เมล็ดพันธุ์ ดอกบลูซันเวีย 100 เมล็ด
ดอกบลูซันเวีย (ชื่อวิทยาศาสตร์: Salvia farinacea) ดอกบลูซันเวีย หรือที่รู้จักกันในชื่อ “มีลีคัพเซจ” เป็นไม้ดอกยืนต้นในตระกูลมิ้นต์ (Lamiaceae) มีถิ่นกำเนิดในรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา และเม็กซิโก เป็นพืชที่ได้รับความนิยมในการนำมาปลูกประดับสวน เนื่องจากมีช่อดอกสีน้ำเงินม่วงสดใสที่สวยงามและออกดอกได้ตลอดปีในสภาพอากาศที่เหมาะสม
คุณสมบัติ
- ลักษณะดอก ดอกออกเป็นช่อตั้งตรงเป็นรูปทรงกระบอกยาว มีดอกเล็กๆ สีน้ำเงินอมม่วง หรือบางสายพันธุ์อาจมีสีขาว หรือสีม่วงเข้มปกคลุมอยู่หนาแน่น คล้ายปุยกำมะหยี่เล็กๆ
- ใบ ใบเป็นรูปหอกเรียวยาว ขอบใบหยักเล็กน้อย สีเขียวเข้ม มีขนเล็กๆ ปกคลุม
- ขนาด ต้นสูงประมาณ 30-90 เซนติเมตร (1-3 ฟุต) แตกกอเป็นพุ่ม
- การดูแล ค่อนข้างทนทานต่อสภาพอากาศร้อนและแห้งแล้ง ทนทานต่อโรคและแมลงศัตรูพืช
- การดึงดูดแมลง ดอกบลูซันเวียเป็นที่ชื่นชอบของผึ้ง ผีเสื้อ และนกฮัมมิงเบิร์ด ทำให้เหมาะสำหรับการจัดสวนที่ต้องการดึงดูดแมลงเหล่านี้
ประโยชน์ของดอกบลูซันเวีย
- ไม้ประดับ เป็นไม้ประดับที่สวยงามมาก เหมาะสำหรับปลูกในแปลงดอกไม้ สวนหย่อม ริมทางเดิน หรือปลูกในกระถางเพื่อตกแต่งระเบียงและลานบ้าน ช่วยเพิ่มสีสันและชีวิตชีวาให้กับพื้นที่
- ดึงดูดแมลงผสมเกสร ดอกบลูซันเวียเป็นแหล่งอาหารที่ดีของผึ้ง ผีเสื้อ และนกฮัมมิงเบิร์ด การปลูกบลูซันเวียจึงช่วยส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพในสวน
- ทนทานและดูแลรักษาง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่หัดปลูกหรือผู้ที่ไม่มีเวลาดูแลมากนัก เนื่องจากเป็นพืชที่ทนทานต่อสภาพอากาศและศัตรูพืช
- ใช้ในพิธีการและศาสนา (ในบางวัฒนธรรม) ในบางวัฒนธรรม ซันเวียบางชนิดถูกนำไปใช้ในพิธีการทางศาสนาหรือเพื่อวัตถุประสงค์ทางจิตวิญญาณ อย่างไรก็ตาม Salvia farinacea ไม่ได้เป็นชนิดที่นิยมใช้ในเรื่องนี้เท่ากับ Salvia divinorum หรือ Salvia officinalis
วิธีการปลูก
- การเตรียมดิน
- ชอบดินร่วนปนทรายที่ระบายน้ำได้ดี และมีอินทรียวัตถุเพียงพอ
- ค่า pH ของดินควรอยู่ระหว่าง 6.0-7.0 (เป็นกลางถึงกรดเล็กน้อย)
- สามารถปรับปรุงดินด้วยปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกเพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์
- แสงแดด
- ชอบแดดจัดหรือได้รับแสงแดดอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน
- การได้รับแสงแดดไม่เพียงพออาจทำให้ดอกออกน้อยลงและลำต้นยืดสูง
- การปลูก
- การเพาะเมล็ด
- สามารถเพาะเมล็ดในกระถางเพาะหรือถาดเพาะเมล็ดก่อนย้ายลงแปลง
- หว่านเมล็ดบนผิวดินแล้วกลบดินบางๆ หรือโรยทับด้วยเวอร์มิคูไลท์ (vermiculite)
- รดน้ำเบาๆ ให้ดินชุ่มชื้นอยู่เสมอ
- เมล็ดจะเริ่มงอกภายใน 10-20 วัน
- เมื่อต้นกล้ามีใบจริง 2-3 คู่ สามารถย้ายปลูกลงกระถางหรือแปลงปลูกได้
- การปักชำ
- ตัดกิ่งที่สมบูรณ์ยาวประมาณ 10-15 เซนติเมตร โดยตัดใต้ข้อใบ
- เด็ดใบล่างออก แล้วจิ้มกิ่งลงในวัสดุปลูกที่ระบายน้ำได้ดี
- รดน้ำให้ชุ่มและวางไว้ในที่ร่มรำไร
- รากจะเริ่มงอกภายใน 2-4 สัปดาห์
- การเพาะเมล็ด
- การรดน้ำ
- ควรรดน้ำอย่างสม่ำเสมอในช่วงที่ต้นยังเล็กและกำลังตั้งตัว
- เมื่อโตเต็มที่แล้วจะทนทานต่อความแห้งแล้งได้ดีขึ้น แต่ก็ควรรดน้ำเมื่อดินเริ่มแห้ง โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน
- หลีกเลี่ยงการรดน้ำมากเกินไปซึ่งอาจทำให้รากเน่าได้
- การให้ปุ๋ย
- ไม่จำเป็นต้องให้ปุ๋ยบ่อยนัก
- สามารถให้ปุ๋ยสูตรเสมอ หรือปุ๋ยสำหรับไม้ดอกปีละ 1-2 ครั้งในช่วงฤดูปลูก
- การใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกเป็นประจำก็เพียงพอแล้ว
- การตัดแต่ง
- การเด็ดดอกที่โรยแล้วออก (deadheading) จะช่วยกระตุ้นให้เกิดดอกใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง
- สามารถตัดแต่งทรงพุ่มเพื่อควบคุมขนาดและรูปร่างของต้นได้
- โรคและแมลง
- โดยทั่วไปบลูซันเวียเป็นพืชที่ทนทานต่อโรคและแมลง
- ปัญหาที่อาจพบได้คือ เพลี้ยอ่อน หรือโรคราแป้งในสภาพแวดล้อมที่ชื้นเกินไป