เมล็ดพันธุ์ ผักปลังยักษ์ญี่ปุ่น 25 เมล็ด
ผักปลังยักษ์ญี่ปุ่น (ชื่อวิทยาศาสตร์: Basella alba) เป็นพืชล้มลุกที่มีลำต้นคล้ายเถาและใบใหญ่สีเขียวเข้ม มันไม่ใช่ผักโขมที่แท้จริง แต่มีลักษณะคล้ายกันและเป็นผักที่เติบโตได้ดีในสภาพอากาศร้อน ชื่อ “Malabar” มาจากแหล่งที่พบต้นแรกในอินเดียแถบชายฝั่ง Malabar (แหลมมาลาบาร์) ซึ่งเป็นที่มาของชื่อผักชนิดนี้ ผักชนิดนี้มีรสชาติคล้ายผักโขม แต่ใบมีความหนาและหนึบมากกว่า
คุณสมบัติ
-
ลักษณะทางกายภาพ
-
ผักปลังยักษ์ญี่ปุ่นมีลำต้นที่อ่อนนุ่มและยืดหยุ่น สามารถปีนขึ้นไปได้ในโครงสร้างหรือสิ่งที่รองรับ เช่น รั้วหรือกรง ต้นจะมีลักษณะเป็นเถาใบใหญ่และมีสีเขียวเข้ม
-
-
สารอาหาร
-
ผักปลังยักษ์ญี่ปุ่นมีวิตามิน A, C, และ K รวมถึงแร่ธาตุต่าง ๆ เช่น แคลเซียม, เหล็ก, และแมกนีเซียม มันยังมีเส้นใยอาหารสูงและเป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ
-
-
คุณค่าทางการแพทย์
-
มีคุณสมบัติต้านการอักเสบและช่วยในการบำรุงร่างกาย
-
ประโยชน์ของผักปลังยักษ์ญี่ปุ่น
-
เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
-
วิตามิน C และสารต้านอนุมูลอิสระช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
-
-
บำรุงสุขภาพสายตา
-
วิตามิน A ในผักปลังยักษ์ญี่ปุ่น ช่วยบำรุงสายตาและป้องกันโรคที่เกี่ยวกับดวงตา เช่น ต้อกระจก
-
-
ช่วยในการย่อยอาหาร
-
เส้นใยอาหารในผักช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร ลดอาการท้องผูกและส่งเสริมการขับถ่ายที่ดี
-
-
บำรุงกระดูก
-
แคลเซียมและวิตามิน K ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและฟัน
-
-
ต้านการอักเสบ
-
ผักชนิดนี้มีสารที่ช่วยลดอาการอักเสบในร่างกาย เช่น การอักเสบของข้อหรือกล้ามเนื้อ
-
-
ป้องกันโรคเรื้อรัง
-
เนื่องจากมีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง มันช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรัง เช่น โรคมะเร็ง
-
วิธีการปลูก
-
เลือกพื้นที่ปลูก
-
ผักปลังยักษ์ญี่ปุ่นชอบแสงแดดและอากาศร้อน ควรเลือกพื้นที่ที่มีแสงแดดเต็มที่หรือบาง ๆ และสามารถปลูกในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง
-
-
การเตรียมดิน
-
ควรใช้ดินร่วนที่มีการระบายน้ำดีและมีความเป็นกรด-ด่างที่เหมาะสม (pH 6.0-7.0) การใช้ปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยหมักจะช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับดิน
-
-
การเพาะเมล็ด
-
สามารถเริ่มเพาะเมล็ดได้ในกระบะเพาะ หรือในกระถาง โดยหว่านเมล็ดลงในดินที่มีความชื้นเหมาะสม และรดน้ำให้ชุ่ม เมื่อเมล็ดงอกประมาณ 2-3 สัปดาห์ จึงสามารถย้ายไปปลูกในแปลง
-
-
การปลูกในแปลง
-
เมื่อต้นกล้าโตพอ ควรปลูกในแปลงโดยให้ระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 30-40 เซนติเมตร หรือหากปลูกในกระถาง ควรให้กระถางขนาดใหญ่เพื่อให้รากมีที่เติบโต
-
-
การรดน้ำ
-
ควรรดน้ำสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน เพราะผักปลังยักษ์ญี่ปุ่นชอบความชื้น แต่ต้องระวังไม่ให้ดินแฉะเกินไป
-
-
การใส่ปุ๋ย
-
สามารถใส่ปุ๋ยไนโตรเจนสูงเพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตของใบ และเติมปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยหมักตามความเหมาะสม
-
-
การดูแลรักษา
-
ผักชนิดนี้มักจะมีปัญหาเรื่องการเติบโตในสภาพที่ขาดแสง ควรให้การดูแลโดยการตัดแต่งเถาให้ดีเพื่อป้องกันการพันกัน และระวังศัตรูพืชที่อาจเกิดขึ้น เช่น เพลี้ยอ่อน
-
-
การเก็บเกี่ยว
-
สามารถเก็บเกี่ยวใบผักปลังยักษ์ญี่ปุ่นได้เมื่อใบโตเต็มที่ โดยการตัดใบออกมาคิดเป็นครั้งคราวเพื่อกระตุ้นการเติบโตใหม่ ใบสามารถนำไปใช้ทำอาหารได้ทันที
-