เมล็ดพันธุ์ พริกตุ้ม 15 เมล็ด
พริกตุ้ม (ชื่อวิทยาศาสตร์: Capsicum annuum) มีลักษณะเด่นคือ ผลมีขนาดเล็ก กลมแป้นคล้ายลูกตุ้ม หรือคล้ายผลเชอร์รีขนาดใหญ่ ผิวเรียบเป็นมัน เมื่อสุกจะมีสีแดงสด แต่ก็มีบางสายพันธุ์ที่มีสีเหลืองหรือส้ม รสชาติมีความเผ็ดเล็กน้อยถึงปานกลาง และมีเนื้อค่อนข้างหนา พริกตุ้มเป็นที่นิยมในการนำมาแปรรูป บรรจุกระป๋อง หรือใช้ตกแต่งอาหาร
คุณสมบัติ
- ลักษณะผล
- ขนาดเล็ก กลมแป้น คล้ายลูกตุ้มหรือผลเชอร์รีขนาดใหญ่
- สีของผล
- เปลี่ยนแปลงตามระยะการเจริญเติบโต จากเขียวเป็นเหลือง ส้ม และแดงสดเมื่อสุก
- รสชาติ
- เผ็ดเล็กน้อยถึงปานกลาง บางสายพันธุ์อาจมีรสหวานเล็กน้อย
- เนื้อสัมผัส
- เนื้อหนา ฉ่ำน้ำ
- ลำต้น
- เป็นพุ่มขนาดกลาง สูงประมาณ 0.5 – 1 เมตร
- การเจริญเติบโต
- เจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศอบอุ่น ต้องการแสงแดดจัด และดินร่วนระบายน้ำได้ดี
- ความหลากหลาย
- มีหลายสายพันธุ์ย่อยที่มีขนาด รูปร่าง และระดับความเผ็ดแตกต่างกันไป
ประโยชน์ของพริกตุ้ม
- ใช้ประกอบอาหาร
- สามารถรับประทานสดในสลัด หรือนำไปยัดไส้ ทอด ผัด หรือเป็นส่วนประกอบในพิซซ่าและอาหารอื่นๆ
- ใช้ในการแปรรูป
- นิยมนำมาดอง บรรจุกระป๋อง หรือทำเป็นพริกหวานแช่อิ่ม
- ใช้ตกแต่งอาหาร
- ด้วยรูปทรงและสีสันที่สวยงาม ทำให้พริกตุ้มเป็นที่นิยมในการนำมาตกแต่งจานอาหาร
- แหล่งวิตามินและแร่ธาตุ
- มีวิตามินซี วิตามินเอ และสารต้านอนุมูลอิสระ
- มีสารแคปไซซิน (Capsaicin)
- แม้จะมีปริมาณไม่มากเท่าพริกเผ็ด แต่ก็ยังมีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและอาจมีประโยชน์อื่นๆ ต่อสุขภาพ
วิธีการปลูก
- การเตรียมเมล็ด: สามารถใช้เมล็ดพันธุ์พริกตุ้มที่ซื้อมา
- การเพาะกล้า:
- เพาะเมล็ดในวัสดุเพาะ เช่น ดินเพาะกล้าสำเร็จรูป หรือพีทมอส
- กลบเมล็ดบางๆ รดน้ำให้ชุ่ม และวางในที่ร่มรำไรที่มีอากาศถ่ายเท
- เมื่อต้นกล้ามีใบจริง 3-4 คู่ และลำต้นแข็งแรง สูงประมาณ 10-15 เซนติเมตร สามารถย้ายลงกระถางหรือแปลงปลูกได้
- การเตรียมดินและแปลงปลูก:
- เลือกพื้นที่ที่มีแสงแดดส่องถึงอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน
- ดินควรเป็นดินร่วน ระบายน้ำได้ดี มีอินทรียวัตถุสูง pH ประมาณ 6.0-6.8
- ไถพรวนดินให้ลึกประมาณ 15-20 เซนติเมตร และใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์
- หากปลูกในกระถาง ควรเลือกกระถางที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางอย่างน้อย 20-30 เซนติเมตร
- การย้ายกล้า:
- ขุดหลุมให้มีขนาดใหญ่กว่าตุ้มดินของต้นกล้าเล็กน้อย
- นำต้นกล้าลงปลูก กลบดินให้มิดโคนต้น กดดินเบาๆ และรดน้ำให้ชุ่ม
- เว้นระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 45-60 เซนติเมตร และระหว่างแถวประมาณ 60-90 เซนติเมตร
- การดูแลรักษา:
- การให้น้ำ: รดน้ำสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงที่ต้นยังเล็ก ช่วงออกดอก และติดผล ควรรดน้ำในช่วงเช้าหรือเย็น หลีกเลี่ยงการรดน้ำโดนใบโดยตรงเพื่อลดความเสี่ยงของโรค
- การใส่ปุ๋ย: ให้ปุ๋ยที่มีธาตุอาหารครบถ้วน โดยเน้นปุ๋ยที่มีโพแทสเซียมสูงในช่วงติดผล เพื่อช่วยให้ผลมีขนาดใหญ่และมีสีสันดี อาจให้ปุ๋ยน้ำสัปดาห์ละครั้ง
- การค้ำยัน: เมื่อต้นเริ่มมีผลดก อาจจำเป็นต้องทำไม้ค้ำยันเพื่อป้องกันกิ่งหัก
- การเด็ดยอด: เมื่อต้นสูงประมาณ 30-40 เซนติเมตร อาจเด็ดยอดเพื่อกระตุ้นให้แตกกิ่งด้านข้าง
- การกำจัดวัชพืช: หมั่นกำจัดวัชพืชรอบๆ ต้นพริก
- การป้องกันและกำจัดศัตรูพืช: พริกตุ้มอาจถูกรบกวนโดยแมลงและโรคต่างๆ ควรตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอและกำจัดด้วยวิธีที่เหมาะสม
- การเก็บเกี่ยว: พริกตุ้มสามารถเก็บเกี่ยวได้เมื่อผลมีสีสันตามสายพันธุ์และเริ่มแข็งแรง โดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 60-80 วันหลังย้ายกล้า