เมล็ดพันธุ์ งาดำ 1,500 เมล็ด
งาดำ (ชื่อวิทยาศาสตร์: Sesamum indicum) เป็นพืชตระกูลเดียวกับงาขาวที่มีต้นกำเนิดในแอฟริกาและอินเดีย โดยมีเมล็ดสีดำที่นิยมใช้ในอาหารและเครื่องดื่มหลายประเภท เช่น งาดำคั่ว โรยหน้าขนม หรือใช้ในการปรุงรสต่าง ๆ งาดำยังเป็นที่รู้จักในวงการสมุนไพรและการแพทย์พื้นบ้าน เนื่องจากมีคุณสมบัติทางโภชนาการและสารอาหารที่มีประโยชน์
คุณสมบัติ
-
ลักษณะทางกายภาพ เมล็ดงาดำมีขนาดเล็กและสีดำ เนื้อในของเมล็ดจะมีรสชาติหอมมันและมีความกรอบ
-
รสชาติ รสชาติของงาดำจะมีความมันและหอมมากกว่างาขาว ซึ่งเหมาะสำหรับการเพิ่มรสชาติในอาหารหรือขนมต่าง ๆ
-
คุณค่าทางโภชนาการ งาดำอุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง เช่น โอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 ซึ่งดีต่อสุขภาพ ช่วยให้ร่างกายได้รับแคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก วิตามินบี และไฟเบอร์
ประโยชน์ของงาดำ
-
ช่วยบำรุงกระดูก งาดำอุดมไปด้วยแคลเซียม ซึ่งช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงและป้องกันโรคกระดูกพรุน
-
เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน สารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินบีในงาดำช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและลดความเสี่ยงจากโรคต่าง ๆ
-
บำรุงผิวพรรณ งาดำมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ลดการเกิดริ้วรอย และบำรุงสุขภาพผิว
-
ลดความดันโลหิต เมล็ดงาดำมีสารที่ช่วยลดความดันโลหิต และลดความเสี่ยงจากโรคหลอดเลือดหัวใจ
-
บำรุงเส้นผม การรับประทานงาดำสามารถช่วยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรงและเงางาม
-
ช่วยในการย่อยอาหาร ด้วยไฟเบอร์สูง งาดำช่วยในกระบวนการย่อยอาหาร ลดปัญหาท้องผูกและปรับปรุงระบบย่อยอาหารให้ทำงานได้ดีขึ้น
-
ช่วยลดคอเลสเตอรอล กรดไขมันในงาดำช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
วิธีการปลูก
-
การเตรียมดิน งาดำชอบดินที่มีการระบายน้ำดี ดินควรมีความร่วนซุยและมีการเติมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเพื่อเพิ่มธาตุอาหารในดิน
-
การเพาะเมล็ด เมล็ดงาดำสามารถเพาะในแปลงปลูกได้โดยการหว่านเมล็ดลงในดิน ระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 30-40 เซนติเมตร
-
การเลือกสถานที่ปลูก งาดำต้องการแสงแดดเต็มที่ ดังนั้นควรเลือกสถานที่ที่ได้รับแสงแดดโดยตรงอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน
-
การรดน้ำและดูแล รดน้ำในช่วงเช้าหรือเย็น เพื่อป้องกันการเกิดโรคจากความชื้นสูง แต่ต้องระวังไม่ให้ดินแฉะเกินไป ซึ่งอาจทำให้เกิดโรครากเน่า
-
การกำจัดวัชพืช ควรกำจัดวัชพืชในแปลงปลูกออกอย่างสม่ำเสมอ เพราะวัชพืชจะชิงอาหารและแสงแดดจากงาดำ
-
การเก็บเกี่ยว งาดำจะเริ่มเก็บเกี่ยวได้เมื่อต้นงาตั้งตรงและฝักเปิด เมล็ดจะหลุดจากฝักเมื่อสุกแล้ว สามารถเก็บเกี่ยวได้ประมาณ 3-4 เดือนหลังจากปลูก ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