เมล็ดพันธุ์ ผักกาดหัวแดง 80 เมล็ด
ผักกาดหัวแดง (ชื่อวิทยาศาสตร์: Raphanus sativus)มีลักษณะเด่นคือ ส่วนหัวใต้ดินมีสีแดงสดใส ซึ่งเป็นลักษณะที่แตกต่างจากหัวผักกาดขาวที่เราคุ้นเคยกันดี ลักษณะทั่วไปเป็นพืชล้มลุก มีลำต้นสั้นอยู่เหนือดิน ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก มีขนอ่อน ดอกออกเป็นช่อ มีดอกย่อยสีขาว ม่วง หรือชมพู หัวใต้ดินเป็นส่วนสะสมอาหาร มีรูปร่างกลม แบน หรือยาวรี ผิวมีสีแดงสด เนื้อภายในส่วนใหญ่มีสีขาว กรอบ และมีรสชาติเผ็ดซ่าเล็กน้อยถึงเผ็ดร้อน ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ อาจมีชื่อเรียกอื่น ๆ ตามท้องถิ่น เช่น หัวผักกาดแดง แรดิช (Radish – ชื่อภาษาอังกฤษ)
คุณสมบัติ
- ลักษณะภายนอกโดดเด่น หัวใต้ดินมีสีแดงสดใส เป็นเอกลักษณ์
- รสชาติเผ็ดซ่า มีรสชาติเผ็ดซ่าเล็กน้อยถึงเผ็ดร้อน
- เนื้อสัมผัส เนื้อกรอบ ฉ่ำน้ำ
- คุณค่าทางโภชนาการ มีวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด เช่น วิตามินซี โพแทสเซียม โฟเลต และใยอาหาร รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระ
- เจริญเติบโตเร็ว เป็นพืชที่เจริญเติบโตได้ค่อนข้างเร็ว
ประโยชน์ของผักกาดหัวแดง
- บริโภคสด นิยมรับประทานสดในสลัด ยำ หรือเป็นเครื่องเคียง ช่วยเพิ่มรสชาติเผ็ดซ่าและสีสันให้กับอาหาร
- ประกอบอาหาร สามารถนำไปผัด ดอง หรือใส่ในซุปได้
- เป็นแหล่งวิตามินซี ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
- มีโพแทสเซียม ช่วยควบคุมความดันโลหิต
- ใยอาหารสูง ช่วยในระบบขับถ่าย ป้องกันอาการท้องผูก
- สารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากความเสียหาย
- มีฤทธิ์ขับลม ช่วยบรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ (ตามตำรายาพื้นบ้าน)
วิธีการปลูก
-
การเตรียมดิน
- เลือกพื้นที่ปลูกที่ดินร่วน โปร่ง ระบายน้ำได้ดี มีอินทรียวัตถุสูง และมีค่า pH ประมาณ 6.0-7.0
- ไถพรวนดินให้ลึกประมาณ 15-20 เซนติเมตร ตากดินไว้ 3-5 วัน
- ปรับปรุงดินด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักที่สลายตัวดีแล้ว อัตรา 1-2 ตันต่อไร่ แล้วไถกลบ
-
การเพาะเมล็ด
- ผักกาดหัวแดงนิยมปลูกด้วยการเพาะเมล็ดโดยตรงลงแปลง
- หว่านเมล็ดเป็นแถว โดยมีระยะห่างระหว่างแถวประมาณ 15-20 เซนติเมตร และระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 5-10 เซนติเมตร
- หยอดเมล็ดประมาณ 2-3 เมล็ดต่อหลุม กลบเมล็ดด้วยดินบาง ๆ ประมาณ 0.5-1 เซนติเมตร
- รดน้ำให้ชุ่มด้วยฝักบัวละเอียด
-
การดูแลรักษา
- การให้น้ำ: รดน้ำอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ดินมีความชื้นสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงแรกของการงอกและช่วงที่หัวกำลังเจริญเติบโต
- การพรวนดินและกำจัดวัชพืช: พรวนดินเบา ๆ รอบโคนต้น และกำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอ
- การถอนแยก: เมื่อต้นกล้ามีใบจริง 2-3 ใบ ให้ถอนแยกต้นที่อ่อนแอหรือขึ้นถี่เกินไป เหลือระยะห่างตามที่กำหนด
- การให้ปุ๋ย: โดยทั่วไปผักกาดหัวแดงไม่ต้องการปุ๋ยมากนัก หากดินไม่ดีอาจให้ปุ๋ยสูตรเสมอ (เช่น 15-15-15) ในปริมาณเล็กน้อยในช่วงแรกของการเจริญเติบโต ควรหลีกเลี่ยงปุ๋ยไนโตรเจนสูง เพราะจะทำให้ใบงามแต่หัวไม่โต
- การคลุมดิน (Optional): อาจคลุมดินด้วยฟางหรือวัสดุคลุมดินอื่น ๆ เพื่อรักษาความชื้นและลดการขึ้นของวัชพืช
-
การเก็บเกี่ยว
- ผักกาดหัวแดงเป็นพืชที่เจริญเติบโตเร็ว สามารถเก็บเกี่ยวได้ประมาณ 25-40 วัน หลังการเพาะเมล็ด ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และขนาดที่ต้องการ
- สังเกตจากขนาดของหัวผักกาดที่ได้ตามต้องการ โดยทั่วไปจะมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2-5 เซนติเมตร
- ใช้มือดึงที่โคนต้นเบา ๆ หรือใช้เสียมแซะดินรอบ ๆ แล้วดึงขึ้น ควรเก็บเกี่ยวเมื่อหัวยังอ่อนและไม่แตก หากปล่อยไว้นานเกินไป หัวอาจแข็งและมีรสชาติเผ็ดจัด