เมล็ดพันธุ์ มะรุม

30 ฿

  • จำนวน 25 เมล็ด
  • วิตามิน C และสารต้านอนุมูลอิสระในใบมะรุมช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันโรคต่างๆ
  • มะรุมมีคุณสมบัติช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน
  • แคลเซียมและฟอสฟอรัสในมะรุมช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง
  • น้ำมันมะรุมสามารถใช้เป็นมอยส์เจอไรเซอร์เพื่อบำรุงผิวพรรณ ลดการอักเสบและบรรเทาผิวแห้ง

เมล็ดพันธุ์ มะรุม 25 เมล็ด

มะรุม (ชื่อวิทยาศาสตร์: Moringa oleifera) เป็นพืชที่มีต้นกำเนิดจากแถบเอเชียใต้และแอฟริกา โดยมะรุมจะมีลักษณะเป็นต้นไม้ขนาดกลางที่สามารถเติบโตได้สูงถึง 10-12 เมตร ใบของมะรุมมีสีเขียวสดและเป็นแหล่งที่มีสารอาหารมากมาย มะรุมถือเป็นพืชที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และได้รับการขนานนามว่า “ต้นไม้มหัศจรรย์” เพราะประโยชน์มากมายทั้งในด้านการใช้เป็นอาหารและยารักษาโรค

คุณสมบัติ

  • ลักษณะภายนอก มะรุมเป็นต้นไม้ที่มีลำต้นตรง ใบของมันประกอบด้วยใบย่อยเล็กๆ ที่เรียงกันในรูปแบบของขนนก ดอกมีสีขาวและมีกลิ่นหอม เมล็ดของมะรุมมีลักษณะเป็นฝักยาว

  • เนื้อใบ ใบมะรุมมีสีเขียวสดใสและมีรสขมเล็กน้อย แต่เมื่อใช้ในการปรุงอาหารหรือต้ม จะสามารถรับประทานได้อย่างดี

  • คุณค่าทางโภชนาการ ใบมะรุมมีสารอาหารสูง เช่น วิตามิน A, C, E, แคลเซียม, โพแทสเซียม, เหล็ก, และโปรตีน นอกจากนี้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยบำรุงร่างกาย

  • เมล็ดและน้ำมัน เมล็ดมะรุมสามารถใช้ในการผลิตน้ำมันมะรุมที่มีคุณสมบัติในการบำรุงผิวและสุขภาพ นอกจากนี้ยังใช้ในการกรองน้ำหรือบำบัดน้ำเสีย

ประโยชน์ของมะรุม

  1. บำรุงสุขภาพ

    • เพิ่มพลังงาน ใบมะรุมมีโปรตีนและสารอาหารที่สูง ช่วยเพิ่มพลังงานและลดความเหนื่อยล้า

    • เสริมภูมิคุ้มกัน วิตามิน C และสารต้านอนุมูลอิสระในใบมะรุมช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันโรคต่างๆ

    • บำรุงกระดูกและฟัน แคลเซียมและฟอสฟอรัสในมะรุมช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง

    • ลดระดับน้ำตาลในเลือด มะรุมมีคุณสมบัติช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน

    • ปรับสมดุลการทำงานของไต การบริโภคมะรุมสามารถช่วยปรับสมดุลการทำงานของไตและระบบขับถ่าย

  2. การใช้ในความงาม

    • น้ำมันมะรุมสามารถใช้เป็นมอยส์เจอไรเซอร์เพื่อบำรุงผิวพรรณ ลดการอักเสบและบรรเทาผิวแห้ง

    • สารสกัดจากใบมะรุมช่วยลดการเกิดสิวและปรับสภาพผิวให้ดูดีขึ้น

  3. ใช้ในการรักษาโรค มะรุมถูกใช้ในทางการแพทย์แผนโบราณเพื่อรักษาโรคต่างๆ เช่น โรคเบาหวาน, ความดันโลหิตสูง, โรคตับ, และปัญหาการย่อยอาหาร

วิธีการปลูก

  1. สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม มะรุมชอบแสงแดดและอากาศร้อน ควรปลูกในพื้นที่ที่ได้รับแสงแดดเต็มที่ตลอดทั้งวัน และสามารถเติบโตได้ในดินทั่วไปที่ระบายน้ำดี

  2. การเตรียมดิน ดินควรมีความร่วนซุยและสามารถระบายน้ำได้ดี มะรุมไม่ชอบดินแฉะ หากดินมีความเป็นกรดหรือด่างสูงจะเติบโตได้ดี

  3. การปลูก สามารถปลูกมะรุมได้ทั้งจากเมล็ดและการตอนกิ่ง แต่การปลูกจากเมล็ดจะทำให้ต้นมะรุมโตช้าในช่วงแรก การปลูกจากการตอนกิ่งจะได้ต้นที่โตเร็วและแข็งแรง

  4. การดูแล ควรรดน้ำให้สม่ำเสมอในช่วงที่ต้นยังเล็ก แต่ควรระวังไม่ให้น้ำขังในดิน เพราะจะทำให้รากเน่าได้

  5. การใส่ปุ๋ย ควรใส่ปุ๋ยบำรุงต้นทุก 2-3 เดือน โดยเลือกใช้ปุ๋ยที่มีธาตุไนโตรเจนสูงเพื่อช่วยในการเจริญเติบโตของต้น

  6. การตัดแต่ง ตัดแต่งกิ่งที่แห้งหรือตายออก เพื่อให้ต้นมะรุมเจริญเติบโตได้ดี และเพิ่มการระบายอากาศ

  7. การเก็บเกี่ยว เมื่อมะรุมโตเต็มที่ สามารถเก็บใบมะรุมได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่ต้นจะเจริญเติบโตเร็ว