มะเขือเทศแคระเหลือง 20 เมล็ด
มะเขือเทศแคระเหลือง (ชื่อวิทยาศาสตร์: Solanum lycopersicum) มะเขือเทศแคระเหลือง Tiny Tim เป็นมะเขือเทศสายพันธุ์แคระ (Dwarf or Bush variety) ชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับการปลูกในพื้นที่จำกัด เช่น ระเบียงคอนโดมิเนียม สวนขนาดเล็ก หรือในกระถาง เนื่องจากมีขนาดพุ่มต้นที่กะทัดรัด ไม่ต้องทำค้างหรือผูกยึดมากนัก ผลมีขนาดเล็กประมาณ 1.5 – 2 เซนติเมตร รูปทรงกลม สีเหลืองสดใส มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว สดชื่น เหมาะสำหรับรับประทานสด ทำสลัด หรือตกแต่งอาหาร
คุณสมบัติ
- ลักษณะต้น เป็นพุ่มเตี้ย กะทัดรัด ความสูงประมาณ 30-45 เซนติเมตร (12-18 นิ้ว) ไม่ต้องทำค้าง (Determinate type)
- ลักษณะผล ผลกลมเล็ก ขนาดประมาณ 1.5-2 เซนติเมตร (0.5-0.75 นิ้ว) สีเหลืองสดใส ออกเป็นพวง
- รสชาติ หวานอมเปรี้ยว สดชื่น
- อายุเก็บเกี่ยว ประมาณ 60-70 วันหลังย้ายกล้า
- ความเหมาะสมในการปลูก เหมาะสำหรับปลูกในกระถาง ภาชนะขนาดเล็ก หรือพื้นที่จำกัด
ประโยชน์ของมะเขือเทศแคระเหลือง
- วิตามินซีสูง ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย ป้องกันหวัด บำรุงผิวพรรณให้กระจ่างใส และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ
- วิตามินเอ (เบต้าแคโรทีน) ถึงแม้จะมีสีเหลือง แต่ก็มีเบต้าแคโรทีน ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันโรคเกี่ยวกับดวงตา และมีส่วนช่วยในการบำรุงผิว
- ไลโคปีน (Lycopene) แม้ว่ามะเขือเทศสีแดงจะมีไลโคปีนสูงกว่า แต่ในมะเขือเทศสีเหลืองก็ยังมีไลโคปีนในรูปแบบอื่น ๆ เช่น คลอโรฟิลล์และสารแคโรตีนอยด์บางชนิด ที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งบางชนิด โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก และช่วยบำรุงหัวใจ
- ใยอาหาร ช่วยในระบบขับถ่าย ป้องกันท้องผูก และช่วยให้รู้สึกอิ่มนาน เหมาะสำหรับผู้ที่ควบคุมน้ำหนัก
- โพแทสเซียม ช่วยควบคุมสมดุลของเหลวในร่างกายและความดันโลหิต
- สารต้านอนุมูลอิสระอื่นๆ นอกจากไลโคปีนและเบต้าแคโรทีนแล้ว ยังมีสารประกอบฟีนอลิกและฟลาโวนอยด์ ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องเซลล์จากการถูกทำลาย
วิธีการปลูก
- การเตรียมเมล็ดและวัสดุปลูก
- เมล็ดพันธุ์ หาซื้อเมล็ดพันธุ์มะเขือเทศ Tiny Tim จากร้านค้าเกษตรที่น่าเชื่อถือ
- วัสดุเพาะเมล็ด ใช้พีทมอส (Peat moss) หรือดินผสมสำหรับเพาะเมล็ดโดยเฉพาะ ซึ่งมีเนื้อละเอียด ระบายน้ำได้ดี และปราศจากเชื้อโรค
