เมล็ดพันธุ์ มะระจีน 15 เมล็ด
มะระจีน (ชื่อวิทยาศาสตร์: Momordica charantia L.) เป็นไม้เถาเลื้อยในวงศ์ Cucurbitaceae (วงศ์แตง) มีลักษณะเด่นคือผลขนาดใหญ่ ผิวขรุขระเป็นร่องยาวตามแนวผล รสชาติขม เป็นผักที่นิยมนำมาบริโภคและมีสรรพคุณทางยา ลักษณะโดยทั่วไปคือ:
- ลำต้น เป็นไม้เถาเลื้อย มีมือเกาะสำหรับยึดพัน ลำต้นค่อนข้างแข็งแรง สีเขียว มีขนอ่อนปกคลุม
- ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกสลับ รูปฝ่ามือ มี 5-7 แฉก ขอบใบหยักลึก มีขนอ่อนปกคลุม คล้ายกับใบมะระขี้นกแต่มีขนาดใหญ่กว่า
- ดอก เป็นดอกเดี่ยว ออกตามซอกใบ มีทั้งดอกเพศผู้และดอกเพศเมีย ดอกมีสีเหลืองอ่อน กลีบดอก 5 กลีบ ขนาดใหญ่กว่าดอกมะระขี้นก
- ผล เป็นผลสด รูปทรงกระบอกยาว ผิวขรุขระเป็นร่องยาวตามแนวผล มีขนาดใหญ่กว่ามะระขี้นก ยาวประมาณ 15-30 เซนติเมตร เมื่ออ่อนมีสีเขียวอ่อน เมื่อแก่จะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง และเมื่อสุกเต็มที่จะแตกออก ภายในมีเมล็ดแบนสีน้ำตาล มีเยื่อหุ้มเมล็ดสีแดงสด
คุณสมบัติ
มะระจีนมีคุณสมบัติที่สำคัญดังนี้
- รสชาติขม เป็นลักษณะเด่น แต่ความขมอาจน้อยกว่ามะระขี้นกเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และวิธีการปรุงอาหาร
- คุณค่าทางโภชนาการสูง ผลมะระจีนมีวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด เช่น วิตามินซี วิตามินเอ เบต้าแคโรทีน ธาตุเหล็ก โพแทสเซียม และใยอาหาร
- สรรพคุณทางยา เช่นเดียวกับมะระขี้นก มะระจีนก็มีสรรพคุณทางยาที่ได้รับการศึกษาและนำมาใช้ประโยชน์มากมาย เช่น
- ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด มีสารสำคัญที่ช่วยในการเผาผลาญน้ำตาล
- ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย
- เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน วิตามินซีสูงช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
- ช่วยเจริญอาหาร รสขมช่วยกระตุ้นการหลั่งน้ำย่อย
- ฤทธิ์ต้านมะเร็ง มีการศึกษาเบื้องต้นที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการยับยั้งเซลล์มะเร็งบางชนิด
- ลดไขมันในเลือด ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์
- เป็นยาระบายอ่อนๆ มีใยอาหารสูงช่วยในการขับถ่าย
ประโยชน์ของมะระจีน
มะระจีนมีประโยชน์หลากหลายด้าน
- เป็นอาหาร ผลอ่อนนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู เช่น ผัด แกง ต้ม ยัดไส้ หรือนำไปลวกจิ้มน้ำพริก
- สมุนไพร ใช้เป็นยาในการรักษาและบรรเทาอาการต่างๆ ตามสรรพคุณทางยาที่กล่าวมา
- เครื่องดื่ม สามารถนำมาทำน้ำมะระจีนเพื่อสุขภาพได้ (อาจผสมกับผลไม้รสหวานเพื่อลดความขม)
- อุตสาหกรรมยาและอาหารเสริม สารสกัดจากมะระจีนถูกนำไปใช้ในการผลิตยาและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
