เมล็ดพันธุ์ หน่อไม้ฝรั่ง

30 ฿

  • จำนวน 50 เมล็ด
  • ใยอาหารสูงช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี
  • ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากความเสียหาย
  • เป็นผักที่มีแคลอรี่ต่ำมาก
  • มีโฟเลตสูง ซึ่งจำเป็นต่อการพัฒนาของทารกในครรภ์

เมล็ดพันธุ์ หน่อไม้ฝรั่ง 50 เมล็ด

หน่อไม้ฝรั่ง (ชื่อวิทยาศาสตร์: Asparagus officinalis) เป็นพืชผักยืนต้นชนิดหนึ่ง มีลำต้นใต้ดินที่เรียกว่า “เหง้า” และมีหน่ออ่อนที่งอกขึ้นมาจากเหง้าเหนือดิน ซึ่งเป็นส่วนที่เรานำมารับประทานกัน หน่ออ่อนเหล่านี้มีลักษณะเป็นแท่งยาว อวบน้ำ มีเกล็ดเล็ก ๆ ปกคลุม และมีปลายแหลม หน่อไม้ฝรั่งมีหลายสายพันธุ์ ซึ่งมีสีและขนาดแตกต่างกันไป เช่น สีเขียว สีขาว และสีม่วง

คุณสมบัติ

  • รสชาติ มีรสชาติหวานเล็กน้อย ขมปลาย ๆ และมีกลิ่นเฉพาะตัว
  • เนื้อสัมผัส กรอบ อวบน้ำ
  • แคลอรี่ต่ำ เป็นผักที่มีแคลอรี่ต่ำมาก
  • อุดมด้วยใยอาหาร ช่วยในการขับถ่ายและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
  • มีวิตามินและแร่ธาตุ เช่น วิตามินเค, วิตามินเอ, วิตามินซี, วิตามินอี, โฟเลต, โพแทสเซียม และทองแดง
  • มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากความเสียหาย

ประโยชน์ของหน่อไม้ฝรั่ง

  1. ส่งเสริมสุขภาพทางเดินอาหาร ใยอาหารสูงช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี ป้องกันอาการท้องผูก
  2. บำรุงหัวใจและหลอดเลือด โพแทสเซียมช่วยควบคุมความดันโลหิต และใยอาหารช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล
  3. เสริมสร้างกระดูก วิตามินเคมีความสำคัญต่อการสร้างและบำรุงรักษากระดูกให้แข็งแรง
  4. บำรุงสายตา วิตามินเอและสารต้านอนุมูลอิสระช่วยในการมองเห็นและป้องกันความเสื่อมของจอประสาทตา
  5. ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน วิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
  6. ช่วยในการควบคุมน้ำหนัก แคลอรี่ต่ำและมีใยอาหารสูง ทำให้รู้สึกอิ่มนาน
  7. มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ สารประกอบบางชนิดในหน่อไม้ฝรั่งมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ
  8. ดีต่อหญิงตั้งครรภ์ มีโฟเลตสูง ซึ่งจำเป็นต่อการพัฒนาของทารกในครรภ์

วิธีการปลูก

  1. การเตรียมดิน เลือกพื้นที่ปลูกที่มีดินร่วน ระบายน้ำได้ดี มีอินทรียวัตถุสูง และมีค่า pH ประมาณ 6.0-7.5 ไถพรวนดินให้ลึกประมาณ 20-30 เซนติเมตร และปรับปรุงดินด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก
  2. การเตรียมหน่อพันธุ์ สามารถปลูกได้จากเมล็ดหรือเหง้า การปลูกด้วยเหง้าจะให้ผลผลิตเร็วกว่า โดยเลือกเหง้าที่มีอายุประมาณ 1-2 ปี มีตาที่สมบูรณ์และปราศจากโรคแมลง
  3. การปลูก
    • ปลูกด้วยเหง้า ขุดหลุมให้มีขนาดกว้างและลึกประมาณ 15-20 เซนติเมตร วางเหง้าลงในหลุมโดยให้ส่วนยอดของเหง้าชี้ขึ้น กลบดินให้หนาประมาณ 5-7 เซนติเมตร เว้นระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 50-75 เซนติเมตร และระยะห่างระหว่างแถวประมาณ 1-1.5 เมตร
    • ปลูกด้วยเมล็ด หว่านเมล็ดในแปลงเพาะกล้า เมื่อต้นกล้ามีอายุประมาณ 2-3 เดือน หรือมีความสูงประมาณ 15-20 เซนติเมตร จึงย้ายลงแปลงปลูก
  4. การให้น้ำ รดน้ำอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงแรกของการปลูกและช่วงที่หน่อกำลังเจริญเติบโต ควรให้น้ำในปริมาณที่เพียงพอแต่ไม่แฉะเกินไป
  5. การให้ปุ๋ย ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ เช่น ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อย่างน้อยปีละ 2-3 ครั้ง และอาจเสริมด้วยปุ๋ยเคมีสูตรเสมอ (เช่น 15-15-15) ในช่วงที่ต้นกำลังเจริญเติบโต
  6. การกำจัดวัชพืช ควรกำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอเพื่อไม่ให้แย่งอาหารและแสงแดดของหน่อไม้ฝรั่ง
  7. การพรวนดินและพูนโคน พรวนดินรอบโคนต้นเพื่อเพิ่มอากาศในดิน และพูนโคนต้นเล็กน้อยเพื่อช่วยให้หน่อเจริญเติบโตได้ดี
  8. การเก็บเกี่ยว โดยทั่วไปจะเริ่มเก็บเกี่ยวได้หลังจากปลูกด้วยเหง้าประมาณ 1-2 ปี และปลูกด้วยเมล็ดประมาณ 2-3 ปี เมื่อหน่อมีความ
    สูงประมาณ 20-25 เซนติเมตร และมีปลายยอดที่ยังแน่นอยู่ ควรเก็บเกี่ยวในช่วงเช้าหรือเย็น เพื่อรักษาความสดของหน่อ