เมล็ดพันธุ์ ต้นหอมญี่ปุ่น

30 ฿

  • จำนวน 100 เมล็ด
  • เป็นส่วนประกอบสำคัญในอาหารหลากหลายชนิด โดยเฉพาะอาหารเอเชีย เช่น ซุป ผัด ยำ สลัด ใช้โรยหน้าอาหารเพื่อเพิ่มสีสันและกลิ่นหอม
  • สารประกอบในต้นหอมอาจมีฤทธิ์ในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียบางชนิด
  • ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากความเสียหาย
  • เป็นแหล่งวิตามินและแร่ธาตุช่วยเสริมสร้างสุขภาพร่างกาย

เมล็ดพันธุ์ ต้นหอมญี่ปุ่น 100 เมล็ด

ต้นหอมญี่ปุ่น (ชื่อวิทยาศาสตร์: Allium fistulosum) หรือที่รู้จักกันในชื่อ หอมแบ่ง หรือ หอมป้อม เป็นพืชในวงศ์พลับพลึง มีลักษณะเด่นคือ มีลำต้นเป็นท่อกลวงสีเขียวสด ยาวเรียว ไม่มีหัวใต้ดินที่ชัดเจนเหมือนหอมหัวใหญ่หรือหอมแดง ส่วนที่นิยมรับประทานคือส่วนลำต้นและใบ ลักษณะทั่วไปเป็นพืชล้มลุก อายุหลายปี แตกกอเป็นพุ่ม มีลำต้นเป็นท่อกลวงสีเขียวสด ยาวประมาณ 30-60 เซนติเมตร ใบมีลักษณะคล้ายลำต้นแต่สั้นกว่า ดอกออกเป็นช่อกลมที่ปลายก้าน มีดอกย่อยสีขาว แตกต่างจากหอมหัวใหญ่และหอมแดงตรงที่ไม่มีหัวใต้ดินที่พัฒนาเป็นหัวขนาดใหญ่ แต่จะแตกกอและมีลำต้นเป็นท่อกลวง ชื่อเรียกอื่น: Scallion, Spring Onion (ชื่อภาษาอังกฤษ)

คุณสมบัติ

  • ลักษณะภายนอกโดดเด่น ลำต้นเป็นท่อกลวงสีเขียวสด ยาวเรียว ไม่มีหัวใต้ดินที่ชัดเจน
  • รสชาติอ่อน มีรสชาติอ่อนกว่าหอมหัวใหญ่และหอมแดง มีความหวานเล็กน้อย
  • กลิ่นหอม มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ เป็นเอกลักษณ์
  • เนื้อสัมผัส เนื้อกรอบและฉ่ำน้ำ
  • คุณค่าทางโภชนาการ มีวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด เช่น วิตามินซี วิตามินเค โฟเลต และมีสารประกอบที่มีกำมะถันซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพ
  • เจริญเติบโตง่าย เป็นพืชที่เจริญเติบโตได้ง่ายและรวดเร็ว

ประโยชน์ของต้นหอมญี่ปุ่น

  1. ใช้ปรุงอาหาร เป็นส่วนประกอบสำคัญในอาหารหลากหลายชนิด โดยเฉพาะอาหารเอเชีย เช่น ซุป ผัด ยำ สลัด ใช้โรยหน้าอาหารเพื่อเพิ่มสีสันและกลิ่นหอม
  2. มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากความเสียหาย
  3. เป็นแหล่งวิตามินและแร่ธาตุ ช่วยเสริมสร้างสุขภาพร่างกาย
  4. มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย สารประกอบในต้นหอมอาจมีฤทธิ์ในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียบางชนิด
  5. ช่วยในการย่อยอาหาร (ตามความเชื่อพื้นบ้าน)

วิธีการปลูก

  1. การเตรียมดิน

    • เลือกพื้นที่ปลูกที่ดินร่วน โปร่ง ระบายน้ำได้ดี มีอินทรียวัตถุสูง และมีแสงแดดส่องถึงอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน
    • ไถพรวนดินให้ลึกประมาณ 10-15 เซนติเมตร ตากดินไว้ 3-5 วัน
    • ปรับปรุงดินด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักที่สลายตัวดีแล้ว อัตรา 1-2 ตันต่อไร่ แล้วไถกลบ ทำแปลงให้มีขนาดเหมาะสม
  2. การเพาะเมล็ด

    • หว่านเมล็ดในแปลงเพาะ หรือถาดเพาะกล้า โดยโรยเมล็ดบาง ๆ กลบด้วยดินเล็กน้อย
    • รดน้ำให้ชุ่ม และวางในที่ที่มีแสงรำไร
    • เมื่อต้นกล้ามีใบจริง 3-4 ใบ สูงประมาณ 10-15 เซนติเมตร (ประมาณ 4-6 สัปดาห์) สามารถย้ายลงแปลงปลูกได้
  3. การแยกกอ

    • เลือกกอต้นหอมที่แข็งแรง มีหลายต้นย่อย
    • ขุดกอขึ้นมาเบา ๆ แยกต้นย่อยออกจากกัน โดยให้แต่ละต้นมีรากติดมาด้วย
    • นำไปปลูกลงแปลง
  4. การปลูกลงแปลง

    • ขุดหลุมให้มีขนาดพอดีกับราก
    • วางต้นกล้าหรือต้นที่แยกกอลงในหลุม กลบดินให้มิดส่วนโคนต้น กดดินเบา ๆ
    • รดน้ำให้ชุ่ม
    • ระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 10-15 เซนติเมตร และระยะห่างระหว่างแถวประมาณ 15-20 เซนติเมตร
  5. การดูแลรักษา

    • การให้น้ำ รดน้ำสม่ำเสมอเพื่อให้ดินมีความชื้นสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงแรกของการเจริญเติบโต
    • การพรวนดินและกำจัดวัชพืช พรวนดินเบา ๆ รอบโคนต้น และกำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอ
    • การให้ปุ๋ย ให้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยอินทรีย์บ้าง เดือนละครั้ง เพื่อบำรุงต้น อาจให้ปุ๋ยที่มีไนโตรเจนสูงในช่วงแรกของการเจริญเติบโตเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของใบและลำต้น
    • การพูนโคน (Optional) อาจพูนดินรอบโคนต้นเล็กน้อยเพื่อช่วยให้ส่วนโคนยาวและขาวขึ้น
  6. การเก็บเกี่ยว

    • ต้นหอมญี่ปุ่นสามารถเก็บเกี่ยวได้เมื่อมีขนาดตามต้องการ โดยทั่วไปประมาณ 45-60 วัน หลังการปลูก
    • สามารถถอนทั้งต้น หรือตัดเฉพาะส่วนใบและลำต้นเหนือดินเพื่อให้แตกใหม่ได้