เมล็ดพันธุ์ ผักโขมบ้าน 1,000 เมล็ด
ผักโขมบ้าน (ชื่อวิทยาศาสตร์: Spinacia oleracea L.) เป็นผักใบเขียวที่อยู่ในวงศ์ Amaranthaceae (วงศ์เดียวกับผักโขมลาย, บานไม่รู้โรย, และผักขม) เป็นพืชล้มลุก มีลำต้นสั้น ใบมีลักษณะเป็นแผ่นกว้าง รูปไข่หรือสามเหลี่ยม ปลายมน ขอบใบเรียบหรือหยิกเล็กน้อย มีหลายสายพันธุ์ ซึ่งอาจมีลักษณะของใบและสีแตกต่างกันไป ผักโขมเป็นผักที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และเป็นที่นิยมบริโภคทั่วโลก สามารถนำมาปรุงอาหารได้หลากหลายเมนู ทั้งผัด ต้ม ซุป หรือรับประทานสดในสลัด
คุณสมบัติ
- ลักษณะ
- ใบสีเขียวเข้ม อาจมีลักษณะเรียบหรือเป็นคลื่นเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์
- รสชาติ
- มีรสชาติหวานเล็กน้อยและมีกลิ่นเฉพาะตัว มักมีรสชาติเข้มข้นกว่าผักโขมลายเล็กน้อย
- เนื้อสัมผัส
- ใบมีความนุ่ม เมื่อนำไปปรุงสุกจะยุบตัวลง
- คุณค่าทางโภชนาการสูง
- เป็นแหล่งของวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญ เช่น วิตามินเอ, วิตามินซี, วิตามินเค, กรดโฟลิก, ธาตุเหล็ก, แคลเซียม, โพแทสเซียม, แมกนีเซียม, และใยอาหาร
ประโยชน์ของผักโขมบ้าน
- บำรุงสายตา
- มีวิตามินเอและสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ลูทีนและซีแซนทีน ซึ่งช่วยปกป้องดวงตาจากความเสียหายและลดความเสี่ยงของโรคจอประสาทตาเสื่อม
- เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
- วิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
- บำรุงกระดูก
- มีวิตามินเค แคลเซียม และแมกนีเซียม ซึ่งมีความสำคัญต่อความแข็งแรงของกระดูกและป้องกันโรคกระดูกพรุน
- ป้องกันภาวะโลหิตจาง
- มีธาตุเหล็กสูง ซึ่งจำเป็นต่อการสร้างเม็ดเลือดแดงและการลำเลียงออกซิเจนในร่างกาย
- ดีต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด
- มีโพแทสเซียมสูง ซึ่งช่วยควบคุมความดันโลหิต และมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ
- ส่งเสริมการทำงานของระบบย่อยอาหาร
- มีใยอาหารสูง ช่วยในการขับถ่ายและป้องกันอาการท้องผูก
- มีสารต้านมะเร็ง
- มีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิดที่อาจช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งบางชนิด
- บำรุงผิวพรรณ
- วิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระช่วยให้ผิวพรรณสดใสและสุขภาพดี
- ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
- ใยอาหารในผักโขมช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาล
วิธีการปลูก
- การเตรียมดิน
- เลือกดินร่วน ระบายน้ำได้ดี มีอินทรียวัตถุสูง ไถพรวนดินให้ละเอียด กำจัดวัชพืช และปรับปรุงดินด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก
- การเพาะเมล็ด
- สามารถเพาะเมล็ดโดยตรงลงในแปลง หรือเพาะกล้าก่อนย้ายปลูกก็ได้ หากเพาะกล้า ใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์
- การหว่านหรือปลูก
- หากหว่านเมล็ดโดยตรง ควรรักษาระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 10-15 เซนติเมตร และระยะห่างระหว่างแถวประมาณ 20-30 เซนติเมตร หากย้ายกล้าก็ให้มีระยะห่างเท่ากัน
- การให้น้ำ
- ผักโขมต้องการน้ำสม่ำเสมอ ควรรดน้ำทุกวัน โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศแห้งแล้ง ควรรดน้ำในช่วงเช้าหรือเย็น หลีกเลี่ยงการรดน้ำในช่วงแดดจัด
- การให้ปุ๋ย
- สามารถให้ปุ๋ยเพิ่มเติมได้เมื่อต้นเริ่มเติบโต โดยอาจเป็นปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยเคมีสูตรเสมอ (เช่น 15-15-15) ในปริมาณที่เหมาะสม
- การกำจัดวัชพืชและแมลง
- ดูแลแปลงปลูกอย่างสม่ำเสมอ ถอนวัชพืช และสังเกตการเข้าทำลายของแมลง หากพบปัญหา ควรจัดการด้วยวิธีธรรมชาติก่อน หากจำเป็นจึงใช้สารกำจัดแมลงที่ปลอดภัย
- การเก็บเกี่ยว
- ผักโขมบ้านสามารถเก็บเกี่ยวได้เมื่อมีอายุประมาณ 40-60 วัน หลังหยอดเมล็ด โดยเลือกเก็บเกี่ยวใบที่สมบูรณ์ หรือตัดทั้งต้นก็ได้ ขึ้นอยู่กับความต้องการ