เมล็ดพันธุ์ บวบแอปเปิ้ล 8 เมล็ด
บวบแอปเปิ้ล (ชื่อวิทยาศาสตร์: Luffa acutangula (L.) Roxb.) หรือที่รู้จักกันในชื่อ บวบเหลี่ยมลูกสั้น หรือ บวบหอมเหลี่ยม เป็นพันธุ์หนึ่งของบวบเหลี่ยม (Angled Luffa) ที่มีลักษณะเด่นคือ ผลมีรูปร่างป้อม กลมแป้นคล้ายผลแอปเปิ้ล แทนที่จะมีรูปร่างยาวเรียวเหมือนบวบเหลี่ยมทั่วไป บางครั้งอาจมีลักษณะเป็นเหลี่ยมตื้นๆ ไม่เด่นชัดเท่าบวบเหลี่ยมปกติ
คุณสมบัติ
- ลำต้น เป็นเถาเลื้อย มีมือเกาะสำหรับยึดเหนี่ยว
- ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกสลับ รูปฝ่ามือ มี 3-5 แฉก ขอบใบหยัก มีขนอ่อนๆ ปกคลุม
- ดอก เป็นดอกเดี่ยวหรือดอกช่อ ออกตามซอกใบ มีทั้งดอกตัวผู้และดอกตัวเมียอยู่บนต้นเดียวกัน ดอกมีสีเหลืองสด กลีบดอก 5 กลีบ
- ผล มีลักษณะป้อม กลมแป้นคล้ายผลแอปเปิ้ล อาจมีเหลี่ยมตื้นๆ ตามยาว ผิวผลสีเขียวอ่อน เนื้อผลแน่น ฉ่ำน้ำ
- รูปร่างที่เป็นเอกลักษณ์ ผลมีรูปร่างกลมแป้นคล้ายแอปเปิ้ล ทำให้ดูน่าสนใจและแตกต่างจากบวบชนิดอื่นๆ
- รสชาติ ผลดิบมีรสชาติหวานเล็กน้อย เนื้อนุ่ม ฉ่ำน้ำ คล้ายบวบเหลี่ยม แต่มีความนุ่มและหวานกว่าเล็กน้อย
- คุณค่าทางโภชนาการ เป็นแหล่งของวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด เช่น วิตามินเอ วิตามินซี แคลเซียม ฟอสฟอรัส และใยอาหาร
- เติบโตง่าย เป็นพืชที่ปลูกง่าย เจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศร้อนชื้น และให้ผลผลิตค่อนข้างเร็ว
- หลากหลายในการปรุงอาหาร สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู ทั้งผัด แกง ต้ม หรือลวกจิ้ม
ประโยชน์ของบวบแอปเปิ้ล
- เป็นอาหาร ผลดิบเป็นผักที่นิยมบริโภค ให้รสชาติอร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการสูง สามารถนำมาปรุงอาหารได้หลากหลายเมนู เช่น ผัดกับไข่ แกงเลียง ต้มจิ้มน้ำพริก หรือนำไปยัดไส้
- คุณค่าทางโภชนาการ เป็นแหล่งของใยอาหารที่ดี ช่วยในการขับถ่าย และมีวิตามินและแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
- ทางสมุนไพร เช่นเดียวกับบวบเหลี่ยม ส่วนต่างๆ ของบวบแอปเปิ้ลอาจมีสรรพคุณทางสมุนไพรบ้าง เช่น ช่วยขับปัสสาวะและลดความร้อนในร่างกาย
- ความสวยงาม ด้วยรูปร่างที่น่ารักคล้ายแอปเปิ้ล ทำให้บวบชนิดนี้เป็นที่นิยมปลูกเพื่อความสวยงามในสวนครัว
วิธีการปลูก
