เมล็ดพันธุ์ บรอกโคลี 100 เมล็ด
บรอกโคลี (ชื่อวิทยาศาสตร์: Brassica oleracea var. italica) เป็นพืชผักในวงศ์ Brassicaceae (วงศ์เดียวกับกะหล่ำปลี กะหล่ำดอก และคะน้า) ส่วนที่เราบริโภคคือส่วนของดอกสีเขียวขนาดเล็กจำนวนมากที่รวมกันเป็นช่อหนาแน่น และก้านดอกที่อวบน้ำ บรอกโคลีเป็นผักที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงมาก และนิยมนำมาประกอบอาหารหลากหลายชนิด ทั้งแบบต้ม ผัด อบ นึ่ง หรือรับประทานสดในสลัด
คุณสมบัติ
- อุดมไปด้วยวิตามินซี เป็นแหล่งที่ดีเยี่ยมของวิตามินซี ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญและช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
- มีวิตามินเคสูง ช่วยในการแข็งตัวของเลือดและมีบทบาทในการรักษาสุขภาพกระดูก
- เป็นแหล่งที่ดีของวิตามินเอ ในรูปของเบต้าแคโรทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระและมีบทบาทในการมองเห็นและระบบภูมิคุ้มกัน
- มีใยอาหารสูง ช่วยในการขับถ่าย ป้องกันอาการท้องผูก และส่งเสริมสุขภาพของระบบทางเดินอาหาร
- มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ซัลโฟราเฟน (Sulforaphane), อินโดล-3-คาร์บินอล (Indole-3-carbinol) และแคโรทีนอยด์ ซึ่งมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระและอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งบางชนิด
- มีแร่ธาตุ ประกอบด้วยแร่ธาตุที่จำเป็น เช่น โพแทสเซียม แคลเซียม และโฟเลต (วิตามินบี 9)
ประโยชน์ของเคลใบหยิก
- เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน วิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระในบรอกโคลีช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกัน
- ช่วยในการแข็งตัวของเลือดและบำรุงกระดูก วิตามินเคมีบทบาทสำคัญในกระบวนการเหล่านี้
- บำรุงสายตา เบต้าแคโรทีนเป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอ ซึ่งจำเป็นต่อการมองเห็น
- ส่งเสริมสุขภาพทางเดินอาหาร ใยอาหารช่วยเพิ่มปริมาณอุจจาระและลดความเสี่ยงของอาการท้องผูก
- อาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง สารซัลโฟราเฟนและอินโดล-3-คาร์บินอล มีการศึกษาว่าอาจมีคุณสมบัติในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งบางชนิด
- ส่งเสริมสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด ใยอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระอาจช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ
- ช่วยในการพัฒนาของทารกในครรภ์ โฟเลตมีความสำคัญต่อการพัฒนาของระบบประสาทของทารก
วิธีการปลูก
-
การเตรียมดิน
- เลือกพื้นที่ปลูกที่มีแสงแดดส่องถึงอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน
- ดินควรเป็นดินร่วน ระบายน้ำได้ดี มีความอุดมสมบูรณ์ และมีอินทรียวัตถุสูง
- ไถพรวนดินให้ลึกประมาณ 15-20 เซนติเมตร และกำจัดวัชพืชออกให้หมด
- ปรับปรุงดินด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในอัตราที่เหมาะสม
- ปรับค่า pH ของดินให้อยู่ระหว่าง 6.0-7.0
-
การเพาะกล้า (แนะนำ)
- นิยมเพาะกล้าก่อนย้ายปลูก สามารถเพาะในกระบะเพาะหรือแปลงเพาะ
- หว่านเมล็ดให้มีระยะห่างพอสมควร กลบดินบางๆ และรดน้ำให้ชุ่ม
- ดูแลต้นกล้าให้ได้รับแสงแดดและน้ำอย่างเพียงพอ ประมาณ 4-6 สัปดาห์ ต้นกล้าจะมีใบจริง 4-5 ใบ พร้อมย้ายปลูก
-
การย้ายปลูก
- ขุดหลุมปลูกให้มีขนาดใหญ่กว่ารากของต้นกล้าเล็กน้อย
- นำต้นกล้าลงปลูก โดยให้ระดับดินเดิมของต้นกล้าเสมอกับระดับดินในแปลง
- เว้นระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 45-60 เซนติเมตร และระยะห่างระหว่างแถวประมาณ 60-90 เซนติเมตร
- กลบดินและรดน้ำให้ชุ่ม
-
การดูแลรักษา
- การให้น้ำ บรอกโคลีต้องการน้ำสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงแรกของการเจริญเติบโตและช่วงการสร้างดอก ควรรักษาความชื้นในดินให้สม่ำเสมอ
- การใส่ปุ๋ย ให้ปุ๋ยที่มีธาตุไนโตรเจนสูงในช่วงแรกของการเจริญเติบโตเพื่อส่งเสริมการสร้างใบและลำต้น จากนั้นเมื่อเริ่มมีการสร้างดอก ให้เปลี่ยนเป็นปุ๋ยที่มีธาตุฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมสูงขึ้นเล็กน้อย
- การพรวนดินและกำจัดวัชพืช พรวนดินรอบโคนต้นเพื่อเพิ่มอากาศในดินและกำจัดวัชพืช
- การป้องกันและกำจัดโรคและแมลง บรอกโคลีอาจถูกรบกวนจากหนอนใยผัก หนอนเจาะยอด และโรคต่างๆ ควรมีการตรวจสอบและป้องกันกำจัดอย่างสม่ำเสมอ
-
การเก็บเกี่ยว
- บรอกโคลีจะใช้เวลาประมาณ 50-100 วัน ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และสภาพอากาศ
- สังเกตเมื่อช่อดอกมีขนาดตามต้องการ ดอกแน่น และยังไม่บาน (ดอกยังเป็นตุ่มเล็กๆ) ก็สามารถเก็บเกี่ยวได้
- ใช้มีดคมตัดที่ก้านดอก โดยให้เหลือส่วนก้านไว้ประมาณ 15-20 เซนติเมตร เพื่อให้ต้นอาจแตกแขนงและให้ผลผลิตรอบสองได้