เมล็ดพันธุ์ สะระแหน่ 100 เมล็ด
สะระแหน่ (ชื่อวิทยาศาสตร์: Mentha × piperita L.) เป็นพืชล้มลุกในวงศ์ Lamiaceae มีลักษณะเด่นคือลำต้นเตี้ย แตกกิ่งก้านสาขาเลื้อยไปตามดิน ใบมีสีเขียวสด ขอบใบหยักเป็นฟันเลื่อย มีกลิ่นหอมเย็นสดชื่นเป็นเอกลักษณ์ ใบมีลักษณะรูปไข่หรือรูปหอก ขอบใบหยักเป็นฟันเลื่อย มีขนอ่อนๆ ปกคลุม มีต่อมน้ำมันที่ให้กลิ่นหอมเย็นสดชื่นเมื่อขยี้ นิยมนำมาใช้ปรุงแต่งกลิ่นและรสชาติของอาหาร เครื่องดื่ม และมีสรรพคุณทางยา
คุณสมบัติ
- กลิ่นหอมเย็นสดชื่น
- เป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของสะระแหน่ เกิดจากน้ำมันหอมระเหย เช่น เมนทอล (Menthol) ซึ่งให้ความรู้สึกเย็น
- อุดมไปด้วยสารอาหาร
- มีวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด เช่น วิตามินเอ วิตามินซี ธาตุเหล็ก และแมกนีเซียม
- มีสารต้านอนุมูลอิสระ
- ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ
- มีสรรพคุณทางยา
- มีฤทธิ์เย็น ช่วยขับลม บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ลดอาการคลื่นไส้อาเจียน บรรเทาอาการหวัด คัดจมูก และมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา
ประโยชน์ของสะระแหน่
- ช่วยในการย่อยอาหาร
- กลิ่นหอมเย็นของสะระแหน่ช่วยกระตุ้นการหลั่งน้ำย่อย บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และช่วยขับลม
- บรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียน
- การสูดดมกลิ่นหรือการรับประทานสะระแหน่ในปริมาณที่เหมาะสมสามารถช่วยลดอาการคลื่นไส้อาเจียนได้
- ช่วยให้ทางเดินหายใจโล่ง
- น้ำมันหอมระเหยในสะระแหน่มีส่วนช่วยลดอาการคัดจมูก บรรเทาอาการหวัด และทำให้หายใจสะดวกขึ้น
- ลดอาการปวดศีรษะ
- การทาหรือนวดน้ำมันสะระแหน่บริเวณขมับอาจช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะได้
- ช่วยให้ผ่อนคลาย
- กลิ่นหอมเย็นของสะระแหน่มีส่วนช่วยให้รู้สึกสดชื่นและผ่อนคลาย
- ใช้ปรุงแต่งกลิ่นและรสชาติอาหาร
- นิยมนำมาใช้ในอาหารหลายชนิด เช่น ลาบ ยำ ส้มตำ สลัด หรือใช้ตกแต่งอาหาร
- ใช้ทำเครื่องดื่ม
- สะระแหน่เป็นส่วนประกอบสำคัญในเครื่องดื่มหลายชนิด เช่น น้ำมะนาวโซดาสาระแหน่ ชาสาระแหน่ หรือใช้ตกแต่งเครื่องดื่ม
- มีสรรพคุณทางยา
- ใช้ในตำรับยาแผนโบราณเพื่อบรรเทาอาการต่างๆ
วิธีการปลูก
- การปักชำ: เป็นวิธีที่นิยมและง่ายที่สุด
- การเตรียมกิ่ง: เลือกกิ่งสาระแหน่ที่สมบูรณ์ ไม่อ่อนหรือแก่จนเกินไป มีความยาวประมาณ 10-15 เซนติเมตร เด็ดใบล่างออกให้เหลือใบบน 2-3 คู่
- การปักชำ: ปักกิ่งลงในดินร่วนที่ผสมปุ๋ยหมัก หรือในกระถางที่มีดินร่วน ระบายน้ำได้ดี รดน้ำให้ชุ่ม วางไว้ในที่ร่มรำไร
- การดูแล: รดน้ำสม่ำเสมอให้ดินชุ่มชื้น ประมาณ 1-2 สัปดาห์กิ่งก็จะเริ่มแตกรากและมีใบใหม่ เมื่อต้นแข็งแรงดีแล้ว สามารถย้ายลงแปลงปลูกหรือกระถางที่ใหญ่ขึ้นได้
- การแยกไหล (Rhizome):
- การเตรียมไหล: ขุดไหลใต้ดินของต้นสะระแหน่ที่สมบูรณ์ เลือกไหลที่มีตา (bud) ติดอยู่
- การปลูก: นำไหลที่มีตาไปปลูกในดินร่วนที่เตรียมไว้ กลบดินบางๆ รดน้ำให้ชุ่ม
- การดูแล: ดูแลเช่นเดียวกับการปักชำ ไหลจะเริ่มแตกต้นใหม่ขึ้นมา
- การเพาะเมล็ด: วิธีนี้ไม่ค่อยนิยมเพราะสะระแหน่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยติดเมล็ด หรือเมล็ดที่ได้อาจไม่งอก
- การดูแลรักษาสะระแหน่:
- แสงแดด: สะระแหน่ชอบแสงแดดรำไร หรือได้รับแสงแดดโดยตรงในช่วงเช้าและเย็น
- น้ำ: ควรรดน้ำสม่ำเสมอให้ดินชุ่มชื้นอยู่เสมอ แต่ระวังอย่าให้น้ำขัง เพราะจะทำให้รากเน่า
- ดิน: ชอบดินร่วน ระบายน้ำได้ดี มีอินทรียวัตถุสูง
- ปุ๋ย: สามารถให้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกบ้าง เดือนละ 1-2 ครั้ง เพื่อบำรุงต้นให้งาม
- การตัดแต่ง: ควรตัดแต่งกิ่งและใบอยู่เสมอ เพื่อกระตุ้นการแตกกิ่งใหม่ และเก็บเกี่ยวใบไปใช้ประโยชน์
- การควบคุมการเจริญเติบโต: สะระแหน่มีแนวโน้มที่จะเลื้อยขยายไปเรื่อยๆ หากปลูกลงดินโดยตรง อาจต้องทำขอบกั้นเพื่อควบคุมพื้นที่การเจริญเติบโต หรือปลูกในกระถาง