เวอร์มิคูไลท์ ขนาด 1 ลิตร โดย ชีวิต ชีวา ฟาร์ม
เป็นวัสดุปลูกคุณภาพสูงที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในวงการเกษตรและการปลูกพืช ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นและการใช้งานที่หลากหลาย ทำให้เวอร์มิคูไลท์กลายเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับทั้งเกษตรกรมืออาชีพและผู้ที่ชื่นชอบการปลูกพืชเป็นงานอดิเรก
คุณสมบัติโดดเด่นของเวอร์มิคูไลท์ (Vermiculite)
- เป็นอนินทรีย์ปลอดเชื้อ ไม่กัดหรือทำให้ระคายเคืองต่อผู้ใช้
- ช่วยลดความร้อนและอุณหถูมิในดิน
- ไม่มีการปนเปื้อนของโรคพืช วัชพืช แมลง และสารพิษหรือสารก่อมะเร็ง
- มีการแลกเปลี่ยนประจุได้ดี ดูดซึมสารอาหารได้มาก
- โปร่ง อากาศไหลเวียน สามารถดูดซับน้ำและเก็บกักน้ำได้ดี
- สามารถเก็บได้นานโดยไม่เสื่อมสภาพ
ประโยชน์ของเวอร์มิคูไลท์
- การเพาะเมล็ด
เวอร์มิคูไลท์เป็นวัสดุเพาะที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการเพาะเมล็ด ด้วยคุณสมบัติในการเก็บความชื้นที่ดีเยี่ยม ความโปร่งที่เหมาะสม และลักษณะทางกายภาพที่เป็นเม็ดเล็กร่วน ประกอบกับค่า pH ที่เป็นกลางและคุณสมบัติในการเป็นฉนวนกันความร้อน ทำให้เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการเพาะเมล็ด สามารถใช้เดี่ยวๆ หรือผสมกับวัสดุปลูกอื่นๆ ได้ตามต้องการ อย่างไรก็ตาม หากใช้เวอร์มิคูไลท์เพียงอย่างเดียว ควรเสริมปุ๋ยทันทีที่เมล็ดเริ่มงอกเป็นต้นอ่อน
- เป็นส่วนผสมวัสดุปลูกสำหรับไม้กระถาง
ด้วยคุณสมบัติที่มีน้ำหนักเบา โปร่ง และความสามารถในการอุ้มน้ำที่ดี ทำให้สามารถยืดระยะเวลาการให้น้ำออกไปได้นานขึ้น นอกจากนี้ยังมีประสิทธิภาพในการแลกเปลี่ยนประจุกับดินได้ดี ส่งผลให้การดูดซึมสารอาหารมีประสิทธิภาพสูง และสามารถค่อยๆ ปลดปล่อยสารอาหารให้แก่พืชผ่านระบบรากได้อย่างเหมาะสม
- เร่งรากในกิ่งชำ
เวอร์มิคูไลท์มีประสิทธิภาพสูงในการเร่งการเกิดรากสำหรับการเพาะชำกิ่ง ด้วยคุณสมบัติในการดูดซับน้ำและการเป็นฉนวนกันความร้อนที่ดี ทำให้รักษาความชื้นได้สูง สามารถใช้ผสมกับพีทมอสหรือขุยมะพร้าวได้อย่างลงตัว เพียงรดน้ำให้ชุ่มก่อนการปักชำ โดยไม่จำเป็นต้องกดวัสดุให้แน่นจนเกินไป
- ใช้เป็นวัสดุปลูกพืชไร้ดิน ไฮโดรโปนิกส์ (soilless culture)
เวอร์มิคูไลท์เป็นวัสดุที่นิยมใช้ในระบบการปลูกพืชไร้ดิน โดยมักนำไปผสมกับเพอร์ไลท์หรือพีทมอส เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเก็บความชื้นและการให้ธาตุอาหารที่จำเป็นสำหรับการงอกของพืช
วิธีการใช้เวอร์มิคูไลท์ในการปลูกพืช
สามารถใช้เป็นวัสดุเพาะเมล็ดโดยตรง หรือนำไปผสมเป็นส่วนประกอบของดินปลูกสำหรับพืชทุกชนิด โดยจะช่วยกระตุ้นการออกรากและเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซับสารอาหาร สัดส่วนการผสมจะแตกต่างกันไปตามชนิดของพืช แต่โดยทั่วไปแนะนำให้ใช้ในปริมาณประมาณหนึ่งกำมือต่อดินกระถางขนาด 6-8 นิ้ว เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด