เมล็ดพันธุ์ แตงกวาญี่ปุ่น

30 ฿

  • จำนวน 15 เมล็ด
  • มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก ทำให้ช่วยดับกระหายและรักษาสมดุลของเหลวในร่างกาย
  • ช่วยในการขับถ่ายและส่งเสริมสุขภาพของระบบทางเดินอาหาร
  • โพแทสเซียมในแตงกวาอาจมีส่วนช่วยในการควบคุมความดันโลหิต
  • ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากความเสียหาย

เมล็ดพันธุ์ แตงกวาญี่ปุ่น 15 เมล็ด

แตงกวาญี่ปุ่น (ชื่อวิทยาศาสตร์: Cucumis sativus) โดยทั่วไปหมายถึงแตงกวาที่มีลักษณะเรียวยาว ผิวสีเขียวเข้ม มีหนามเล็กๆ น้อยมากหรือไม่มีเลย เนื้อแน่น มีเมล็ดน้อย และมีรสชาติหวานกรอบ มักมีขนาดประมาณ 15-20 เซนติเมตร หรืออาจยาวกว่านั้นขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ แตงกวาญี่ปุ่นเป็นที่นิยมในการรับประทานสด ทำสลัด หรือนำไปดอง มีหลายสายพันธุ์ที่นิยมปลูก เช่น “ไอจิไวลด์” (Aichi Wild), “ซัทซึกิ” (Satsuki), และ “ชินคิวริ” (Shin-kyuri)

คุณสมบัติ

  • ลักษณะ
    • ผลเรียวยาว ผิวสีเขียวเข้ม เรียบหรือมีหนามเล็กน้อย เนื้อแน่น มีเมล็ดน้อย
  • รสชาติ
    • หวาน กรอบ ชุ่มน้ำ มีรสขมน้อยมากหรือไม่มีเลย
  • กลิ่น
    • มีกลิ่นหอมอ่อนๆ สดชื่น
  • เนื้อสัมผัส
    • กรอบ แน่น ไม่เละง่าย
  • ขนาด
    • โดยทั่วไปยาวประมาณ 15-20 เซนติเมตร หรืออาจยาวกว่านั้น

ประโยชน์ของแตงกวาญี่ปุ่น

  1. ให้ความชุ่มชื้นแก่ร่างกาย
    • มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก ทำให้ช่วยดับกระหายและรักษาสมดุลของเหลวในร่างกาย
  2. มีแคลอรี่ต่ำ
    • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
  3. มีใยอาหาร
    • ช่วยในการขับถ่ายและส่งเสริมสุขภาพของระบบทางเดินอาหาร
  4. มีวิตามินและแร่ธาตุ
    • มีวิตามินเค, วิตามินซี, โพแทสเซียม, และแมกนีเซียมในปริมาณที่พอสมควร
  5. มีสารต้านอนุมูลอิสระ
    • ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากความเสียหาย
  6. ช่วยลดความดันโลหิต
    • โพแทสเซียมในแตงกวาอาจมีส่วนช่วยในการควบคุมความดันโลหิต
  7. ช่วยบำรุงผิวพรรณ
    • น้ำและวิตามินในแตงกวาช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและสดใส

วิธีการปลูก

  1. การเตรียมดิน
    • เลือกดินร่วน ระบายน้ำได้ดี มีอินทรียวัตถุสูง ควรไถพรวนดินให้ละเอียด และผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์
  2. การเพาะเมล็ด สามารถเพาะเมล็ดโดยตรงลงในแปลง หรือเพาะกล้าก่อนย้ายปลูกก็ได้
    • เพาะกล้า หยอดเมล็ดในถาดเพาะ กลบดินบางๆ รดน้ำให้ชุ่ม เมื่อต้นกล้ามีใบจริง 2-3 ใบ จึงย้ายลงแปลง
    • หว่านโดยตรง หยอดเมล็ดลงในหลุมที่เตรียมไว้ กลบดินบางๆ รดน้ำให้ชุ่ม
  3. การทำค้าง
    • แตงกวาญี่ปุ่นส่วนใหญ่เป็นไม้เลื้อย ควรทำค้างเพื่อให้ลำต้นเลื้อยเกาะ ค้างอาจทำจากไม้ไผ่ ตาข่าย หรือเชือก
  4. การปลูก
    • ระยะปลูก ระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 50-70 เซนติเมตร และระยะห่างระหว่างแถวประมาณ 1-1.5 เมตร
    • การย้ายกล้า ขุดหลุมให้มีขนาดพอเหมาะ วางต้นกล้าลงไป กลบดินให้แน่น รดน้ำให้ชุ่ม
  5. การให้น้ำ
    • แตงกวาต้องการน้ำอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงออกดอกและติดผล ควรรดน้ำทุกวัน หรืออย่างน้อยวันละครั้ง
  6. แสงแดด
    • แตงกวาญี่ปุ่นชอบแสงแดดเต็มที่ ควรปลูกในบริเวณที่ได้รับแสงแดดอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน
  7. การให้ปุ๋ย
    • ให้ปุ๋ยบำรุงในช่วงต่างๆ ของการเจริญเติบโต เช่น ปุ๋ยที่มีไนโตรเจนสูงในช่วงแรก และปุ๋ยที่มีฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมสูงในช่วงออกดอกและติดผล อาจใช้ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยเคมีตามความเหมาะสม
  8. การดูแลรักษา
    • การเด็ดยอด เมื่อต้นมีใบจริงประมาณ 5-7 ใบ ให้เด็ดยอด เพื่อกระตุ้นให้แตกแขนง
    • การตัดแต่งแขนง ตัดแขนงที่อยู่โคนต้นออก เพื่อให้ลมถ่ายเทได้สะดวก ลดความเสี่ยงของโรค
    • การผสมเกสร หากปลูกในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีแมลงช่วยผสมเกสร อาจต้องช่วยผสมเกสรด้วยมือ
  9. การป้องกันและกำจัดศัตรูพืชและโรค
    • สังเกตการเข้าทำลายของแมลงและโรคต่างๆ หากพบปัญหาให้รีบแก้ไขด้วยวิธีธรรมชาติ หรือใช้สารเคมีที่ปลอดภัย
  10. การเก็บเกี่ยว
    • แตงกวาญี่ปุ่นสามารถเก็บเกี่ยวได้เมื่อผลมีขนาดตามต้องการ โดยทั่วไปจะเริ่มเก็บเกี่ยวได้ประมาณ 50-60 วันหลังปลูก ควรเก็บเกี่ยวอย่างสม่ำเสมอเพื่อกระตุ้นให้ต้นออกผลผลิตอย่างต่อเนื่อง