เมล็ดพันธุ์ อิตาเลี่ยนเบซิล 100 เมล็ด
อิตาเลี่ยนเบซิล (ชื่อวิทยาศาสตร์: Ocimum basilicum) หรือที่รู้จักกันในชื่อ Sweet Basil เป็นเบซิลชนิดหนึ่ง ที่มีลักษณะเด่นคือ ใบมีขนาดใหญ่กว่าเบซิลชนิดอื่น ๆ มีสีเขียวเข้ม รูปทรงคล้ายช้อน และมีกลิ่นหอมหวานเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นกลิ่นหอมที่คุ้นเคยในอาหารอิตาเลียนหลายชนิด เป็นไม้ล้มลุก สูงประมาณ 30-60 เซนติเมตร ลำต้นเป็นสี่เหลี่ยม มีขนอ่อนปกคลุม ใบเป็นใบเดี่ยว ออกตรงข้ามกัน รูปไข่หรือคล้ายช้อน ขอบใบเรียบหรือหยักเล็กน้อย ดอกออกเป็นช่อที่ปลายยอด มีสีขาวหรือชมพูอ่อน เป็นสมุนไพรหลักที่ใช้ในอาหารอิตาเลียน เช่น พาสต้า พิซซ่า ซอสเพสโต้ และสลัดคาเปรเซ่
คุณสมบัติ
- ลักษณะภายนอกโดดเด่น ใบมีขนาดใหญ่ สีเขียวเข้ม รูปทรงคล้ายช้อน
- กลิ่นหอมหวาน มีกลิ่นหอมหวานเป็นเอกลักษณ์ แตกต่างจากเบซิลชนิดอื่น ๆ ที่อาจมีกลิ่นฉุนหรือเผ็ดร้อนกว่า
- รสชาติ มีรสชาติหวานเล็กน้อยและมีกลิ่นหอมที่ซับซ้อน
- คุณค่าทางโภชนาการ มีวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด เช่น วิตามินเค วิตามินเอ วิตามินซี แมงกานีส และทองแดง รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระ
- ใช้งานได้หลากหลาย เหมาะสำหรับใช้ปรุงอาหารสด ทำซอส หรืออบแห้ง
ประโยชน์ของอิตาเลี่ยนเบซิล
- ใช้ปรุงอาหาร เป็นส่วนประกอบสำคัญในอาหารอิตาเลียน ช่วยเพิ่มกลิ่นหอมและรสชาติให้กับเมนูต่าง ๆ
- มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากความเสียหาย
- มีคุณสมบัติทางยา ในทางสมุนไพร มีการใช้อิตาเลี่ยนเบซิลเพื่อช่วยลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และช่วยให้สงบ
- เป็นแหล่งวิตามินและแร่ธาตุ ช่วยเสริมสร้างสุขภาพร่างกาย
- ใช้แต่งกลิ่น สามารถนำไปใช้แต่งกลิ่นในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น สบู่ โลชั่น
- ไล่แมลง กลิ่นหอมของเบซิลสามารถช่วยไล่แมลงบางชนิดได้
วิธีการปลูก
-
การเตรียมดิน
- เลือกพื้นที่ปลูกที่ดินร่วน ระบายน้ำได้ดี มีแสงแดดส่องถึงอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน
- ปรับปรุงดินด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก เพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์
-
การเพาะเมล็ด
- หว่านเมล็ดเบซิลลงในถาดเพาะกล้า หรือกระถางเพาะ โดยโรยเมล็ดบาง ๆ กลบด้วยดินเล็กน้อย
- รดน้ำให้ชุ่ม และวางในที่ที่มีแสงรำไร
- เมื่อต้นกล้ามีใบจริง 2-3 คู่ (ประมาณ 3-4 สัปดาห์) สามารถย้ายลงกระถางใหญ่ หรือแปลงปลูกได้
-
การปักชำ
- เลือกกิ่งที่สมบูรณ์ ยาวประมาณ 10-15 เซนติเมตร ตัดใต้ข้อ
- เด็ดใบล่างออก เหลือใบบนประมาณ 2-3 คู่
- ปักกิ่งลงในดินร่วนที่ชุ่มชื้น หรือในน้ำสะอาด
- หากปักในน้ำ รอจนรากงอกประมาณ 2-3 เซนติเมตร แล้วจึงย้ายลงดิน
-
การปลูกลงแปลงหรือกระถาง
- ขุดหลุมให้มีขนาดใหญ่กว่ารากเล็กน้อย
- วางต้นกล้าลงในหลุม กลบดินให้มิดโคนต้น กดดินเบา ๆ
- รดน้ำให้ชุ่ม
- หากปลูกหลายต้น ควรมีระยะห่างประมาณ 20-30 เซนติเมตร
-
การดูแลรักษา
- การให้น้ำ: รดน้ำสม่ำเสมอ ควรรดที่โคนต้น หลีกเลี่ยงการรดบนใบโดยตรง เพื่อป้องกันโรครา
- การให้ปุ๋ย: ให้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยอินทรีย์บ้าง เดือนละครั้ง เพื่อบำรุงต้น
- การตัดยอด: เด็ดยอดอ่อนออกเป็นประจำ เพื่อกระตุ้นให้แตกกิ่งด้านข้าง ทำให้ได้ใบมากขึ้น และชะลอการออกดอก หากปล่อยให้ออกดอก ใบจะมีขนาดเล็กลงและกลิ่นหอมลดลง
- การกำจัดวัชพืช: ถอนวัชพืชที่ขึ้นรอบ ๆ ต้นเบซิล
- การป้องกันโรคและแมลง: ตรวจสอบต้นเบซิลอย่างสม่ำเสมอ หากพบโรคหรือแมลงให้รีบกำจัดด้วยวิธีธรรมชาติ
-
การเก็บเกี่ยว
- สามารถเก็บเกี่ยวใบเบซิลได้เมื่อต้นมีขนาดพอสมควร โดยเด็ดจากส่วนยอดลงมา
- ควรเก็บเกี่ยวในช่วงเช้าหลังน้ำค้างแห้ง จะทำให้ได้ใบที่มีกลิ่นหอมมากที่สุด