วิธีการปลูก
การปลูกมะระจีนมีขั้นตอนคล้ายกับการปลูกมะระขี้นก แต่เนื่องจากผลมีขนาดใหญ่กว่าและเถาอาจเจริญเติบโตได้ดีกว่า จึงควรให้ความสำคัญกับการทำค้างที่แข็งแรงและการจัดการพื้นที่ให้เหมาะสม
- การเตรียมดิน
-
- เลือพื้นที่ปลูกที่มีดินร่วน ระบายน้ำได้ดี มีความอุดมสมบูรณ์ และมีแสงแดดส่องถึงเต็มที่
- ไถพรวนดินให้ลึกประมาณ 20-30 เซนติเมตร ตากดินทิ้งไว้ประมาณ 1-2 สัปดาห์ เพื่อกำจัดวัชพืชและแมลงในดิน
- ปรับปรุงดินด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในปริมาณที่เหมาะสม
-
- การเตรียมเมล็ด
-
- เลือกใช้เมล็ดมะระจีนที่สมบูรณ์ ไม่แตกหัก และไม่มีร่องรอยของโรคและแมลง
- แช่เมล็ดในน้ำอุ่นประมาณ 8-12 ชั่วโมงก่อนปลูก เพื่อกระตุ้นการงอก
-
- การเพาะกล้า (แนะนำเพื่อให้ได้ต้นกล้าที่แข็งแรง)
-
- เตรียมดินเพาะกล้า (ดินร่วนผสมขุยมะพร้าวและปุ๋ยหมัก) ใส่ในถาดเพาะหรือกระถาง
- หยอดเมล็ดลงในหลุมลึกประมาณ 1-2 เซนติเมตร กลบดิน รดน้ำให้ชุ่ม
- ดูแลต้นกล้าประมาณ 3-4 สัปดาห์ เมื่อต้นกล้ามีใบจริง 3-4 คู่ แข็งแรงดีแล้ว สามารถย้ายลงแปลงปลูกได้
-
- การปลูกลงแปลง
-
- เตรียมหลุมปลูก ระยะห่างระหว่างหลุมประมาณ 1-1.5 เมตร และระยะห่างระหว่างแถวประมาณ 1.5-2 เมตร เนื่องจากเถามะระจีนจะแผ่กว้าง
- นำต้นกล้าลงปลูก กลบดินให้แน่น รดน้ำให้ชุ่ม
- ทำค้างที่แข็งแรงและมั่นคง เช่น ค้างไม้ไผ่ขนาดใหญ่ หรือค้างตาข่าย เพื่อรองรับน้ำหนักของผลและเถาที่เจริญเติบโต
-
- การให้น้ำ
-
- ควรรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงแรกของการเจริญเติบโต ช่วงออกดอก และติดผล
- รักษาความชื้นในดินให้สม่ำเสมอ แต่หลีกเลี่ยงการให้น้ำมากเกินไปจนดินแฉะ
-
- การใส่ปุ๋ย
-
- ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเป็นปุ๋ยรองพื้นในปริมาณที่มากขึ้นกว่าการปลูกมะระขี้นก เนื่องจากมะระจีนให้ผลผลิตขนาดใหญ่
- ในช่วงที่ต้นกำลังเจริญเติบโต ออกดอก และติดผล สามารถให้ปุ๋ยเคมีสูตรเสมอ (เช่น 15-15-15) และปุ๋ยที่มีโพแทสเซียมสูงในช่วงติดผล เพื่อช่วยให้ผลมีคุณภาพดี
-
- การกำจัดวัชพืช
-
- ควรกำจัดวัชพืชรอบๆ ต้นมะระจีนอย่างสม่ำเสมอ
-
- การป้องกันและกำจัดศัตรูพืชและโรค
-
- ศัตรูพืชและโรคที่พบบ่อยคล้ายกับมะระขี้นก เช่น หนอนแตง เพลี้ยไฟ แมลงหวี่ขาว โรคราน้ำค้าง โรคใบจุด ควรมีการเฝ้าระวังและจัดการอย่างเหมาะสม
- การตัดแต่งเถาและใบที่หนาแน่นเกินไปจะช่วยลดความชื้นและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคได้
-
- การเก็บเกี่ยว
-
-
- มะระจีนจะเริ่มให้ผลผลิตประมาณ 2-3 เดือนหลังปลูก
- เก็บเกี่ยวผลอ่อนที่มีสีเขียวอ่อน ผิวเป็นร่องชัดเจน ขนาดตามต้องการ ควรเก็บเกี่ยวในช่วงที่ผลยังไม่แก่จัด เพราะเนื้อจะนุ่มและมีรสขมน้อยกว่า
-