เมล็ดพันธุ์ ผักชีลาว

30 ฿

  • จำนวน 350 เมล็ด
  • กลิ่นหอมและน้ำมันหอมระเหยในผักชีลาวช่วยกระตุ้นการหลั่งน้ำย่อย บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และช่วยขับลม
  • ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ
  • วิตามินซีในผักชีลาวช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
  • เมล็ดผักชีลาวสามารถนำมาใช้เป็นเครื่องเทศในการปรุงอาหาร หรือนำไปสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหยที่มีประโยชน์ต่างๆ

50 in stock

เมล็ดพันธุ์ ผักชีลาว 350 เมล็ด

ผักชีลาว (ชื่อวิทยาศาสตร์: Anethum graveolens L.) เป็นพืชล้มลุกชนิดหนึ่งในวงศ์ผักชี (Apiaceae) มีลักษณะเด่นคือลำต้นสูงประมาณ 30-90 เซนติเมตร ใบมีลักษณะเป็นเส้นฝอยเล็กๆ สีเขียวอ่อน มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวคล้ายโป๊ยกั้กหรือเครื่องเทศ มีดอกสีเหลืองขนาดเล็กออกเป็นช่อ และมีผลขนาดเล็กรูปไข่ ใบมีลักษณะเป็นเส้นเล็กๆ คล้ายขนนก มีกลิ่นหอมหวานและเผ็ดเล็กน้อย นิยมนำมาใช้ปรุงแต่งกลิ่นและรสชาติของอาหาร โดยเฉพาะอาหารที่มีปลาเป็นส่วนประกอบ เช่น แกงอ่อมปลา ซุปหน่อไม้ หรือใช้รับประทานสดแกล้มกับอาหารอื่นๆ ดอกมีสีเหลืองขนาดเล็ก ออกเป็นช่อแบบซี่ร่ม เมล็ดมีขนาดเล็ก รูปไข่ แบน มีสีน้ำตาลอ่อน มีกลิ่นหอม นิยมนำมาใช้เป็นเครื่องเทศในการปรุงอาหาร หรือนำไปสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหย

คุณสมบัติ

  • กลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์
    • มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวที่แตกต่างจากผักชีไทย ทำให้เป็นที่นิยมในการนำมาปรุงแต่งกลิ่นและรสชาติของอาหาร
  • อุดมไปด้วยสารอาหาร
    • มีวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด เช่น วิตามินเอ วิตามินซี โฟเลต แคลเซียม เหล็ก และแมกนีเซียม
  • มีสารต้านอนุมูลอิสระ
    • ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ
  • มีสรรพคุณทางยา
    • ในตำรายาแผนโบราณมีการใช้ผักชีลาวเพื่อบรรเทาอาการต่างๆ เช่น ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม ช่วยให้นอนหลับสบาย และอาจมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา

ประโยชน์ของผักชีลาว

  • ช่วยในการย่อยอาหาร
    • กลิ่นหอมและน้ำมันหอมระเหยในผักชีลาวช่วยกระตุ้นการหลั่งน้ำย่อย บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และช่วยขับลม
  • ช่วยให้นอนหลับสบาย
    • มีรายงานว่าการรับประทานผักชีลาวอาจช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและนอนหลับได้ดีขึ้น
  • บำรุงสายตา
    • มีวิตามินเอสูง ซึ่งมีความสำคัญต่อสุขภาพของดวงตาและการมองเห็น
  • เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
    • วิตามินซีในผักชีลาวช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
  • เป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ
    • ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ
  • ใช้ปรุงแต่งกลิ่นและรสชาติอาหาร
    • ทำให้เมนูอาหารมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะอาหารประเภทปลาและอาหารอีสาน
  • ใช้ตกแต่งอาหาร
    • ช่วยเพิ่มความสวยงามและน่ารับประทานให้กับจานอาหาร
  • เมล็ดมีประโยชน์
    • เมล็ดผักชีลาวสามารถนำมาใช้เป็นเครื่องเทศในการปรุงอาหาร หรือนำไปสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหยที่มีประโยชน์ต่างๆ

วิธีการปลูก

  • การเตรียมดิน
    • เลือกดินร่วน ระบายน้ำได้ดี มีอินทรียวัตถุสูง ควรไถพรวนดินและกำจัดวัชพืชออกให้หมด อาจผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์
  • การเตรียมเมล็ด
    • เลือกเมล็ดพันธุ์ผักชีลาวที่มีคุณภาพดี ไม่จำเป็นต้องแช่น้ำก่อนปลูก แต่การแช่น้ำประมาณ 2-3 ชั่วโมงแล้วผึ่งลมให้หมาดๆ อาจช่วยให้งอกเร็วขึ้น
  • การเพาะเมล็ด
    • หว่านลงแปลง: หว่านเมล็ดให้กระจายทั่วแปลง แล้วกลบดินบางๆ ประมาณ 0.5-1 เซนติเมตร รดน้ำให้ชุ่ม
    • เพาะกล้า: หว่านเมล็ดในกระถางเพาะหรือถาดเพาะ เมื่อต้นกล้ามีใบจริง 2-3 ใบ จึงย้ายลงแปลงปลูก โดยเว้นระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 10-15 เซนติเมตร และระหว่างแถวประมาณ 20-30 เซนติเมตร
  • การดูแลรักษา
    • การให้น้ำ: รดน้ำสม่ำเสมอทุกวัน โดยเฉพาะในช่วงแรกของการเจริญเติบโต ควรรดน้ำเบาๆ เพื่อไม่ให้เมล็ดหรือต้นกล้าเสียหาย
    • การให้ปุ๋ย: ผักชีลาวไม่ต้องการปุ๋ยมากนัก แต่หากดินไม่สมบูรณ์ สามารถให้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยเคมีสูตรเสมอ (เช่น 15-15-15) ในปริมาณเล็กน้อย
    • การกำจัดวัชพืช: หมั่นกำจัดวัชพืชที่ขึ้นรอบๆ ต้นผักชีลาว เพื่อไม่ให้แย่งอาหารและแสงแดด
    • การป้องกันและกำจัดโรคแมลง: ผักชีลาวค่อนข้างทนทานต่อโรคและแมลง หากพบปัญหา ควรใช้สารกำจัดศัตรูพืชชีวภาพ หรือวิธีธรรมชาติในการป้องกันและกำจัด
  • การเก็บเกี่ยว
    • ผักชีลาวสามารถเก็บเกี่ยวได้เมื่อมีอายุประมาณ 40-60 วัน หลังจากการงอก โดยสามารถตัดทั้งต้น หรือตัดเฉพาะส่วนใบที่ต้องการ ควรเก็บเกี่ยวในช่วงเช้าที่ไม่มีแดดจัด เพื่อให้ได้ผักชีลาวที่สดและมีคุณภาพดี