เมล็ดพันธุ์ มัสตาร์ดแดงยักษ์ 50 เมล็ด
มัสตาร์ดแดงยักษ์ (ชื่อวิทยาศาสตร์: Brassica juncea var. rugosa) เป็นผักใบเขียวในตระกูลเดียวกับผักกาด (Brassica) มีลักษณะเด่นคือใบมีขนาดใหญ่ สีแดงม่วงเข้มถึงแดงเลือดหมู มีขอบใบหยิกเป็นคลื่นอย่างสวยงาม ก้านใบมีสีแดงเช่นกัน จัดเป็นผักที่มีรสชาติเผ็ดซ่าเล็กน้อยคล้ายมัสตาร์ด (จึงเป็นที่มาของชื่อ) แต่มีความนุ่มและหวานกว่าเมื่อเทียบกับมัสตาร์ดบางชนิด นิยมนำมาบริโภคทั้งแบบสดในสลัด หรือนำไปปรุงสุก เช่น ผัด ต้ม หรือใส่ในแกง
คุณสมบัติ
- สีสันโดดเด่น มีสีแดงม่วงเข้มสวยงาม ทำให้เมนูอาหารดูน่ารับประทาน
- รสชาติ เผ็ดซ่าเล็กน้อยคล้ายมัสตาร์ด มีความนุ่มและหวานกว่าเมื่อปรุงสุก
- เนื้อสัมผัส ใบสดจะกรอบ เมื่อปรุงสุกจะนุ่ม
- คุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด เช่น วิตามินเอ, วิตามินซี, วิตามินเค, โฟเลต, แคลเซียม, โพแทสเซียม และแมกนีเซียม
- มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น แอนโทไซยานิน (anthocyanin) ซึ่งเป็นสารให้สีแดงม่วง และมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากความเสียหาย
- มีใยอาหาร ช่วยในการขับถ่าย
ประโยชน์ของมัสตาร์ดแดงยักษ์
- บำรุงสายตา วิตามินเอสูงช่วยในการมองเห็นและป้องกันโรคเกี่ยวกับดวงตา
- เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน วิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
- ช่วยในการแข็งตัวของเลือด วิตามินเคมีความสำคัญต่อกระบวนการแข็งตัวของเลือด
- ส่งเสริมสุขภาพกระดูก แคลเซียมและวิตามินเคมีส่วนช่วยในการบำรุงกระดูกให้แข็งแรง
- มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ สารแอนโทไซยานินช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ซึ่งอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังบางชนิด
- ช่วยในการขับถ่าย ใยอาหารช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี ป้องกันอาการท้องผูก
- อาจมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ สารประกอบบางชนิดในผักตระกูลกะหล่ำอาจมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ
วิธีการปลูก
- การเตรียมดิน เลือพื้นที่ปลูกที่มีดินร่วน ระบายน้ำได้ดี มีอินทรียวัตถุสูง และมีค่า pH ประมาณ 6.0-7.5 ไถพรวนดินให้ลึกประมาณ 15-20 เซนติเมตร และปรับปรุงดินด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก
- การเพาะเมล็ด มัสตาร์ดแดงยักษ์ส่วนใหญ่ปลูกด้วยเมล็ด สามารถเพาะเมล็ดในแปลงเพาะกล้าก่อน หรือหว่านลงในแปลงปลูกโดยตรงก็ได้
- เพาะกล้า หว่านเมล็ดในกระถางเพาะหรือแปลงเพาะกล้าที่มีดินร่วน กลบดินบาง ๆ รดน้ำให้ชุ่ม เมื่อต้นกล้ามีใบจริง 2-3 ใบ หรือสูงประมาณ 5-10 เซนติเมตร จึงย้ายลงแปลงปลูก
- หว่านโดยตรง หว่านเมล็ดเป็นแถวหรือห่างกันพอสมควร กลบดินบาง ๆ รดน้ำให้ชุ่ม
- ระยะปลูก หากปลูกเป็นแถว ควรมีระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 20-30 เซนติเมตร และระยะห่างระหว่างแถวประมาณ 30-40 เซนติเมตร
- การให้น้ำ รดน้ำอย่างสม่ำเสมอ ควรรักษาความชื้นในดินให้สม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงแรกของการเจริญเติบโต
- การให้ปุ๋ย ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ เช่น ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก ก่อนปลูก และอาจให้ปุ๋ยเคมีสูตรเสมอ (เช่น 15-15-15) ในปริมาณเล็กน้อยในช่วงที่ต้นกำลังเจริญเติบโต
- การกำจัดวัชพืช ควรกำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอเพื่อไม่ให้แย่งอาหารและแสงแดด
- การเก็บเกี่ยว สามารถเริ่มเก็บเกี่ยวได้เมื่อใบมีขนาดตามที่ต้องการ โดยทั่วไปประมาณ 30-60 วันหลังปลูก สามารถเก็บเกี่ยวได้ทั้งต้น หรือเก็บเกี่ยวเฉพาะใบก็ได้ หากต้องการเก็บเมล็ดไว้ขยายพันธุ์ต่อ ให้ปล่อยให้ต้นออกดอกและติดฝักจนฝักแก่และแห้ง