เมล็ดพันธุ์ เคลใบหยิก

เมล็ดพันธุ์ เคลใบหยิก 100 เมล็ด

เคลใบหยิก (ชื่อวิทยาศาสตร์: Brassica oleracea var. sabellica L.) เป็นผักใบเขียวในตระกูลกะหล่ำ มีลักษณะเด่นคือใบจะหยิกเป็นลอนสวยงาม มีสีเขียวเข้มถึงเขียวอ่อน ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ มีรสชาติเข้มข้นกว่าเคลชนิดอื่นๆ เล็กน้อย และมักจะมีความเหนียวของใบค่อนข้างมาก นิยมนำมาประกอบอาหารเพื่อสุขภาพหลากหลายเมนู เช่น สลัด สมูทตี้ ผัด อบ หรือทอดกรอบ

คุณสมบัติ

• อุดมไปด้วยวิตามินเค มีปริมาณวิตามินเคสูงมาก ซึ่งมีความสำคัญต่อการแข็งตัวของเลือดและสุขภาพกระดูก
• เป็นแหล่งที่ดีของวิตามินเอ ในรูปของเบต้าแคโรทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระและมีบทบาทในการมองเห็นและระบบภูมิคุ้มกัน
• มีวิตามินซีสูง ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
• มีใยอาหารสูง ช่วยในการขับถ่าย ป้องกันอาการท้องผูก และส่งเสริมสุขภาพของระบบทางเดินอาหาร
• มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ฟลาโวนอยด์ และแคโรทีนอยด์ ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย
• มีแร่ธาตุ ประกอบด้วยแร่ธาตุที่จำเป็น เช่น แคลเซียม โพแทสเซียม และแมงกานีส
• มีสารประกอบซัลเฟอร์ ซึ่งอาจมีบทบาทในการป้องกันโรคมะเร็งบางชนิด

ประโยชน์ของเคลใบหยิก

1. เสริมสร้างสุขภาพกระดูก วิตามินเคและแคลเซียมในเคลมีความสำคัญต่อความแข็งแรงของกระดูก
2. บำรุงสายตา เบต้าแคโรทีนเป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอ ซึ่งจำเป็นต่อการมองเห็น
3. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน วิตามินเอและวิตามินซีช่วยสนับสนุนการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
4. ส่งเสริมสุขภาพทางเดินอาหาร ใยอาหารช่วยในการขับถ่ายและรักษาสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้
5. ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ซึ่งอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังต่างๆ
6. อาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง สารประกอบซัลเฟอร์และสารต้านอนุมูลอิสระอาจมีบทบาทในการป้องกันการเกิดและเติบโตของเซลล์มะเร็งบางชนิด
7. ช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ใยอาหารช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาล
8. ดีท็อกซ์ร่างกาย สารต้านอนุมูลอิสระและใยอาหารช่วยในการกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย

วิธีการปลูก

1. การเตรียมดิน

   • เลือกพื้นที่ปลูกที่มีแสงแดดส่องถึงอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน
   • ดินควรเป็นดินร่วน ระบายน้ำได้ดี มีความอุดมสมบูรณ์ และมีอินทรียวัตถุสูง
   • ไถพรวนดินให้ลึกประมาณ 15-20 เซนติเมตร และกำจัดวัชพืชออกให้หมด
   • ปรับปรุงดินด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในอัตราที่เหมาะสม
   • ปรับค่า pH ของดินให้อยู่ระหว่าง 6.0-7.5

2. การเพาะกล้า (แนะนำ)

   • สามารถเพาะกล้าในกระบะเพาะหรือแปลงเพาะ
   • หว่านเมล็ดให้มีระยะห่างพอสมควร กลบดินบางๆ และรดน้ำให้ชุ่ม
   • ดูแลต้นกล้าให้ได้รับแสงแดดและน้ำอย่างเพียงพอ ประมาณ 4-6 สัปดาห์ ต้นกล้าจะมีใบจริง 4-5 ใบ พร้อมย้ายปลูก

3. การย้ายปลูก

   • ขุดหลุมปลูกให้มีขนาดใหญ่กว่ารากของต้นกล้าเล็กน้อย
   • นำต้นกล้าลงปลูก โดยให้ส่วนโคนต้นอยู่เหนือดินเล็กน้อย
   • เว้นระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 30-60 เซนติเมตร และระยะห่างระหว่างแถวประมาณ 60-90 เซนติเมตร
   • กลบดินและรดน้ำให้ชุ่ม

4. การดูแลรักษา

   • การให้น้ำ รดน้ำสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงแรกของการเจริญเติบโต ควรรักษาความชื้นในดินให้สม่ำเสมอ
   • การใส่ปุ๋ย ให้ปุ๋ยที่มีธาตุไนโตรเจนสูงในช่วงแรกของการเจริญเติบโตเพื่อส่งเสริมการสร้างใบ จากนั้นสามารถให้ปุ๋ยที่มีธาตุฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมสูงขึ้นเล็กน้อยเพื่อบำรุงต้นให้แข็งแรง
   • การพรวนดินและกำจัดวัชพืช พรวนดินรอบโคนต้นเพื่อเพิ่มอากาศในดินและกำจัดวัชพืช
   • การป้องกันและกำจัดโรคและแมลง เคลอาจถูกรบกวนจากหนอนใยผัก หนอนเจาะลำต้น และแมลงอื่นๆ ควรมีการตรวจสอบและป้องกันกำจัดอย่างสม่ำเสมอ

5. การเก็บเกี่ยว

   • สามารถเริ่มเก็บเกี่ยวใบได้เมื่อต้นมีขนาดพอสมควร โดยเก็บจากใบล่างขึ้นบน
   • เคลใบหยิกสามารถเก็บเกี่ยวได้เรื่อยๆ ตลอดฤดูปลูก
   • ใบจะมีรสชาติดีขึ้นเมื่ออากาศเย็น