม่วงมักจะถูกนำมาปรุงเป็นอาหารหลากหลายชนิด เช่น ผัด ต้ม ซุป หรือแม้แต่ใช้เป็นส่วนประกอบในสลัด

คุณสมบัติ

• วิตามินและแร่ธาตุ: กวางตุ้งฮ่องเต้ม่วงอุดมไปด้วยวิตามิน A, C, K, และกรดโฟลิก รวมถึงแร่ธาตุสำคัญต่าง ๆ เช่น แคลเซียม, โพแทสเซียม, และธาตุเหล็ก

• สารต้านอนุมูลอิสระ: กวางตุ้งฮ่องเต้ม่วงมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง โดยเฉพาะแอนโธไซยานิน (anthocyanins) ซึ่งเป็นสารที่ให้สีม่วงและช่วยปกป้องร่างกายจากการทำลายของอนุมูลอิสระ

• ไฟเบอร์: ผักนี้มีไฟเบอร์สูงซึ่งช่วยในการย่อยอาหารและลดอาการท้องผูก

• ไขมันต่ำ: กวางตุ้งฮ่องเต้ม่วงมีไขมันต่ำและแคลอรีต่ำ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก

ประโยชน์ของกวางตุ้งฮ่องเต้ม่วง

• บำรุงสายตา: วิตามิน A ในกวางตุ้งฮ่องเต้ม่วงช่วยบำรุงสายตาและป้องกันการเสื่อมของเซลล์ในดวงตา

• ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน: วิตามิน C ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายและป้องกันการติดเชื้อ

• ช่วยในการย่อยอาหาร: ไฟเบอร์ในกวางตุ้งฮ่องเต้ม่วงช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี ลดอาการท้องผูกและช่วยในการขับถ่าย

• ป้องกันการอักเสบ: สารแอนโธไซยานินในผักนี้ช่วยลดการอักเสบในร่างกายและบรรเทาอาการของโรคที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบ

• บำรุงกระดูกและฟัน: แคลเซียมและวิตามิน K ช่วยในการเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง

• ควบคุมความดันโลหิต: โพแทสเซียมในกวางตุ้งฮ่องเต้ม่วงช่วยปรับสมดุลความดันโลหิตในร่างกาย

วิธีการปลูก

• สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม: กวางตุ้งฮ่องเต้ม่วงชอบแสงแดดเต็มที่และอุณหภูมิที่เย็นถึงอบอุ่น (ประมาณ 15-25 องศาเซลเซียส) และเหมาะกับการปลูกในสภาพอากาศที่เย็นและชื้น

• ดิน: ควรปลูกในดินที่มีการระบายน้ำดีและมีธาตุอาหารเพียงพอ ดินร่วนซุยหรือดินที่มีการปรับปรุงด้วยปุ๋ยอินทรีย์จะดีที่สุด โดยมีค่า pH ระหว่าง 6.0-7.0

• การเพาะเมล็ด: เมล็ดกวางตุ้งฮ่องเต้ม่วงสามารถเพาะได้ในถาดเพาะหรือแปลงปลูก โดยหว่านเมล็ดให้ห่างกันประมาณ 2-3 ซม. หลังจากเมล็ดงอกแล้ว ให้นำต้นกล้าไปปลูกในแปลงที่มีระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 25-30 ซม.

• การดูแล: ควรรดน้ำให้เพียงพอและรักษาความชื้นในดินอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่ให้ดินแฉะเกินไป การใส่ปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยเคมีที่มีธาตุไนโตรเจนสูงจะช่วยเร่งการเจริญเติบโต

• การเก็บเกี่ยว: เมื่อใบกวางตุ้งฮ่องเต้ม่วงเติบโตเต็มที่และมีขนาดใหญ่ สามารถเก็บเกี่ยวได้ โดยเก็บเฉพาะใบที่โตแล้วหรือเก็บทั้งต้นขึ้นอยู่กับการใช้งาน