เมล็ดพันธุ์ มะเขือเทศบิวตี้ฟูล บอสตัน 50 เมล็ด
มะเขือเทศบิวตี้ฟูล บอสตัน (ชื่อวิทยาศาสตร์: Lycopersicon esculentum) เป็นมะเขือเทศพันธุ์ต่างประเทศที่มีความโดดเด่นเรื่อง รูปร่าง สีสัน และรสชาติ มักมีลักษณะผล กลมใหญ่ เปลือกเรียบ สีแดงอมชมพูหรือแดงเข้ม เนื้อแน่น รสหวานอมเปรี้ยว มีกลิ่นหอมอ่อนๆ นิยมรับประทานสด และเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ปลูกเพื่อจำหน่ายหรือปลูกไว้รับประทานเองในครัวเรือน
เป็นพันธุ์ที่เริ่มได้รับความนิยมในไทยจากสายเกษตรอินทรีย์หรือฟาร์มผักปลอดสาร
คุณสมบัติ
-
ผลมีขนาด ใหญ่และสวย จึงเหมาะกับการขายหรือใช้ประดับอาหาร
-
เนื้อแน่น ไม่เละง่าย เหมาะทั้งกินสดและปรุงอาหาร
-
มีวิตามินสูง โดยเฉพาะ วิตามิน A, C และไลโคปีน (Lycopene)
-
ทนต่อสภาพอากาศได้พอสมควร และให้ผลผลิตต่อเนื่อง
-
ผิวเปลือกบางแต่แข็งแรง ไม่ช้ำง่ายระหว่างขนส่ง
ประโยชน์ของมะเขือเทศบิวตี้ฟูล บอสตัน
เพื่อสุขภาพ:
-
มี ไลโคปีนสูง ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง
-
เสริมภูมิคุ้มกัน บำรุงผิวพรรณ และช่วยลดริ้วรอย
-
ช่วยในเรื่อง การขับถ่าย เพราะมีไฟเบอร์สูง
-
บำรุงสายตา ด้วยวิตามินเอ
-
ช่วยควบคุมความดันโลหิตและบำรุงหัวใจ
ทางอาหาร:
-
นิยมใช้ใน สลัด แซนด์วิช หรือรับประทานสด
-
เหมาะกับการทำ น้ำมะเขือเทศปั่น ซอสโฮมเมด
-
ใช้แต่งจานอาหารให้ดูหรูหรา น่ารับประทาน
วิธีการปลูก
มะเขือเทศพันธุ์นี้ปลูกได้ดีในไทย โดยเฉพาะในฤดูหนาวหรือพื้นที่เย็น
การปลูก:
-
เพาะเมล็ด:
-
แช่เมล็ดในน้ำอุ่น 6–8 ชั่วโมงก่อนเพาะ
-
ใช้ถาดเพาะหรือกระถางเล็กเพาะกล้าในดินร่วน
-
ใช้เวลา 7–10 วันจึงเริ่มงอก
-
-
ย้ายปลูก:
-
เมื่อต้นสูง 10–15 ซม. และมีใบจริง 3–5 ใบ ให้ย้ายลงแปลงหรือกระถางใหญ่
-
เว้นระยะห่างระหว่างต้น 40–60 ซม.
-
-
สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม:
-
ดิน: ดินร่วน ระบายน้ำดี ผสมปุ๋ยหมัก
-
แสงแดด: ต้องการแสงแดดเต็มวัน (อย่างน้อย 6 ชม./วัน)
-
อุณหภูมิ: ปลูกได้ทั้งปี แต่จะให้ผลดีในอากาศเย็นหรืออุณหภูมิปานกลาง
-
-
การดูแล:
-
รดน้ำเช้า-เย็นให้ชุ่มแต่ไม่แฉะ
-
ใส่ปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยหมักทุก 10–14 วัน
-
ทำค้างหรือโครงให้พยุงต้นไม่ให้ล้ม
-
ป้องกันโรคใบไหม้ เพลี้ย และหนอนเจาะผลด้วยวิธีธรรมชาติ
-
-
การเก็บเกี่ยว:
-
เริ่มเก็บเกี่ยวเมื่อผลเริ่มเปลี่ยนสีเป็นแดงอมชมพู
-
โดยปกติใช้เวลาประมาณ 60–75 วันหลังเพาะ ขึ้นกับสภาพแวดล้อม
-