เมล็ดพันธุ์ เบบี้คอส

30 ฿

  • จำนวน 200 เมล็ด
  • เนื่องจากเบบี้คอสมีแคลอรีต่ำและมีน้ำมาก ช่วยให้รู้สึกอิ่มได้โดยไม่เพิ่มแคลอรี่มากเกินไป
  • มีไฟเบอร์สูง ซึ่งช่วยในการย่อยอาหารและป้องกันการท้องผูก
  • เบบี้คอสอุดมไปด้วยวิตามิน A, C, K, และกรดโฟลิก รวมถึงแร่ธาตุต่างๆ เช่น แคลเซียม และเหล็ก ซึ่งช่วยเสริมสร้างสุขภาพกระดูกและระบบภูมิคุ้มกัน
  • ด้วยวิตามิน A และ C ที่ช่วยบำรุงผิวพรรณ ทำให้ผิวดูสดใสและมีสุขภาพดี

เมล็ดพันธุ์ เบบี้คอส 200 เมล็ด

เบบี้คอส (ชื่อวิทยาศาสตร์: Lactuca sativa) หรือ เบบี้คอสเลต เป็นผักสลัดชนิดหนึ่งที่มีความนิยมในตลาดอาหาร โดยเฉพาะในวงการร้านอาหารหรือคาเฟ่ เนื่องจากความกรอบและรสชาติที่สดชื่น เป็นพันธุ์ผักสลัดที่มีลักษณะคล้ายกับผักคอส (Cos lettuce) แต่มีขนาดเล็กกว่าและมักจะเก็บเกี่ยวก่อนที่มันจะเจริญเติบโตเต็มที่ โดยมีใบสีเขียวเข้มและมีรสชาติกรอบ สดชื่น นิยมใช้ในการทำสลัดหรือเมนูที่ต้องการรสชาติสดใหม่

คุณสมบัติ

  • ขนาดเล็ก ชื่อ “เบบี้” หมายถึงขนาดเล็กของผักชนิดนี้ ซึ่งทำให้เหมาะสำหรับการใช้เป็นส่วนผสมในสลัดหรือเมนูอาหารที่ต้องการผักสดใหม่

  • สีและรูปลักษณ์ มีใบสีเขียวเข้ม ร่างกายของใบมีความกรอบและบาง น้ำหนักเบา

  • รสชาติ เบบี้คอสมีรสชาติที่อ่อนหวานและกรอบ เปี่ยมไปด้วยความสดชื่น เหมาะสำหรับการรับประทานสด

  • การเจริญเติบโต เป็นพืชที่เติบโตได้ในสภาพอากาศเย็นถึงอุณหภูมิห้อง สามารถปลูกได้ในดินร่วนซุยและมีการระบายน้ำดี

ประโยชน์ของเบบี้คอส

  1. แหล่งวิตามินและแร่ธาตุ

    • เบบี้คอสอุดมไปด้วยวิตามิน A, C, K, และกรดโฟลิก รวมถึงแร่ธาตุต่างๆ เช่น แคลเซียม และเหล็ก ซึ่งช่วยเสริมสร้างสุขภาพกระดูกและระบบภูมิคุ้มกัน

  2. ช่วยระบบย่อยอาหาร

    • มีไฟเบอร์สูง ซึ่งช่วยในการย่อยอาหารและป้องกันการท้องผูก

  3. ช่วยลดน้ำหนัก

    • เนื่องจากเบบี้คอสมีแคลอรีต่ำและมีน้ำมาก ช่วยให้รู้สึกอิ่มได้โดยไม่เพิ่มแคลอรี่มากเกินไป

  4. เสริมสุขภาพผิว

    • ด้วยวิตามิน A และ C ที่ช่วยบำรุงผิวพรรณ ทำให้ผิวดูสดใสและมีสุขภาพดี

วิธีการปลูก

  1. การเตรียมดิน ควรเลือกดินที่ร่วนซุยและมีการระบายน้ำดี ผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับดิน

  2. การปลูก สามารถปลูกได้จากเมล็ดหรือกล้าพืช โดยปลูกเมล็ดลงในหลุมที่มีระยะห่างประมาณ 20-30 ซม. เพื่อให้ต้นเติบโตได้สะดวก

  3. แสงแดด ควรปลูกในที่ที่ได้รับแสงแดดพอสมควร โดยไม่ควรให้โดนแสงแดดจัดเกินไป เพราะจะทำให้ผักมีรสขม

  4. การรดน้ำ เบบี้คอสต้องการน้ำมากในช่วงที่มันยังเติบโต ควรรดน้ำเป็นประจำเพื่อรักษาความชื้นในดิน แต่ต้องระวังไม่ให้น้ำขัง เพราะจะทำให้รากเน่า

  5. การดูแลและเก็บเกี่ยว ปลูกเป็นเวลา 6-8 สัปดาห์หลังจากการปลูก เมื่อต้นโตถึงขนาดที่เหมาะสม สามารถเก็บเกี่ยวได้ โดยเก็บใบที่สมบูรณ์ และทิ้งใบที่เริ่มเหี่ยว