สารเร่งย่อยสลาย พด.2 สำหรับ ทำปุ๋ยน้ำอินทรีย์ น้ำหมัก
ปุ๋ยอินทรีย์น้ำ คือปุ๋ยอินทรีย์ในรูปของเหลว ได้จากการย่อยสลายวัสดุเหลือใช้จากพืชหรือสัตว์ที่มีความสด อวบน้ำ หรือชื้นสูง โดยอาศัยกิจกรรมของจุลินทรีย์ทั้งในสภาพที่มีอากาศและไม่มีอากาศ ผลที่ได้คือของเหลวสีน้ำตาล อุดมไปด้วยฮอร์โมนและสารกระตุ้นการเจริญเติบโตของพืช เช่น ออกซิน จิบเบอเรลลิน ไซโตไคนิน รวมถึงกรดอินทรีย์หลายชนิด เช่น กรดแลคติก กรดอะซิติก กรดอะมิโน และกรดฮิวมิก
ในการผลิตปุ๋ยอินทรีย์น้ำ ใช้จุลินทรีย์ 5 กลุ่มสำคัญ ได้แก่
-
ยีสต์ ผลิตแอลกอฮอล์และกรดอินทรีย์
-
แบคทีเรียผลิตกรดแลคติก ช่วยย่อยสลายและสร้างกรดอินทรีย์
-
แบคทีเรียย่อยสลายโปรตีน เปลี่ยนโปรตีนให้เป็นสารอาหารที่พืชนำไปใช้ได้
-
แบคทีเรียย่อยสลายไขมัน ช่วยสลายไขมันให้กลายเป็นสารอินทรีย์ง่าย
-
แบคทีเรียละลายฟอสฟอรัสอนินทรีย์ ทำให้พืชสามารถดูดซึมธาตุฟอสฟอรัสได้ดีขึ้น
ผลลัพธ์คือปุ๋ยอินทรีย์น้ำที่มีคุณค่าทางอาหารสูง เหมาะสำหรับการบำรุงพืชเร่งการเจริญเติบโต และเพิ่มความสมบูรณ์ของดิน
จุดเด่นของ พด.2
- ผลิต ปุ๋ยอินทรีย์น้ำ ได้จากวัตถุดิบหลากหลาย เช่น ผัก ผลไม้ ปลา หอยเชอรี่ เปลือกไข่ ก้าง และกระดูกสัตว์
- ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการ ละลายธาตุอาหารสำคัญ จากเปลือกไข่ ก้าง และกระดูกสัตว์
- จุลินทรีย์สามารถเจริญได้ดีในสภาพที่เป็นกรด
- ส่วนใหญ่เป็นจุลินทรีย์ที่ สร้างสปอร์ จึงทนทานต่อสภาพแวดล้อม เก็บรักษาได้นาน
- ผลิตปุ๋ยอินทรีย์ได้ รวดเร็ว มีคุณภาพสูง
- ช่วยให้พืชแข็งแรง ต้านทานโรคและแมลงได้ดียิ่งขึ้น
วิธีทำน้ำหมัก ปุ๋ยหมักน้ำ
1. ปุ๋ยอินทรีย์น้ำจากผักและผลไม้ (50 ลิตร)
ระยะเวลาหมัก : 7 วัน
ส่วนผสม
- ผักหรือผลไม้สด ………. 40 กก.
- กากน้ำตาล ……………… 10 กก.
- น้ำ ………………………… 10 ลิตร
- สารเร่ง พด.2 … 1 ซอง (25 กรัม)
ปุ๋ยอินทรีย์น้ำจากปลา หรือหอยเชอรี่ (50 ลิตร)
ระยะเวลาหมัก : 15 – 20 วัน
ส่วนผสม
- ปลา หรือหอยเชอรี่ …….. 30 กก.
- ผลไม้ ………………………. 10 กก.
- กากน้ำตาล ……………….. 10 กก.
- น้ำ ……………………………. 10 ลิตร
- สารเร่งพด.2 ….. 1 ซอง (25 กรัม)
วิธีการทำปุ๋ยอินทรีย์น้ำด้วย สารเร่งพด.2
ขั้นตอนการหมัก
- หั่นหรือสับวัสดุพืชหรือสัตว์เป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วผสมกับกากน้ำตาลในถังหมักขนาด 50 ลิตร
- นำสารเร่ง พด.2 (1 ซอง / 25 กรัม) ผสมกับน้ำ 10 ลิตร คนให้เข้ากันประมาณ 5 นาที
- เทสารละลายที่ได้ลงในถังหมัก คนให้เข้ากัน จากนั้นปิดฝาถัง (ไม่ต้องสนิท) และตั้งไว้ในที่ร่ม
- ระหว่างการหมัก ควรกวนส่วนผสมวันละ 1–2 ครั้ง เพื่อระบายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และช่วยให้ส่วนผสมเข้ากันดี
- ในระหว่างการหมักจะพบ ฝ้าขาว (จุลินทรีย์) ฟองก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และกลิ่นแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นปกติ
การผลิตแบบ “ต่อเชื้อ”
- ใช้ปุ๋ยอินทรีย์น้ำที่หมักไว้แล้ว 5 วัน (จะเห็นฝ้าขาวที่ผิววัสดุหมัก)
- นำมาใช้ 2 ลิตร แทนการใช้สารเร่ง พด.2 จำนวน 1 ซอง
- สามารถผลิตปุ๋ยอินทรีย์น้ำได้ 50 ลิตร เช่นเดียวกัน
วิธีสังเกตปุ๋ยอินทรีย์น้ำที่หมักสมบูรณ์
- การเจริญของจุลินทรีย์น้อยลง คราบเชื้อที่ผิววัสดุหมักลดลง
- ไม่พบฟองก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
- กลิ่นแอลกอฮอล์จางลง
- ค่า pH อยู่ระหว่าง 3 – 4
อัตราและวิธีใช้
- เจือจาง ปุ๋ยอินทรีย์น้ำ : น้ำ = 1:500 – 1:1,000
- ใช้ฉีดพ่นทางใบ หรือรดลงดิน ในช่วงที่พืชกำลังเจริญเติบโต
ประโยชน์ของปุ๋ยอินทรีย์น้ำ
- ส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืช เพราะอุดมด้วย ฮอร์โมนธรรมชาติ เช่น ออกซิน จิบเบอเรลลิน ไซโตไคนิน
- มี กรดอินทรีย์หลายชนิด เช่น กรดแลคติก กรดอะซิติก กรดอะมิโน และกรดฮิวมิก
- กระตุ้นการงอกของเมล็ดพืช
- ช่วยเร่งการย่อยสลายตอซังพืช
ข้อเสนอแนะ
เพื่อให้การใช้ปุ๋ยอินทรีย์น้ำได้ผลดียิ่งขึ้น ควรบำรุงดินร่วมกับ ปุ๋ยอินทรีย์แข็ง อย่างสม่ำเสมอ