เมล็ดพันธุ์ ดอกแคแดง

30 ฿

  • จำนวน 60 เมล็ด
  • ดอกอ่อนและฝักอ่อนสามารถนำมาทำอาหาร เช่น แกงส้ม แกงจืด และผัด
  • ดอกและใบมีสรรพคุณช่วยบำรุงสายตาและลดความร้อนในร่างกาย
  • รากช่วยตรึงไนโตรเจนในดิน ทำให้ดินอุดมสมบูรณ์
  • ดึงดูดผึ้งและแมลงผสมเกสร ทำให้ระบบนิเวศสมดุล

เมล็ดพันธุ์ ดอกแคแดง จำนวน 60 เมล็ด

ดอกแคแดง (ชื่อวิทยาศาสตร์: Sesbania grandiflora) เป็นไม้ยืนต้นในวงศ์ Fabaceae หรือวงศ์ถั่ว มีลักษณะคล้ายต้นแคบ้านแต่มี
ดอกสีแดงเข้ม นิยมปลูกเป็นไม้ประดับและใช้ประโยชน์ในด้านสมุนไพรและอาหาร พบมากในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

คุณสมบัติ

  • เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงประมาณ 3-10 เมตร

  • ใบประกอบเป็นใบย่อยเรียงกันคล้ายใบมะขาม สีเขียวอ่อน

  • ดอกมีสีแดงสด หรือสีส้มแดง ออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง

  • ดอกมีขนาด 5-7 ซม. มีรูปทรงคล้ายดอกถั่ว

  • ออกดอกตลอดปี แต่จะบานมากในช่วงฤดูฝนถึงต้นฤดูหนาว

  • ติดฝักยาวประมาณ 30 ซม. ภายในมีเมล็ดจำนวนมาก

  • เจริญเติบโตเร็ว ทนแล้ง และชอบแสงแดดจัด

ประโยชน์ของดอกแคแดง

  • ด้านอาหาร

    • ดอกอ่อนและฝักอ่อนสามารถนำมาทำอาหาร เช่น แกงส้ม แกงจืด และผัด

    • ดอกมีรสหวานเล็กน้อย อุดมไปด้วยวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระ

  • ด้านสมุนไพร

    • ดอกและใบมีสรรพคุณช่วยบำรุงสายตาและลดความร้อนในร่างกาย

    • รากมีฤทธิ์ขับปัสสาวะและช่วยลดไข้

    • เปลือกต้นสามารถใช้รักษาแผลและแก้ท้องเสีย

  • ด้านสิ่งแวดล้อม

    • รากช่วยตรึงไนโตรเจนในดิน ทำให้ดินอุดมสมบูรณ์

    • ช่วยป้องกันการพังทลายของหน้าดิน

    • ดึงดูดผึ้งและแมลงผสมเกสร ทำให้ระบบนิเวศสมดุล

  • ด้านการใช้งานอื่น ๆ

    • ปลูกเป็นไม้ประดับสวน เนื่องจากให้ดอกสีสดใสและสวยงาม

    • ใช้ปลูกเป็นแนวรั้วธรรมชาติ

วิธีการปลูก

  • เตรียมดิน

    • ใช้ดินร่วนปนทราย หรือดินร่วนซุยที่ระบายน้ำดี

    • ควรปลูกในที่ที่มีแสงแดดเต็มวัน

  • การขยายพันธุ์

    • นิยม เพาะเมล็ด เพราะโตเร็วและแข็งแรง

    • การตอนกิ่งหรือปักชำสามารถทำได้ แต่มีอัตราการรอดต่ำกว่า

  • การปลูก

    • หากปลูกลงดิน ควรเว้นระยะห่าง 2-3 เมตร

    • หากปลูกในกระถาง ควรใช้กระถางขนาดใหญ่

  • การดูแล

    • รดน้ำวันละครั้ง แต่ไม่ควรให้ดินแฉะเกินไป

    • ใส่ปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยคอก เดือนละครั้ง

    • ตัดแต่งกิ่งที่ไม่สมบูรณ์เพื่อกระตุ้นการออกดอก

  • การเก็บเกี่ยว

    • ดอกอ่อนสามารถเก็บเกี่ยวได้เมื่อต้องการนำไปประกอบอาหาร

    • หากใช้เป็นสมุนไพร ควรเก็บใบ เปลือก และรากในช่วงที่ต้นสมบูรณ์ที่สุด