เมล็ดพันธุ์ ผักกาดเขียวปลี

30 ฿

  • จำนวน 300 เมล็ด
  • เป็นแหล่งแคลเซียมและฟอสฟอรัส ซึ่งช่วยบำรุงกระดูกและฟัน
  • วิตามิน C ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ป้องกันการติดเชื้อและช่วยให้ร่างกายแข็งแรง
  • ปริมาณน้ำตาลในผักกาดเขียวปลีต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
  • ผักกาดเขียวปลีมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดการอักเสบในร่างกาย

เมล็ดพันธุ์ ผักกาดเขียวปลี 300 เมล็ด

ผักกาดเขียวปลี (ชื่อวิทยาศาสตร์: Brassica oleracea var. capitata) เป็นพืชในตระกูลเดียวกับผักกาดขาวและคะน้า โดยลักษณะเด่นของผักกาดเขียวปลีคือใบที่เรียงตัวเป็นกะหล่ำปลี โดยมีกลีบใบสีเขียวเข้มและมีเนื้อใบหนา มีรสชาติกรอบและสดชื่น มักจะถูกนำมาทำอาหารประเภทสลัด หรือใช้ในเมนูที่ต้องการรสชาติและความกรอบ

คุณสมบัติ

  • แร่ธาตุและวิตามิน ผักกาดเขียวปลีมีวิตามินต่าง ๆ เช่น วิตามิน A, C, K และโฟเลต ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพ

  • แคลเซียมและฟอสฟอรัส เป็นแหล่งแคลเซียมและฟอสฟอรัส ซึ่งช่วยบำรุงกระดูกและฟัน

  • ไฟเบอร์สูง ผักกาดเขียวปลีมีไฟเบอร์ที่ช่วยในการย่อยอาหารและลดอาการท้องผูก

  • น้ำตาลต่ำ ปริมาณน้ำตาลในผักกาดเขียวปลีต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

ประโยชน์ของผักกาดเขียวปลี

  1. บำรุงสุขภาพตา วิตามิน A ในผักกาดเขียวปลีช่วยบำรุงสายตาและป้องกันการเสื่อมของเซลล์ตา

  2. เสริมสร้างกระดูก แคลเซียมและฟอสฟอรัสช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง

  3. ช่วยย่อยอาหาร ไฟเบอร์ในผักกาดเขียวปลีช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น และช่วยป้องกันท้องผูก

  4. ดีต่อระบบภูมิคุ้มกัน วิตามิน C ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ป้องกันการติดเชื้อและช่วยให้ร่างกายแข็งแรง

  5. ลดการอักเสบ ผักกาดเขียวปลีมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดการอักเสบในร่างกาย

วิธีการปลูก

  1. สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ผักกาดเขียวปลีชอบแสงแดดเต็มที่และอากาศเย็นถึงอบอุ่น อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการปลูกอยู่ระหว่าง 15-25 องศาเซลเซียส

  2. ดิน ผักกาดเขียวปลีชอบดินที่มีการระบายน้ำดีและมีธาตุอาหารเพียงพอ ดินร่วนซุยที่มีค่า pH ระหว่าง 6-7 จะเหมาะที่สุด

  3. การเพาะเมล็ด เริ่มจากการเพาะเมล็ดในถาดเพาะหรือในแปลงที่มีดินปลูก โดยหว่านเมล็ดให้ห่างกันประมาณ 2-3 ซม. หลังจากเมล็ดงอกแล้ว ให้นำต้นกล้าไปปลูกในแปลงที่มีระยะห่างประมาณ 25-30 ซม. ระหว่างต้น

  4. การดูแล รดน้ำให้เพียงพอและควรรักษาความชื้นในดินอย่างสม่ำเสมอ การใส่ปุ๋ยที่มีธาตุไนโตรเจนสูงจะช่วยให้ต้นเจริญเติบโตได้ดี

  5. การเก็บเกี่ยว ผักกาดเขียวปลีสามารถเก็บเกี่ยวได้เมื่อใบโตเต็มที่และมีสีเขียวสด โดยการเก็บใบที่โตเต็มที่หรือเก็บได้ทั้งต้นขึ้นอยู่กับการใช้งาน