เมล็ดพันธุ์ เซอเลอรี่

30 ฿

  • จำนวน 200 เมล็ด
  • แคลอรี่ต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก เนื่องจากมีแคลอรี่ต่ำมากและให้ความรู้สึกอิ่ม
  • โฟเลต (วิตามินบี 9) สำคัญต่อการสร้างเซลล์ใหม่และการแบ่งเซลล์
  • ฤทธิ์ขับปัสสาวะอ่อนๆ ช่วยขับน้ำส่วนเกินออกจากร่างกาย ลดอาการบวมน้ำ

เซอเลอรี่ 200 เมล็ด

เซอเลอรี่ (ชื่อวิทยาศาสตร์: Apium graveolens L.) หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ “ขึ้นฉ่ายฝรั่ง” เป็นพืชล้มลุกสองปีหรือยืนต้นในวงศ์ Apiaceae (ตระกูลเดียวกับแครอท พาร์สลีย์ และผักชี) มีถิ่นกำเนิดในแถบเมดิเตอร์เรเนียนและตะวันออกกลาง เป็นผักที่นิยมบริโภคกันทั่วโลก โดยเฉพาะส่วนของก้านใบอวบน้ำที่มีความกรอบ มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว และรสชาติออกเค็มเล็กน้อยถึงเป็นกลาง ส่วนใบก็สามารถนำมารับประทานได้เช่นกัน ปัจจุบันมีการพัฒนาสายพันธุ์ให้มีก้านใบที่ใหญ่ อวบ และไม่เหนียว เพื่อให้เหมาะกับการบริโภคสดหรือนำไปประกอบอาหารหลากหลายเมนู

คุณสมบัติ

  • ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
    • ลำต้น มีลำต้นสั้นอยู่ใต้ดิน เหนือดินจะเป็นก้านใบรวมกันเป็นพุ่มแน่น
    • ก้านใบ อวบน้ำ มีร่องตามความยาวของก้าน สีเขียวอ่อนถึงเขียวเข้ม มีความกรอบ
    • ใบ ใบประกอบแบบขนนก 3 แฉก หรือมากกว่า ขอบใบหยักฟันเลื่อย สีเขียวเข้ม
    • ราก ระบบรากแผ่กระจายใกล้ผิวดิน
  • รสชาติและกลิ่น มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว รสชาติออกเค็มเล็กน้อย หรือจืดกรอบ
  • เนื้อสัมผัส ก้านใบมีความกรอบ ฉ่ำน้ำ
  • อายุปลูก โดยทั่วไปประมาณ 90-120 วันหลังย้ายกล้า
  • สภาพแวดล้อมที่ชอบ ชอบอากาศเย็นถึงปานกลาง (อุณหภูมิที่เหมาะสมประมาณ 15-20 องศาเซลเซียส) ดินร่วนปนทรายที่ระบายน้ำได้ดี อุดมสมบูรณ์ และมีแสงแดดเต็มที่
  • การบริโภค นิยมรับประทานสด ทำสลัด คั้นน้ำ ผัด หรือใส่ในซุปและสตู

ประโยชน์ของเซอเลอรี่

  1. ใยอาหารสูง มีใยอาหารทั้งชนิดที่ละลายน้ำได้และไม่ละลายน้ำ ช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย ป้องกันท้องผูก ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
  2. วิตามินเคสูง จำเป็นต่อการแข็งตัวของเลือดและสุขภาพกระดูก
  3. วิตามินซี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน บำรุงผิวพรรณ
  4. โพแทสเซียม ช่วยรักษาสมดุลของเหลวในร่างกาย ควบคุมความดันโลหิตให้ปกติ และสนับสนุนการทำงานของหัวใจและกล้ามเนื้อ
  5. โฟเลต (วิตามินบี 9) สำคัญต่อการสร้างเซลล์ใหม่และการแบ่งเซลล์
  6. สารต้านอนุมูลอิสระ อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด เช่น ฟลาโวนอยด์ (โดยเฉพาะ Apigenin และ Luteolin) และสารประกอบฟีนอลิก ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งและโรคเรื้อรัง
  7. สารต้านการอักเสบ สาร Apigenin และ Luteolin ในเซอเลอรี่มีคุณสมบัติเป็นสารต้านการอักเสบตามธรรมชาติ ซึ่งอาจช่วยลดการอักเสบในร่างกาย
  8. ฤทธิ์ขับปัสสาวะอ่อนๆ ช่วยขับน้ำส่วนเกินออกจากร่างกาย ลดอาการบวมน้ำ
  9. แคลอรี่ต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก เนื่องจากมีแคลอรี่ต่ำมากและให้ความรู้สึกอิ่ม

วิธีการปลูก

  1. การเตรียมเมล็ดและวัสดุปลูก

    • เมล็ดพันธุ์ หาซื้อเมล็ดพันธุ์เซอเลอรี่จากแหล่งที่น่าเชื่อถือ
    • วัสดุเพาะเมล็ด ใช้พีทมอส หรือวัสดุเพาะเมล็ดที่มีเนื้อละเอียด โปร่ง ระบายน้ำได้ดี และปราศจากเชื้อโรค
    • ถาดเพาะกล้า/กระถางเพาะ ควรใช้ถาดเพาะกล้าที่มีช่องเล็กๆ หรือกระถางขนาดเล็กสำหรับเพาะเมล็ดก่อน
    • กระถาง/แปลงปลูก สำหรับการปลูกจริง ควรเป็นกระถางขนาดใหญ่พอสมควร (ลึกประมาณ 20-30 ซม. และกว้าง) หรือแปลงปลูกที่มีดินร่วนซุย อุดมสมบูรณ์

