เมล็ดพันธุ์ กุยช่าย

30 ฿

  • จำนวน 100 เมล็ด
  • มีงานวิจัยบางชิ้นบ่งชี้ว่ากุยช่ายอาจมีส่วนช่วยในการลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ (อย่างไรก็ตาม ควรศึกษาเพิ่มเติมและปรึกษาแพทย์)
  • สารประกอบบางชนิดในกุยช่ายอาจมีคุณสมบัติต้านจุลชีพ
  • สารอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระในกุยช่ายอาจมีส่วนช่วยในการรักษาสุขภาพของหัวใจและหลอดเลือด
  • มีธาตุแคลเซียม ซึ่งมีความสำคัญต่อความแข็งแรงของกระดูกและฟัน

เมล็ดพันธุ์ กุยช่าย 100 เมล็ด

กุยช่าย (ชื่อวิทยาศาสตร์: Allium tuberosum Rottler ex Spreng.)  เป็นพืชล้มลุกชนิดหนึ่ง อยู่ในวงศ์ Amaryllidaceae (วงศ์เดียวกับหอม กระเทียม) มีลักษณะเป็นกอ มีใบแบนยาว สีเขียวเข้ม มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวคล้ายกระเทียมแต่มีความอ่อนกว่า กุยช่ายมีดอกสีขาวขนาดเล็ก ออกเป็นช่อ ก้านดอกยาว กุยช่ายเป็นผักที่นิยมนำมาใช้ปรุงอาหารหลายชนิด เช่น ผัดกุยช่าย, ไส้ขนมกุยช่าย, โรยหน้าอาหาร, หรือนำไปดอง

คุณสมบัติ

  • ลักษณะ
    • ใบแบนยาว สีเขียวเข้ม ออกเป็นกอ
  • กลิ่น
    • มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว คล้ายกระเทียมแต่มีความอ่อนกว่า
  • รสชาติ
    • มีรสชาติเผ็ดเล็กน้อย คล้ายหอมและกระเทียมรวมกัน
  • คุณค่าทางโภชนาการ
    • กุยช่ายมีวิตามินและแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ เช่น วิตามินเอ, วิตามินซี, ธาตุแคลเซียม, ธาตุเหล็ก, และใยอาหาร

ประโยชน์ของกุยช่าย

  1. ช่วยบำรุงสายตา
    • มีวิตามินเอสูง ซึ่งจำเป็นต่อการมองเห็นและสุขภาพของดวงตา
  2. เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
    • มีวิตามินซี ซึ่งช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง
  3. ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน
    • มีธาตุแคลเซียม ซึ่งมีความสำคัญต่อความแข็งแรงของกระดูกและฟัน
  4. ช่วยในการขับถ่าย
    • มีใยอาหารสูง ซึ่งช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้และป้องกันอาการท้องผูก
  5. ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
    • มีงานวิจัยบางชิ้นบ่งชี้ว่ากุยช่ายอาจมีส่วนช่วยในการลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ (อย่างไรก็ตาม ควรศึกษาเพิ่มเติมและปรึกษาแพทย์)
  6. อาจมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา
    • สารประกอบบางชนิดในกุยช่ายอาจมีคุณสมบัติต้านจุลชีพ
  7. ช่วยบำรุงหัวใจและหลอดเลือด
    • สารอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระในกุยช่ายอาจมีส่วนช่วยในการรักษาสุขภาพของหัวใจและหลอดเลือด

วิธีการปลูก

  1. การเตรียมดิน
    • กุยช่ายชอบดินร่วน ระบายน้ำได้ดี มีอินทรียวัตถุสูง ควรไถพรวนดินให้ละเอียด และผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์
  2. การขยายพันธุ์ สามารถทำได้หลายวิธี ได้แก่
    • การเพาะเมล็ด หว่านเมล็ดในแปลงเพาะ หรือในกระถาง เมื่อต้นกล้าแข็งแรงจึงย้ายลงแปลงปลูก
    • การแยกกอ เป็นวิธีที่นิยมและรวดเร็ว โดยขุดกอกุยช่ายที่โตแล้ว แยกเป็นกอเล็ก ๆ ที่มีรากติด แล้วนำไปปลูก
    • การปักชำเหง้า ตัดเหง้ากุยช่ายให้มีรากติดอยู่ แล้วนำไปปักชำในดิน
  3. การปลูก
    • แปลงดิน ขุดหลุมให้มีขนาดพอเหมาะ วางกอกุยช่ายลงไป กลบดินให้แน่น รดน้ำให้ชุ่ม ระยะห่างระหว่างกอประมาณ 15-20 เซนติเมตร และระยะห่างระหว่างแถวประมาณ 30-40 เซนติเมตร
    • กระถาง เลือกกระถางที่มีรูระบายน้ำ ใส่ดินปลูก วางกอกุยช่ายลงไป กลบดินให้แน่น รดน้ำให้ชุ่ม
  4. การให้น้ำ
    • กุยช่ายต้องการน้ำอย่างสม่ำเสมอ ควรรดน้ำทุกวันในช่วงแรกที่ปลูก และรดน้ำสม่ำเสมอเมื่อต้นโตแล้ว โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศแห้งแล้ง
  5. แสงแดด
    • กุยช่ายชอบแสงแดดเต็มที่ ควรปลูกในบริเวณที่ได้รับแสงแดดอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน
  6. การให้ปุ๋ย
    • สามารถให้ปุ๋ยเพิ่มเติมได้ประมาณเดือนละครั้ง โดยอาจเป็นปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยเคมีสูตรเสมอ (เช่น 15-15-15) ในปริมาณที่เหมาะสม
  7. การตัดแต่งและเก็บเกี่ยว
    • เมื่อกุยช่ายมีใบยาวประมาณ 20-30 เซนติเมตร สามารถเริ่มเก็บเกี่ยวได้ โดยใช้มีดคมตัดที่โคนต้น ควรเหลือส่วนโคนไว้ประมาณ 2-3 เซนติเมตร เพื่อให้กุยช่ายแตกใบใหม่ได้ การตัดแต่งใบอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้กุยช่ายแตกกอและให้ผลผลิตได้นานขึ้น
  8. การกำจัดวัชพืชและแมลง
    • ดูแลแปลงปลูกหรือกระถางอย่างสม่ำเสมอ กำจัดวัชพืชที่ขึ้นมารบกวน และสังเกตการเข้าทำลายของแมลง หากพบปัญหา ควรจัดการด้วยวิธีธรรมชาติก่อน หากจำเป็นจึงใช้สารกำจัดแมลงที่ปลอดภัย