เมล็ดพันธุ์ มะละกอฮอลแลนด์

30 ฿

  • จำนวน 40 เมล็ด
  • นำไปใช้ทำส้มตำ ผัด แกงส้ม
  • เป็นพืชที่ดูแลง่าย และสร้างรายได้ให้เกษตรกร
  • เก็บรักษาได้นาน ขนส่งสะดวก เหมาะกับการส่งออก
  • มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง

เมล็ดพันธุ์ มะละกอฮอลแลนด์ 40 เมล็ด

มะละกอฮอลแลนด์ (ชื่อวิทยาศาสตร์: Carica papaya) เป็นสายพันธุ์มะละกอที่ได้รับความนิยมในเชิงพาณิชย์ มีถิ่นกำเนิดจากประเทศเนเธอร์แลนด์ แต่ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ให้เหมาะกับสภาพอากาศในไทย ลักษณะเด่นของมะละกอฮอลแลนด์คือ ผลมีขนาดกลางถึงใหญ่ เปลือกหนา เนื้อแน่น รสหวานจัด นิยมปลูกเพื่อจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ

คุณสมบัติ

  • ผลขนาดกลางถึงใหญ่: น้ำหนักเฉลี่ย 1.5 – 3 กิโลกรัม

  • เปลือกหนา สีเขียวอมเหลืองเมื่อสุก: ทำให้เก็บรักษาได้นาน และขนส่งสะดวก

  • เนื้อแน่น สีแดงอมส้ม: รสชาติหวาน 13-15 องศาบริกซ์

  • ให้ผลผลิตเร็ว: เริ่มให้ผลผลิตภายใน 7-9 เดือนหลังปลูก

  • ทนทานต่อโรค: โดยเฉพาะโรคไวรัสจุดวงแหวน

  • อายุการเก็บเกี่ยวยาวนาน: สามารถเก็บผลผลิตได้นาน 3-4 ปี

ประโยชน์ของมะละกอฮอลแลนด์

1. ด้านอาหาร

  • ผลดิบ: นำไปใช้ทำส้มตำ ผัด แกงส้ม

  • ผลสุก: หวานฉ่ำ นิยมรับประทานสด หรือแปรรูปเป็นน้ำมะละกอ

  • เมล็ด: มีรสเผ็ด สามารถบดใช้แทนพริกไทย

2. ด้านสุขภาพ

  • อุดมไปด้วย วิตามิน A และ C ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

  • เอนไซม์ปาเปน (Papain) ช่วยย่อยโปรตีน และบำรุงระบบทางเดินอาหาร

  • มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง

  • ไฟเบอร์สูง ช่วยในการขับถ่ายและล้างสารพิษในร่างกาย

3. ด้านการเกษตรและเศรษฐกิจ

  • ให้ผลผลิตสูง และมีความต้องการในตลาด

  • เก็บรักษาได้นาน ขนส่งสะดวก เหมาะกับการส่งออก

  • เป็นพืชที่ดูแลง่าย และสร้างรายได้ให้เกษตรกร

วิธีการปลูก

1. การเตรียมดินและสถานที่ปลูก

  • ควรปลูกในดินร่วนซุยที่ระบายน้ำดี

  • ค่า pH ของดินควรอยู่ระหว่าง 5.5-6.5

  • ควรได้รับแสงแดดเต็มวันเพื่อให้ต้นเติบโตได้ดี

2. วิธีการปลูก

  • เพาะเมล็ด: แช่เมล็ดในน้ำอุ่น 24 ชั่วโมงก่อนนำไปเพาะในถุงเพาะชำ รอให้ต้นกล้าแข็งแรง (ประมาณ 1 เดือน) ก่อนย้ายลงแปลง

  • ปลูกลงดิน: เว้นระยะห่าง 2.5-3 เมตรต่อต้น

  • รองก้นหลุม: ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก เพื่อเพิ่มสารอาหารในดิน

3. การดูแลรักษา

  • รดน้ำ: วันละครั้งในช่วงเช้าหรือเย็น

  • ใส่ปุ๋ย: ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ทุก 2 สัปดาห์ และเสริมปุ๋ยสูตร 13-13-21 เพื่อเร่งการออกผล

  • ตัดแต่งกิ่ง: เพื่อลดการเกิดโรคและช่วยให้ต้นแข็งแรง

  • ป้องกันโรคและแมลง: ระวังโรคไวรัสจุดวงแหวนและเพลี้ยแป้ง โดยใช้สารชีวภาพหรือสารป้องกันโรคพืช