เมล็ดพันธุ์ แตงกวา 40 เมล็ด
แตงกวา (ชื่อวิทยาศาสตร์: Cucumis sativus) เป็นพืชในวงศ์แตง (Cucurbitaceae) เป็นไม้เถาเลื้อย มีลำต้นอ่อน ใบเดี่ยวรูปสามเหลี่ยมหรือคล้ายรูปหัวใจ มีมือเกาะ ดอกเป็นดอกเดี่ยวสีเหลือง ผลมีลักษณะยาวรี ทรงกระบอก หรือกลมป้อม ผิวมีสีเขียวอ่อน เขียวเข้ม หรือขาว มีหนามเล็ก ๆ หรือผิวเรียบ เนื้อมีสีเขียวอ่อน ฉ่ำน้ำ มีเมล็ดแบนรีสีขาว มีแตงกวาหลากหลายสายพันธุ์ ทั้งแตงกวาสำหรับรับประทานสด (เช่น แตงกวาญี่ปุ่น แตงกวาอังกฤษ) และแตงกวาสำหรับนำไปดอง (เช่น แตงกวาพันธุ์พื้นเมืองบางชนิด)
คุณสมบัติ
- ลักษณะภายนอก
- ผลมีรูปร่างและสีสันหลากหลายตามสายพันธุ์
- รสชาติสดชื่น
- เนื้อมีรสชาติจืดถึงขมเล็กน้อย ให้ความรู้สึกสดชื่นเมื่อรับประทาน
- เนื้อสัมผัส
- เนื้อมีความกรอบ ฉ่ำน้ำ
- คุณค่าทางโภชนาการ
- มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก และมีวิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหารในปริมาณที่พอสมควร เช่น วิตามินเค วิตามินซี โพแทสเซียม และแมกนีเซียม
- ย่อยง่าย
- เป็นผักที่ย่อยง่าย เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย
ประโยชน์ของแตงกวา
- บริโภคสด
- เป็นผักที่นิยมรับประทานสดในสลัด ยำ หรือเป็นเครื่องเคียง
- ประกอบอาหาร
- ใช้ในเมนูผัด แกง หรือซุปต่าง ๆ
- นำไปดอง
- แตงกวาบางสายพันธุ์เหมาะสำหรับการนำไปดองเป็นผักดอง
- ให้ความชุ่มชื้น
- มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก จึงช่วยให้ร่างกายได้รับน้ำ
- แหล่งวิตามินและแร่ธาตุ
- ช่วยเสริมสร้างสุขภาพร่างกาย
- ใยอาหารสูง
- ช่วยในระบบขับถ่าย ป้องกันอาการท้องผูก
- ใช้ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว
- สารสกัดจากแตงกวามีคุณสมบัติช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและลดการอักเสบ
- ช่วยลดความร้อนในร่างกาย
- มีฤทธิ์เย็น ช่วยลดความร้อนและอาการกระหายน้ำ
วิธีการปลูก
-
การเตรียมดิน
- เลือกพื้นที่ปลูกที่ดินร่วน ระบายน้ำได้ดี มีแสงแดดส่องถึงอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน
- ไถพรวนดินให้ลึกประมาณ 15-20 เซนติเมตร ตากดินไว้ 7-10 วัน
- ปรับปรุงดินด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 1-2 ตันต่อไร่ แล้วไถกลบ
-
การเพาะกล้า (แนะนำเพื่อการเจริญเติบโตที่สม่ำเสมอ)
- แช่เมล็ดในน้ำสะอาดประมาณ 6-8 ชั่วโมง
- เพาะในถาดเพาะกล้าด้วยวัสดุเพาะ เช่น พีทมอส หรือดินผสม
- รดน้ำให้ชุ่ม เก็บไว้ในที่ร่มรำไร เมื่อต้นกล้ามีใบจริง 2-3 ใบ (ประมาณ 10-15 วัน) จึงย้ายลงแปลงปลูก
-
การปลูก (สามารถหยอดเมล็ดลงแปลงโดยตรงได้)
- ขุดหลุมปลูกให้มีขนาดประมาณ 30x30x30 เซนติเมตร ระยะห่างระหว่างหลุมและระหว่างแถวประมาณ 50-80 เซนติเมตร
- นำต้นกล้าลงปลูก กลบดินให้มิดโคนต้น กดดินเบา ๆ แล้วรดน้ำให้ชุ่ม
- หากหยอดเมล็ดโดยตรง ให้หยอด 2-3 เมล็ดต่อหลุม เมื่อต้นกล้ามีใบจริง 2-3 ใบ ให้ถอนแยกเหลือหลุมละ 1-2 ต้น
-
การดูแลรักษา
- การให้น้ำ ควรรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงแรกของการเจริญเติบโต ช่วงออกดอก และติดผล รักษาระดับความชื้นในดินให้สม่ำเสมอ
- การให้ปุ๋ย ให้ปุ๋ยสูตรเสมอ (เช่น 15-15-15) ในช่วงแรก และเมื่อเริ่มติดผลให้ปุ๋ยสูตรที่มีฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมสูงขึ้น (เช่น 12-24-12 หรือ 13-13-21) เพื่อส่งเสริมการออกดอกและติดผล
- การทำค้าง แตงกวาเป็นไม้เลื้อย ควรทำค้างเพื่อให้เถาได้เกาะและผลไม่สัมผัสกับดินโดยตรง ช่วยให้ผลสวยงามและลดความเสี่ยงจากโรค
- การกำจัดวัชพืช กำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอ
- การป้องกันและกำจัดโรคแมลง หมั่นตรวจแปลงปลูก หากพบโรคหรือแมลงให้รีบทำการป้องกันและกำจัดด้วยวิธีที่เหมาะสม
-
การเก็บเกี่ยว
- ระยะเวลาเก็บเกี่ยวจะแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ โดยทั่วไปประมาณ 45-60 วันหลังหยอดเมล็ด
- เก็บเกี่ยวเมื่อผลมีขนาดพอเหมาะตามความต้องการของตลาด หรือเมื่อผลเริ่มมีสีเขียวเข้มขึ้น ควรเก็บเกี่ยวอย่างสม่ำเสมอเพื่อกระตุ้นให้ต้นออกดอกและติดผลอย่างต่อเนื่อง