เมล็ดพันธุ์ มะเขือเทศแบล็คบิวตี้ 30 เมล็ด
มะเขือเทศแบล็คบิวตี้ (ชื่อวิทยาศาสตร์: Solanum lycopersicum) เป็นพันธุ์มะเขือเทศที่มีลักษณะเฉพาะตัวคือ เปลือกสีม่วงเข้มจนเกือบดำ เมื่อสุกเต็มที่ เนื้อด้านในมักเป็นสีแดงเข้มหรือม่วงแดง รสชาติเข้มข้น หวานอมเปรี้ยว และมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว พัฒนาขึ้นโดยการคัดสายพันธุ์จากหลายพันธุ์ผสม เช่น Indigo Rose, Pink Berkeley Tie-Dye, และพันธุ์สีดำอื่นๆ เป็นพันธุ์ดั้งเดิมและนิยมปลูกในสวนครัวแบบอินทรีย์
คุณสมบัติ
-
ผลขนาดกลางถึงใหญ่
-
(ประมาณ 200–300 กรัมต่อผล) รูปทรงกลมแบน
-
-
เปลือกแข็งแรง สีเข้มพิเศษ
-
เนื่องจากมีปริมาณสารแอนโธไซยานินสูง
-
-
ทนต่อโรคและแมลงได้ดี
-
ทนมากกว่าหลายสายพันธุ์อื่นๆ
-
-
ให้ผลผลิตสูง
-
เมื่อปลูกในสภาพแวดล้อมเหมาะสม
-
-
ต้นสูงแบบ Indeterminate
-
(ไม่จำกัดความสูง) — ออกผลได้ต่อเนื่องจนหมดฤดู
-
ประโยชน์ของมะเขือเทศแบล็คบิวตี้
-
อุดมไปด้วยสารแอนโธไซยานิน (Anthocyanins)
-
เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่พบมากในผลไม้เปลือกสีม่วง–ดำ
-
ช่วยลดการอักเสบ และชะลอวัย
-
-
วิตามินและแร่ธาตุ
-
วิตามิน A, C, K
-
โพแทสเซียมและไลโคปีน ซึ่งช่วยในการบำรุงหัวใจและผิวพรรณ
-
-
ดีต่อสุขภาพตา หัวใจ และระบบภูมิคุ้มกัน
-
เหมาะกับอาหารเพื่อสุขภาพ
-
ใช้ทำสลัด ซอส ซุป หรือทานสด
-
วิธีการปลูก
- การเพาะเมล็ด
- เริ่มเพาะในถาดเพาะหรือกระถางขนาดเล็ก ช่วงต้นฤดูหนาวหรือปลายฝน
- กลบดินบาง ๆ รดน้ำเบา ๆ ให้ดินชื้น
- ใช้เวลางอกประมาณ 5–10 วัน
- การย้ายปลูก
- เมื่อกล้ามีใบจริง 4–6 ใบ ย้ายปลูกลงแปลงหรือกระถางใหญ่
- ระยะห่างระหว่างต้น: 60–90 ซม.
- การดูแล
- ต้องการแดดจัด (วันละ 6–8 ชม.)
- รดน้ำสม่ำเสมอ แต่ไม่ให้แฉะ
- ควรใช้ไม้ค้ำหรือโครงเหล็กพยุงต้น เพราะต้นสูงและหนักผล
- การให้ปุ๋ย
- ใส่ปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยสูตร 13-13-21 หรือ 15-15-15 เป็นระยะ
- เพิ่มแคลเซียมเพื่อป้องกันโรคปลายผลดำ (Blossom End Rot)
- การเก็บเกี่ยว
- เก็บเมื่อผลมีสีม่วง–ดำทั่วทั้งผลและนุ่มเล็กน้อย
- ประมาณ 75–90 วันหลังเพาะเมล็ด