    2. การเพาะเมล็ด (สำคัญมาก)

    • การแช่เมล็ด (Optional แต่แนะนำ): แช่เมล็ดในน้ำอุ่นประมาณ 12-24 ชั่วโมง เพื่อช่วยกระตุ้นการงอก
    • การปลูก
      • หว่านเมล็ด เนื่องจากเมล็ดเซอเลอรี่มีขนาดเล็กมาก ให้หว่านเมล็ดลงบนผิวหน้าวัสดุเพาะ (ไม่ต้องกลบดิน) หรือกลบด้วยวัสดุเพาะบางเบามากๆ เพียงแค่ให้เมล็ดสัมผัสกับความชื้น
      • รักษาความชื้น พ่นละอองน้ำเบาๆ ให้วัสดุเพาะชุ่มชื้นตลอดเวลา และควรคลุมด้วยพลาสติกใสหรือฝาครอบเพื่อรักษาความชื้นและอุณหภูมิให้คงที่
      • แสงสว่าง เมล็ดเซอเลอรี่บางพันธุ์ต้องการแสงเพื่อการงอก (light germinator) จึงไม่ควรกกลบเมล็ดหนาเกินไป
      • อุณหภูมิ อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการงอกคือประมาณ 20-25 องศาเซลเซียส การงอกอาจใช้เวลานานถึง 2-3 สัปดาห์

    3. การดูแลต้นกล้า

    • แสงสว่าง เมื่อเมล็ดงอก ควรให้แสงสว่างเพียงพอ แต่หลีกเลี่ยงแสงแดดจัดโดยตรงในช่วงแรก
    • การรดน้ำ รดน้ำอย่างระมัดระวังด้วยสเปรย์ฝอยละเอียด เพื่อไม่ให้ต้นกล้าเล็กๆ ล้ม
    • การย้ายกล้า เมื่อต้นกล้ามีใบจริง 2-3 คู่ และแข็งแรงพอ (สูงประมาณ 5-10 ซม.) จึงค่อยย้ายไปปลูกลงกระถางเดี่ยวหรือแปลงปลูกถาวร

    4. การเตรียมดินและการปลูกจริง

    • ดินปลูก ดินควรเป็นดินร่วนปนทรายที่ระบายน้ำได้ดี มีค่า pH 6.0-7.0 (เป็นกลาง) และอุดมสมบูรณ์มาก ควรผสมปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยอินทรีย์อื่นๆ ในปริมาณมาก
    • การย้ายปลูก
      • ขุดหลุมปลูกให้มีขนาดเท่ากับรากของต้นกล้า
      • ปลูกโดยให้ระดับดินเท่ากับระดับเดิมที่ต้นกล้าเคยอยู่ ระวังอย่าฝังส่วนยอดหรือส่วนกลางของต้นกล้าลงไปในดินลึกเกินไป เพราะจะทำให้เน่าได้ง่าย
      • เว้นระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 20-30 เซนติเมตร
      • รดน้ำให้ชุ่มทันทีหลังย้ายปลูก

    5. การดูแลรักษา

    • แสงแดด เซอเลอรี่ต้องการแสงแดดเต็มที่ (อย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน) เพื่อการเจริญเติบโตที่ดี
    • การรดน้ำ สำคัญมาก! เซอเลอรี่ต้องการน้ำมากและสม่ำเสมอ ดินควรชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา แต่ไม่แฉะ เพราะหากดินแห้งหรือได้รับน้ำไม่สม่ำเสมอ อาจทำให้ก้านใบเหนียวและมีรสขม
    • การให้ปุ๋ย
      • ควรบำรุงด้วยปุ๋ยอินทรีย์ หรือปุ๋ยที่มีธาตุอาหารครบถ้วน (เช่น สูตร 15-15-15) เป็นประจำทุก 2-3 สัปดาห์
      • เซอเลอรี่ต้องการธาตุโบรอน (Boron) หากขาดอาจทำให้ก้านใบเป็นสีน้ำตาลและแตกได้
    • การทำ White/Blanching (เสริม) ในบางสายพันธุ์ การพูนดินกลบก้านใบ หรือห่อหุ้มก้านใบด้วยกระดาษแข็ง/พลาสติกสีดำในช่วง 2-3 สัปดาห์สุดท้ายก่อนเก็บเกี่ยว จะช่วยให้ก้านใบมีสีอ่อนลง (ขาวขึ้น) และมีรสชาตินุ่มนวลขึ้น
    • ศัตรูพืชและโรค คอยสำรวจและป้องกันศัตรูพืช เช่น เพลี้ย หนอน และโรคพืชที่อาจเกิดขึ้น โดยใช้วิธีธรรมชาติหรือสารชีวภัณฑ์

    6. การเก็บเกี่ยว

    • เซอเลอรี่สามารถเริ่มเก็บเกี่ยวได้เมื่อต้นโตเต็มที่ ก้านใบอวบอ้วนและแข็งแรงพอ ซึ่งโดยทั่วไปใช้เวลาประมาณ 90-120 วันหลังย้ายกล้า
    • วิธีเก็บเกี่ยว
      • เก็บทั้งต้น ตัดโคนต้นที่ระดับผิวดิน
      • เก็บเป็นก้าน สามารถเลือกตัดก้านใบด้านนอกที่โตเต็มที่ออกไปใช้ทีละก้านได้ เพื่อให้ก้านใบด้านในได้เจริญเติบโตต่อไป