เมล็ดพันธุ์ คื่นช่าย

30 ฿

  • จำนวน 500 เมล็ด
  • มีวิตามินเอสูง ซึ่งมีความสำคัญต่อการมองเห็นและสุขภาพของดวงตา
  • กลิ่นหอมและใยอาหารในคื่นช่ายช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร และช่วยบรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อ
  • ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ
  • มีโพแทสเซียมสูง ซึ่งช่วยในการควบคุมระดับความดันโลหิต

50 in stock

เมล็ดพันธุ์ คื่นช่าย 500 เมล็ด

คื่นช่าย (ชื่อวิทยาศาสตร์: Apium graveolens L.)  เป็นพืชล้มลุกในวงศ์ Apiaceae มีลักษณะเด่นคือมีก้านใบยาว อวบน้ำ มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ส่วนที่นิยมนำมาใช้บริโภคคือ ก้านใบและใบ ก้านใบมีลักษณะยาว อวบน้ำ มีสีเขียวอ่อนถึงเขียวเข้ม มีร่องตามยาว มีกลิ่นหอมฉุนเฉพาะตัว นิยมนำมาใช้ปรุงแต่งกลิ่นและรสชาติของอาหารต่างๆ เช่น ซุป ผัด หรือใช้รับประทานสดเป็นผัก ใบมีลักษณะเป็นแฉกคล้ายผักชี แต่มีขนาดใหญ่กว่าและมีกลิ่นหอมฉุนกว่า

คุณสมบัติ

  • กลิ่นหอมเฉพาะตัว
    • มีกลิ่นหอมฉุนเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นที่นิยมในการนำมาปรุงแต่งกลิ่นและรสชาติของอาหาร
  • อุดมไปด้วยสารอาหาร
    • มีวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินเค โพแทสเซียม และโฟเลต
  • มีสารต้านอนุมูลอิสระ
    • ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ
  • มีสรรพคุณทางยา
    • ในตำรายาแผนโบราณมีการใช้คื่นช่ายเพื่อบรรเทาอาการต่างๆ เช่น ขับลม ลดความดันโลหิต และอาจมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ

ประโยชน์ของคื่นช่าย

  • ช่วยลดความดันโลหิต
    • มีโพแทสเซียมสูง ซึ่งช่วยในการควบคุมระดับความดันโลหิต
  • ช่วยในการย่อยอาหาร
    • กลิ่นหอมและใยอาหารในคื่นช่ายช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร และช่วยบรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อ
  • เป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ
    • ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ
  • บำรุงสายตา
    • มีวิตามินเอสูง ซึ่งมีความสำคัญต่อการมองเห็นและสุขภาพของดวงตา
  • เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
    • วิตามินซีในคื่นช่ายช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง
  • ช่วยขับปัสสาวะ
    • มีคุณสมบัติเป็นยาขับปัสสาวะอ่อนๆ
  • ใช้ปรุงแต่งกลิ่นและรสชาติอาหาร
    • ทำให้เมนูอาหารมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะซุป ผัด และอาหารจีนหลายชนิด
  • ใช้รับประทานสด
    • สามารถนำก้านใบอ่อนมารับประทานสดเป็นผักแกล้มกับน้ำพริกหรือสลัด

วิธีการปลูก

  • การเพาะเมล็ด
    • การเตรียมดิน: เลือกดินร่วน ระบายน้ำได้ดี มีอินทรียวัตถุสูง ควรไถพรวนดินและกำจัดวัชพืชออกให้หมด อาจผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์
    • การเตรียมเมล็ด: เมล็ดคื่นช่ายมีขนาดเล็ก ควรนำมาแช่น้ำประมาณ 8-12 ชั่วโมง ก่อนนำไปเพาะ
    • การเพาะเมล็ด: หว่านเมล็ดให้กระจายทั่วแปลงเพาะ หรือเพาะในถาดเพาะ กลบดินบางๆ รดน้ำให้ชุ่ม และคลุมด้วยฟางหรือกระดาษหนังสือพิมพ์เพื่อรักษาความชื้น
    • การย้ายกล้า: เมื่อต้นกล้ามีใบจริง 4-5 ใบ และมีความสูงประมาณ 5-7 เซนติเมตร จึงย้ายลงแปลงปลูก โดยเว้นระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 15-20 เซนติเมตร และระหว่างแถวประมาณ 20-30 เซนติเมตร
  • การแยกกอ เป็นวิธีที่ง่ายและรวดเร็ว
    • การเตรียมกอ: เลือกต้นคื่นช่ายที่สมบูรณ์ แข็งแรง มีหลายกอ
    • การแยกกอ: ขุดต้นคื่นช่ายขึ้นมา แบ่งออกเป็นกอเล็กๆ โดยให้แต่ละกอมีรากและลำต้นติดอยู่
    • การปลูก: นำกอที่แยกได้ไปปลูกในดินที่เตรียมไว้ กลบดินให้มิดส่วนโคนต้น รดน้ำให้ชุ่ม
  • การดูแลรักษาคื่นช่าย
    • แสงแดด: คื่นช่ายชอบแสงแดดเต็มที่ ควรปลูกในบริเวณที่ได้รับแสงแดดอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน
    • น้ำ: ควรรดน้ำสม่ำเสมอให้ดินชุ่มชื้นอยู่เสมอ โดยเฉพาะในช่วงแรกของการเจริญเติบโต และในช่วงที่อากาศแห้งแล้ง
    • ดิน: ชอบดินร่วน ระบายน้ำได้ดี มีอินทรียวัตถุสูง
    • ปุ๋ย: สามารถให้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกบ้าง เดือนละ 1-2 ครั้ง เพื่อบำรุงต้นให้งาม หรืออาจให้ปุ๋ยเคมีสูตรเสมอ (เช่น 15-15-15) ในปริมาณเล็กน้อย
    • การกำจัดวัชพืช: หมั่นกำจัดวัชพืชที่ขึ้นรอบๆ ต้นคื่นช่าย เพื่อไม่ให้แย่งอาหารและแสงแดด
    • การพรวนดิน: ควรพรวนดินรอบๆ ต้นบ้าง เพื่อให้ดินร่วนซุยและระบายน้ำได้ดี
  • การเก็บเกี่ยว
    • คื่นช่ายสามารถเก็บเกี่ยวได้เมื่อมีอายุประมาณ 2-3 เดือน หลังจากการปลูก โดยสามารถตัดก้านใบที่โตเต็มที่ไปใช้ หรือถอนทั้งต้น
    • ควรเก็บเกี่ยวในช่วงเช้าที่ไม่มีแดดจัด เพื่อให้ได้คื่นช่ายที่สดและมีคุณภาพดี