-
การเตรียมดิน บวบแอปเปิ้ลชอบดินร่วน ระบายน้ำได้ดี มีอินทรียวัตถุสูง ควรไถพรวนดินให้ลึกประมาณ 15-20 เซนติเมตร และตากดินทิ้งไว้ 2-3 วัน จากนั้นใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักคลุกเคล้าให้เข้ากัน ยกแปลงปลูกให้สูงประมาณ 20-30 เซนติเมตร กว้างประมาณ 1-1.5 เมตร เว้นทางเดินระหว่างแปลงประมาณ 50-80 เซนติเมตร
-
การเพาะเมล็ด
- นำเมล็ดบวบแอปเปิ้ลมาแช่น้ำอุ่นทิ้งไว้ประมาณ 6-8 ชั่วโมง เพื่อกระตุ้นการงอก
- หยอดเมล็ดลงในหลุมที่เตรียมไว้ในแปลงปลูก หลุมละ 2-3 เมล็ด ลึกประมาณ 1-2 เซนติเมตร ระยะห่างระหว่างหลุมประมาณ 50-80 เซนติเมตร และระยะห่างระหว่างแถวประมาณ 1-1.5 เมตร
- กลบดินบางๆ รดน้ำให้ชุ่ม
-
การดูแลรักษา
- การให้น้ำ ควรรดน้ำอย่างสม่ำเสมอทุกวัน โดยเฉพาะในช่วงแรกของการเจริญเติบโตและช่วงติดผล ควรรดน้ำในช่วงเช้าหรือเย็น หลีกเลี่ยงการรดน้ำโดนใบโดยตรงเพื่อป้องกันโรครา
- การให้ปุ๋ย เมื่อต้นบวบอายุประมาณ 2-3 สัปดาห์ ให้ใส่ปุ๋ยยูเรีย (46-0-0) เล็กน้อยเพื่อบำรุงต้น จากนั้นเมื่อเริ่มออกดอกและติดผล ให้ใส่ปุ๋ยสูตรเสมอ (เช่น 15-15-15) หรือปุ๋ยที่มีโพแทสเซียมสูง เพื่อช่วยในการเจริญเติบโตของผล
- การทำค้าง บวบแอปเปิ้ลเป็นไม้เถาเลื้อยที่ต้องการค้างสำหรับเกาะ ควรทำค้างที่แข็งแรง เช่น ค้างไม้ไผ่ หรือตาข่ายพลาสติก เพื่อให้เถาเลื้อยและผลห้อยลงมาได้สะดวก ช่วยให้ผลมีรูปทรงสวยงามและไม่สัมผัสดิน
- การเด็ดยอด เมื่อต้นบวบมีอายุประมาณ 30-40 วัน หรือมีข้อประมาณ 7-8 ข้อ ควรเด็ดยอดทิ้ง เพื่อกระตุ้นให้แตกแขนงและให้ผลผลิตมากขึ้น
- การผสมเกสร (หากจำเป็น) บวบแอปเปิ้ลมักจะออกดอกตัวผู้และดอกตัวเมียแยกกัน หากการติดผลไม่ดี อาจต้องช่วยผสมเกสรด้วยมือ โดยนำเกสรจากดอกตัวผู้ไปแตะที่เกสรของดอกตัวเมียในช่วงเช้า
- การกำจัดวัชพืช ควรกำจัดวัชพืชรอบๆ แปลงปลูกอย่างสม่ำเสมอ
- การป้องกันและกำจัดโรคแมลง บวบแอปเปิ้ลอาจพบปัญหาโรคราน้ำค้าง โรคใบจุด และแมลง เช่น หนอนเจาะผล แมลงหวี่ขาว ควรสังเกตอาการและป้องกันกำจัดตามความเหมาะสม
-
การเก็บเกี่ยว บวบแอปเปิ้ลจะเริ่มให้ผลผลิตหลังจากปลูกประมาณ 45-60 วัน สามารถเก็บเกี่ยวผลดิบได้เมื่อผลมีขนาดพอเหมาะ ผิวสีเขียวสด และยังมีความอ่อนนุ่ม ควรเก็บเกี่ยวอย่างสม่ำเสมอเพื่อกระตุ้นให้ต้นออกดอกและติดผลต่อไป