เมล็ดพันธุ์ มะตูม

30 ฿

  • จำนวน 12 เมล็ด
  • ผลดิบช่วยบรรเทาอาการท้องเสีย บิด ท้องร่วง
  • เนื้อไม้และรากใช้เป็นยาแก้ไข้ ลดความร้อน
  • เนื้อไม้ใช้ในการก่อสร้าง ทำเครื่องมือเครื่องใช้
  • ยางใช้เป็นยาแก้ปวดฟัน

เมล็ดพันธุ์ มะตูม 12 เมล็ด

มะตูม (ชื่อวิทยาศาสตร์: Aegle marmelos) เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงใหญ่ มีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทยด้วยครับ จัดอยู่ในวงศ์ส้ม (Rutaceae)

คุณสมบัติ

  • ลำต้น
    • สูงประมาณ 10-15 เมตร เปลือกต้นสีเทาอ่อน แตกเป็นร่อง
  • ใบ
    • เป็นใบประกอบแบบมีสามใบย่อย ใบย่อยรูปไข่ ขอบใบหยักมนเล็กน้อย มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวเมื่อขยี้
  • ดอก
    • ออกเป็นช่อตามซอกใบหรือปลายกิ่ง ดอกมีสีขาวหรือสีเหลืองอ่อน มีกลิ่นหอม
  • ผล
    • มีลักษณะกลม เปลือกแข็ง เมื่อยังอ่อนมีสีเขียว เมื่อแก่จัดจะมีสีเหลืองอมเขียวหรือสีน้ำตาลอ่อน ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 5-12 เซนติเมตร เนื้อในมีสีส้ม มีเมล็ดจำนวนมาก
  • รสชาติและกลิ่น
    • ผลดิบมีรสฝาด ขม และมีกลิ่นฉุน เมื่อสุกจะมีรสหวานหอม
  • สารสำคัญ
    • อุดมไปด้วยสารสำคัญหลายชนิด เช่น แทนนิน (Tannins), ฟลาโวนอยด์ (Flavonoids), อัลคาลอยด์ (Alkaloids), คูมาริน (Coumarins), และน้ำมันหอมระเหย
  • ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา
    • มีรายงานการศึกษาว่าสารสกัดจากส่วนต่างๆ ของมะตูมมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านเชื้อรา ต้านการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ ลดระดับน้ำตาลในเลือด และช่วยในการทำงานของระบบทางเดินอาหาร

ประโยชน์ของมะตูม

  1. ทางยา
    • ผลดิบ ช่วยบรรเทาอาการท้องเสีย บิด ท้องร่วง
    • ผลสุก เป็นยาระบายอ่อนๆ ช่วยในการขับถ่าย
    • เนื้อไม้และราก ใช้เป็นยาแก้ไข้ ลดความร้อน
    • ใบ ใช้พอกแผล แก้อาการอักเสบ
    • ยาง ใช้เป็นยาแก้ปวดฟัน
  2. ทางอาหาร
    • ผลสุก รับประทานสด ทำน้ำมะตูม เชื่อม แยม หรือนำไปใส่ในขนมต่างๆ
    • ผลอ่อน นำไปย่างหรือเผา รับประทานเป็นผัก
    • ใบอ่อน ใช้รับประทานเป็นผักสดในบางท้องถิ่น
  3. อื่นๆ
    • เนื้อไม้ ใช้ในการก่อสร้าง ทำเครื่องมือเครื่องใช้
    • เปลือก ให้สีสำหรับย้อมผ้า

วิธีการปลูก

  1. การปลูกมะตูมสามารถทำได้หลายวิธี

    • การเพาะเมล็ด เป็นวิธีที่ง่าย แต่ต้นที่ได้อาจมีความแปรปรวนทางพันธุกรรมและใช้เวลานานกว่าจะให้ผลผลิต
    • การตอนกิ่ง เป็นวิธีที่นิยม เพราะได้ต้นที่มีลักษณะเหมือนต้นแม่ และให้ผลผลิตเร็วกว่าการเพาะเมล็ด
    • การทาบกิ่ง เป็นอีกวิธีที่ช่วยให้ได้ต้นที่มีลักษณะดีและแข็งแรง
    • การติดตา คล้ายกับการทาบกิ่ง แต่ใช้ส่วนของตามาเชื่อมกับต้นตอ

    ขั้นตอนการปลูกโดยทั่วไป

    1. การเตรียมดิน มะตูมชอบดินร่วน ระบายน้ำได้ดี ควรไถพรวนดินและกำจัดวัชพืช
    2. การเตรียมหลุมปลูก ขุดหลุมขนาดประมาณ 50x50x50 เซนติเมตร รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก
    3. การปลูก นำต้นกล้าลงปลูก กลบดินให้มิดราก ยกเว้นส่วนโคนต้น รดน้ำให้ชุ่ม
    4. การดูแลรักษา
      • การให้น้ำ ควรรดน้ำสม่ำเสมอในช่วงแรกที่ปลูก เมื่อต้นโตแล้วสามารถให้น้ำน้อยลงได้ แต่ควรรักษาความชื้นในดิน
      • การใส่ปุ๋ย ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักปีละ 2-3 ครั้ง หรือใส่ปุ๋ยเคมีสูตรเสมอ เช่น 15-15-15 ในปริมาณที่เหมาะสม
      • การกำจัดวัชพืช ควรกำจัดวัชพืชรอบโคนต้นอย่างสม่ำเสมอ
      • การตัดแต่งกิ่ง ตัดแต่งกิ่งที่แห้ง เป็นโรค หรือกิ่งที่แน่นทึบเกินไป เพื่อให้ทรงพุ่มโปร่งและแสงแดดส่องถึง
      • การป้องกันและกำจัดศัตรู มะตูมไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องศัตรูและโรคมากนัก แต่ควรสังเกตและป้องกันหากพบปัญหา