เมล็ดพันธุ์ ฟ้าทะลายโจร 200 เมล็ด
ฟ้าทะลายโจร (ชื่อวิทยาศาสตร์: Andrographis paniculata) เป็นสมุนไพรพื้นบ้านที่มีรสขมจัด จัดอยู่ในวงศ์ Acanthaceae มีถิ่นกำเนิดในเอเชียเขตร้อน พบได้ทั่วไปในประเทศไทย อินเดีย จีน และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ฟ้าทะลายโจรขึ้นง่าย โตไว ต้านทานโรคดี นิยมใช้ใน ตำรับยาสมุนไพรไทย โดยเฉพาะในการรักษาไข้ หวัด และอาการติดเชื้อทางเดินหายใจ
คุณสมบัติ (ส่วนของเมล็ด)
- พืชล้มลุก อายุปีเดียว สูงประมาณ 30–100 ซม. ลำต้นตั้งตรง แตกกิ่งก้านได้มาก
- ใบเรียวแหลม สีเขียวเข้ม ขอบเรียบ
- ออกดอกสีม่วงอ่อนมีแต้มสีขาว
- ผลเป็นฝักยาว ภายในมีเมล็ดเล็กๆ สีน้ำตาล
- ส่วนที่ใช้เป็นยา ใบและลำต้น (ใช้สดหรือแห้งก็ได้)
- สารสำคัญคือ แอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) ซึ่งมีฤทธิ์ต้านไวรัส ต้านอักเสบ ลดไข้
ประโยชน์ของฟ้าทะลายโจร
- ประโยชน์ทางยา (สมุนไพร)
-
ลดไข้ โดยเฉพาะไข้จากการติดเชื้อ
-
บรรเทาอาการหวัด ไอ เจ็บคอ
-
ต้านไวรัสและแบคทีเรีย เช่น เชื้อไข้หวัดใหญ่, ไวรัสโควิด-19 (ในการศึกษาบางส่วน)
-
แก้อักเสบ เช่น ทอนซิลอักเสบ ลำไส้อักเสบ
-
ช่วยฟื้นตัวจากการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ
-
ใช้แก้อาการ ท้องเสีย ลำไส้ติดเชื้อ เบาหวานบางกรณี
คำเตือน ห้ามใช้ติดต่อกันเกิน 5–7 วัน และไม่ควรใช้ในหญิงตั้งครรภ์
-
- ประโยชน์ทางเศรษฐกิจ
-
มีความต้องการในตลาดสูง โดยเฉพาะช่วงระบาดของโรคต่าง ๆ
-
แปรรูปเป็นแคปซูล, ผง, ชาชง, ยาลูกกลอน
-
ปลูกง่าย ขายได้ทั้งแบบสดและแห้ง
-
วิธีการปลูก
- การเตรียมเมล็ดพันธุ์
-
ใช้เมล็ดพันธุ์จากต้นแก่จัด (ฝักแก่สีน้ำตาล แตกง่าย)
-
แช่เมล็ดในน้ำอุ่น 2–3 ชั่วโมงก่อนเพาะเพื่อกระตุ้นการงอก
-
หว่านเมล็ดลงในถาดเพาะหรือแปลงอนุบาล
-
- การเตรียมดิน
-
ดินร่วนซุย ระบายน้ำดี
-
ผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในอัตรา 1:1
-
ทำแปลงปลูกแบบยกร่องหรือปลูกในกระถางก็ได้
-
- การปลูก
-
ย้ายต้นกล้าเมื่ออายุ 25–30 วัน
-
ระยะปลูกระหว่างต้นประมาณ 30 ซม. ระหว่างแถว 50 ซม.
-
รดน้ำวันละ 1 ครั้ง เช้า–เย็นในช่วงแรก
-
- การดูแลรักษา
-
ใส่ปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยหมักเดือนละครั้ง
-
คอยตัดแต่งกิ่งใบให้โปร่ง
-
ป้องกันเพลี้ยไฟและโรคใบจุดโดยใช้สารชีวภาพหรือน้ำหมักสมุนไพร
-
- การเก็บเกี่ยว
-
-
เก็บเกี่ยวได้เมื่ออายุประมาณ 3 เดือน (ต้นโตเต็มที่)
-
ตัดเก็บทั้งต้น (เหลือโคนไว้ประมาณ 10 ซม.)
-
ตากแห้งในร่ม อากาศถ่ายเทดี
-
เก็บในถุงปิดสนิทเพื่อรักษาสารสำคัญ
-