เมล็ดพันธุ์ มะขามเปรี้ยวยักษ์ 25 เมล็ด
มะขามเปรี้ยวยักษ์ (ชื่อวิทยาศาสตร์: Tamarindus indica) ที่มีลักษณะเด่นคือ ฝักมีขนาดใหญ่กว่ามะขามเปรี้ยวทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด มีหลายสายพันธุ์ที่ถูกพัฒนาหรือคัดเลือกให้มีลักษณะดังกล่าว เช่น พันธุ์ปากช่อง 1 และพันธุ์อื่นๆ ที่มีฝักขนาดใหญ่ เนื้อหนา และให้ผลผลิตดี มะขามเปรี้ยวยักษ์ยังคงมีลักษณะทางพฤกษศาสตร์พื้นฐานเช่นเดียวกับมะขามเปรี้ยวทั่วไป เพียงแต่มีขนาดของฝักที่โดดเด่นกว่า
คุณสมบัติ
- ขนาดฝักใหญ่
- เป็นคุณสมบัติเด่นที่สุด ทำให้มีเนื้อในปริมาณมากต่อน้ำหนักฝัก
- เนื้อหนา
- เนื้อในฝักมีความหนา ทำให้ได้น้ำหนักดี และมีเนื้อสำหรับนำไปใช้ประโยชน์มากขึ้น
- รสเปรี้ยวจัด
- ยังคงมีรสเปรี้ยวเป็นเอกลักษณ์เช่นเดียวกับมะขามเปรี้ยวทั่วไป
- ให้ผลดก
- มีแนวโน้มที่จะให้ผลผลิตต่อต้นสูง
- ทนทาน
- เป็นพืชที่ทนแล้งและปลูกง่ายในหลายสภาพดิน
- ใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย
- สามารถใช้ประโยชน์ได้ทั้งฝักอ่อน ฝักแก่ ใบอ่อน และเนื้อไม้ เช่นเดียวกับมะขามเปรี้ยวทั่วไป
ประโยชน์ของมะขามเปรี้ยวยักษ์
- ทางอาหาร
- ปรุงรสอาหาร ใช้ปรุงรสเปรี้ยวในอาหารต่างๆ เช่น ต้มยำ ส้มตำ แกงส้ม ได้เนื้อในปริมาณมากต่อฝัก
- แปรรูป เหมาะสำหรับการนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น น้ำมะขาม มะขามกวน มะขามแช่อิ่ม เนื่องจากมีเนื้อมาก ทำให้ได้ผลผลิตที่คุ้มค่า
- รับประทานสด เนื้อในมีปริมาณมาก ทำให้รับประทานสดได้จุใจมากขึ้นสำหรับผู้ที่ชอบรสเปรี้ยว
- ทางยา
- มีสรรพคุณทางยาเช่นเดียวกับมะขามเปรี้ยวทั่วไป เช่น เป็นยาระบายอ่อนๆ ช่วยขับเสมหะ บรรเทาอาการไอ
- เชิงพาณิชย์
- ด้วยขนาดฝักที่ใหญ่และเนื้อมาก ทำให้เป็นที่ต้องการของตลาด สามารถสร้างรายได้ที่ดีให้กับเกษตรกร ทั้งจากการขายฝักสดและผลิตภัณฑ์แปรรูป
วิธีการปลูก
- การเตรียมดิน
- มะขามเปรี้ยวยักษ์สามารถปลูกได้ในดินหลายชนิด แต่ดินร่วนปนทรายที่มีการระบายน้ำดีจะเหมาะสมที่สุด ควรไถพรวนและกำจัดวัชพืช
- การเตรียมหลุมปลูก
- ขุดหลุมขนาดประมาณ 50x50x50 เซนติเมตร รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักผสมกับร็อกฟอสเฟต
- ระยะปลูก
- ควรมีระยะห่างระหว่างต้นและระหว่างแถวประมาณ 8×8 เมตร เพื่อให้ต้นมีพื้นที่ในการเจริญเติบโตและรับแสงแดดอย่างเต็มที่ (ประมาณ 25 ต้นต่อไร่)
- การปลูก
- นำต้นกล้าที่ได้จากการเพาะเมล็ด ตอนกิ่ง ทาบกิ่ง หรือติดตาลงปลูก กลบดินให้มิดราก รดน้ำให้ชุ่ม
- การดูแลรักษา
- การให้น้ำ ในช่วงแรกที่ปลูก ควรรดน้ำสม่ำเสมอ เมื่อต้นโตแล้วจะทนแล้งได้ดี แต่ควรให้น้ำบ้างในช่วงฤดูแล้งเพื่อให้ได้ผลผลิตดี
- การใส่ปุ๋ย ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักปีละ 2-3 ครั้ง หรือใส่ปุ๋ยเคมีสูตรเสมอในช่วงแรก และอาจเปลี่ยนเป็นสูตรที่มีโพแทสเซียมสูงขึ้นในช่วงติดผล
- การกำจัดวัชพืช กำจัดวัชพืชรอบโคนต้นอย่างสม่ำเสมอ
- การตัดแต่งกิ่ง ตัดแต่งกิ่งแห้ง กิ่งที่เป็นโรค และกิ่งที่แน่นทึบ
- การป้องกันและกำจัดศัตรู โดยทั่วไปมะขามเปรี้ยวยักษ์ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องศัตรูและโรคมากนัก แต่ควรสังเกตและจัดการหากพบปัญหา