- กระถาง/ภาชนะปลูก เลือกกระถางขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางอย่างน้อย 15-20 เซนติเมตร (6-8 นิ้ว) มีรูระบายน้ำด้านล่างหลายรู หากปลูกลงแปลง ควรเว้นระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 30-45 เซนติเมตร
2. การเพาะเมล็ด
- แช่เมล็ด แช่เมล็ดในน้ำอุ่นประมาณ 30 นาที – 1 ชั่วโมง เพื่อกระตุ้นการงอก
- เพาะในถาดเพาะกล้า โรยเมล็ดลงบนวัสดุเพาะเมล็ดที่เตรียมไว้ กดเมล็ดลงไปเล็กน้อย (ไม่เกิน 0.5 เซนติเมตร) แล้วกลบด้วยวัสดุเพาะบางๆ
- รดน้ำ พ่นละอองน้ำเบาๆ ให้วัสดุเพาะชุ่มชื้น คลุมด้วยพลาสติกใสเพื่อรักษาความชุ่มชื้นและอุณหภูมิ (ถอดออกเมื่อเมล็ดเริ่มงอก)
- การงอก เมล็ดจะเริ่มงอกภายใน 7-14 วัน วางถาดเพาะไว้ในที่ร่มรำไร มีอากาศถ่ายเทดี
3. การย้ายกล้าปลูก
- ช่วงเวลาที่เหมาะสม เมื่อต้นกล้ามีใบจริง 2-3 คู่ หรือสูงประมาณ 10-15 เซนติเมตร (ประมาณ 2-3 สัปดาห์หลังงอก) ก็พร้อมที่จะย้ายลงกระถางหรือแปลงปลูก
- ดินปลูก ใช้ดินปลูกที่อุดมสมบูรณ์ ระบายน้ำได้ดี อาจผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเล็กน้อย เพื่อเพิ่มอินทรียวัตถุ
- การย้าย ค่อยๆ แคะต้นกล้าออกมาพร้อมรากและดินเดิมให้มากที่สุด ย้ายลงหลุมที่เตรียมไว้ กลบดินรอบโคนต้นเบาๆ
- รดน้ำ รดน้ำให้ชุ่มทันทีหลังย้ายปลูก
4. การดูแลรักษา
- แสงแดด มะเขือเทศ Tiny Tim ต้องการแสงแดดจัดอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อการเจริญเติบโตที่ดีและการติดผลดก
- การรดน้ำ รดน้ำสม่ำเสมอ โดยเฉพาะช่วงที่อากาศร้อนและช่วงติดผล ดินควรชุ่มชื้นแต่ไม่แฉะ ควรหลีกเลี่ยงการรดน้ำโดนใบมากเกินไปเพื่อป้องกันเชื้อรา
- การให้ปุ๋ย
- ช่วงแรก (หลังย้ายปลูก) ให้ปุ๋ยอินทรีย์ หรือปุ๋ยเคมีสูตร 16-16-16 ในปริมาณเล็กน้อยทุก 2-3 สัปดาห์
- ช่วงออกดอกและติดผล เปลี่ยนมาใช้ปุ๋ยที่มีฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมสูง เช่น สูตร 8-24-24 หรือปุ๋ยสำหรับไม้ผล เพื่อช่วยในการออกดอกและบำรุงผล
- การเด็ดยอด/แต่งกิ่ง มะเขือเทศ Tiny Tim เป็นชนิดพุ่มเตี้ย จึงไม่จำเป็นต้องเด็ดยอดหรือตัดแต่งกิ่งมากนัก เพียงแค่ตัดกิ่งที่แห้งเหี่ยวหรือเป็นโรคออก
- ศัตรูพืชและโรค หมั่นสังเกตและกำจัดศัตรูพืช เช่น เพลี้ย หนอน หรือโรคพืชที่อาจเกิดขึ้น โดยใช้วิธีธรรมชาติหรือสารชีวภัณฑ์เท่าที่จำเป็น
5. การเก็บเกี่ยว
- มะเขือเทศ Tiny Tim จะเริ่มออกดอกและติดผลประมาณ 60-70 วันหลังย้ายกล้า
- เก็บเกี่ยวเมื่อผลเปลี่ยนเป็นสีเหลืองสดใส สัมผัสแล้วนิ่มเล็กน้อย สามารถเด็ดออกจากขั้วได้ง่าย
- ยิ่งเก็บเกี่ยวบ่อย ต้นก็จะยิ่งออกผลใหม่ได้เรื่อยๆ
