เมล็ดพันธุ์ โหระพา

30 ฿

  • จำนวน 300 เมล็ด
  • สารสำคัญในโหระพาอาจช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
  • สารฟลาโวนอยด์และน้ำมันหอมระเหยช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ
  • น้ำมันหอมระเหยในโหระพามีฤทธิ์ช่วยลดอาการคัดจมูก ไอ และเจ็บคอ
  • สารต้านอนุมูลอิสระในโหระพาอาจช่วยปกป้องผิวจากความเสียหาย

เมล็ดพันธุ์ โหระพา 300 เมล็ด

โหระพา (ชื่อวิทยาศาสตร์: Ocimum basilicum.) เป็นพืชล้มลุกชนิดหนึ่งในวงศ์กะเพรา (Lamiaceae) มีลำต้นเป็นพุ่มขนาดเล็ก สูงประมาณ 20-60 เซนติเมตร ใบมีสีเขียวสด ลักษณะเป็นรูปไข่ ปลายแหลม มีขอบหยักเล็กน้อย มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวที่โดดเด่น นิยมนำมาใช้ปรุงแต่งกลิ่นและรสชาติในอาหารหลากหลายชนิดทั่วโลก โดยเฉพาะในอาหารไทย เวียดนาม และอิตาลี โหระพาเป็นพืชที่มีหลากหลายสายพันธุ์ ซึ่งแต่ละสายพันธุ์ก็มีลักษณะและกลิ่นที่แตกต่างกันไป เช่น โหระพาไทย โหระพาเทศ (sweet basil) โหระพาอิตาลี (Genovese basil) และโหระพาแดง (purple basil)

คุณสมบัติ

  • น้ำมันหอมระเหย (Essential oils)
    • เช่น linalool, eugenol, methyl chavicol (estragole), cineole ซึ่งมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านเชื้อรา และต้านอนุมูลอิสระ
  • ฟลาโวนอยด์ (Flavonoids)
    • เช่น orientin, vicenin, quercetin ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
  • แทนนิน (Tannins)
    • มีฤทธิ์ฝาดสมาน
  • วิตามินและแร่ธาตุ
    • เช่น วิตามินเอ วิตามินเค วิตามินซี แคลเซียม และแมกนีเซียม

ประโยชน์ของโหระพา

  • ช่วยบรรเทาอาการหวัดและไข้
    • น้ำมันหอมระเหยในโหระพามีฤทธิ์ช่วยลดอาการคัดจมูก ไอ และเจ็บคอ
  • ช่วยลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ
    • โหระพามีฤทธิ์ขับลม ช่วยบรรเทาอาการไม่สบายท้อง
  • ช่วยต้านการอักเสบ
    • สารประกอบในโหระพามีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อโรคที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบ
  • ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
    • สารฟลาโวนอยด์และน้ำมันหอมระเหยช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ
  • ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
    • สารสำคัญในโหระพาอาจช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
  • อาจช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวล
    • กลิ่นหอมของโหระพาอาจมีผลช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย
  • ช่วยบำรุงผิวพรรณ
    • สารต้านอนุมูลอิสระในโหระพาอาจช่วยปกป้องผิวจากความเสียหาย
  • มีวิตามินและแร่ธาตุ
    • เป็นแหล่งของวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย

วิธีการปลูก

  • การเตรียมดิน
    • โหระพาชอบดินร่วน ระบายน้ำได้ดี ควรไถพรวนดินให้ละเอียด และผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์
  • การเพาะเมล็ด:
    • เพาะในกระถางเพาะ: หว่านเมล็ดโหระพาบางๆ กลบดินเล็กน้อย รดน้ำให้ชุ่ม วางในที่ที่มีแสงแดดรำไร เมื่อต้นกล้ามีใบจริง 2-3 คู่ สามารถย้ายลงกระถางหรือแปลงปลูกได้
    • หว่านลงแปลงโดยตรง: หว่านเมล็ดเป็นแถว โดยให้มีระยะห่างระหว่างแถวประมาณ 30-40 เซนติเมตร กลบดินบางๆ รดน้ำให้ชุ่ม เมื่อต้นกล้าโตขึ้นให้ถอนแยกให้มีระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 20-30 เซนติเมตร
  • การปักชำ
    • เป็นวิธีที่นิยมและทำได้ง่าย โดยเลือกกิ่งโหระพาที่ไม่อ่อนหรือแก่จนเกินไป ยาวประมาณ 10-15 เซนติเมตร เด็ดใบล่างออก ปักลงในดินร่วนที่ชุ่มชื้น หรือแช่ในน้ำจนรากงอก แล้วจึงนำไปปลูกในดิน รดน้ำสม่ำเสมอ
  • การปลูก
    • ย้ายต้นกล้าที่เพาะไว้ หรือกิ่งชำที่รากงอกแล้ว ลงในแปลงปลูกหรือกระถาง โดยให้มีระยะห่างระหว่างต้นและแถวตามที่กล่าวไว้ข้างต้น
  • การดูแล:
    • การรดน้ำ: รดน้ำสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงแรกของการปลูก และในช่วงที่อากาศแห้งแล้ง ควรรดน้ำในช่วงเช้าหรือเย็น หลีกเลี่ยงการรดน้ำจนดินแฉะเกินไป
    • การให้ปุ๋ย: ใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกประมาณเดือนละครั้ง เพื่อบำรุงต้นให้เจริญเติบโตดี
    • การกำจัดวัชพืช: หมั่นกำจัดวัชพืชรอบๆ ต้นโหระพา เพื่อไม่ให้แย่งอาหารและน้ำ
    • การตัดแต่ง: เด็ดยอดอ่อนและดอกที่เริ่มออก เพื่อกระตุ้นให้แตกกิ่งก้านและมีใบมากขึ้น จะทำให้ได้ผลผลิตใบที่มากขึ้นและมีคุณภาพดี
  • การเก็บเกี่ยว
    • สามารถเก็บเกี่ยวใบโหระพาได้เมื่อต้นมีอายุประมาณ 30-45 วัน โดยเด็ดเฉพาะใบ หรือตัดทั้งกิ่งก็ได้ ควรเก็บเกี่ยวในช่วงเช้าที่มีแดดอ่อนๆ เพื่อให้ได้ใบที่มีกลิ่นหอมและมีคุณภาพดีที่สุด