เมล็ดพันธุ์ มะระขี้นก 30 เมล็ด
มะระขี้นก (ชื่อวิทยาศาสตร์: Momordica charantia L.) เป็นไม้เถาเลื้อยขนาดเล็กในวงศ์ Cucurbitaceae (วงศ์แตง) มีลักษณะเด่นคือผลขนาดเล็ก ผิวขรุขระคล้ายหนามเตย รสชาติขมจัด เป็นพืชที่นิยมนำมาบริโภคและใช้เป็นสมุนไพร ลักษณะโดยทั่วไปคือ:
- ลำต้น: เป็นไม้เถาเลื้อย มีมือเกาะสำหรับยึดพัน ลำต้นเล็ก สีเขียว มีขนอ่อนปกคลุม
- ใบ: เป็นใบเดี่ยว ออกสลับ รูปฝ่ามือ มี 5-7 แฉก ขอบใบหยักลึก มีขนอ่อนปกคลุม
- ดอก: เป็นดอกเดี่ยว ออกตามซอกใบ มีทั้งดอกเพศผู้และดอกเพศเมีย ดอกมีสีเหลืองอ่อน กลีบดอก 5 กลีบ
- ผล: เป็นผลสด รูปทรงกระสวยขนาดเล็ก ยาวประมาณ 2-5 เซนติเมตร ผิวขรุขระเป็นปุ่มปมคล้ายหนามเตย เมื่ออ่อนมีสีเขียว เมื่อแก่จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองส้ม และเมื่อสุกเต็มที่จะแตกออก ภายในมีเมล็ดแบนสีน้ำตาล
คุณสมบัติ
มะระขี้นกมีคุณสมบัติที่โดดเด่นหลายประการ
- รสชาติขมจัด เป็นเอกลักษณ์ของมะระขี้นก ซึ่งมีสารสำคัญหลายชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ
- คุณค่าทางโภชนาการสูง ผลมะระขี้นกมีวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด เช่น วิตามินซี วิตามินเอ เบต้าแคโรทีน ธาตุเหล็ก โพแทสเซียม และใยอาหาร
- สรรพคุณทางยา มะระขี้นกมีสรรพคุณทางยาที่ได้รับการศึกษาและนำมาใช้ประโยชน์มากมาย เช่น
- ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด มีสารสำคัญหลายชนิดที่ออกฤทธิ์คล้ายอินซูลิน ช่วยในการเผาผลาญน้ำตาล
- ต้านอนุมูลอิสระ มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย
- เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน วิตามินซีสูงช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
- ช่วยเจริญอาหาร รสขมช่วยกระตุ้นการหลั่งน้ำย่อย
- ฤทธิ์ต้านมะเร็ง มีการศึกษาเบื้องต้นพบว่าสารสกัดจากมะระขี้นกอาจมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งบางชนิด
- ลดไขมันในเลือด ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์
- เป็นยาระบายอ่อนๆ มีใยอาหารสูงช่วยในการขับถ่าย
ประโยชน์ของมะระขี้นก
มะระขี้นกมีประโยชน์หลากหลายด้าน
- เป็นอาหาร ผลอ่อนนำมาประกอบอาหารได้หลายชนิด เช่น ผัด แกง ต้ม ยำ หรือรับประทานสด (สำหรับผู้ที่ชอบรสขม)
- สมุนไพร ใช้เป็นยาในการรักษาและบรรเทาอาการต่างๆ ตามสรรพคุณทางยาที่กล่าวมา
- เครื่องดื่ม สามารถนำมาทำน้ำมะระขี้นกเพื่อสุขภาพได้
- อุตสาหกรรมยา สารสกัดจากมะระขี้นกถูกนำไปใช้ในการผลิตยาและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
วิธีการปลูก
การปลูกมะระขี้นกสามารถทำได้ง่าย มีขั้นตอนดังนี้
-
-
การเตรียมดิน
- เลือพื้นที่ปลูกที่มีดินร่วน ระบายน้ำได้ดี มีความอุดมสมบูรณ์ และมีแสงแดดส่องถึงเต็มที่
- ไถพรวนดินให้ลึกประมาณ 15-20 เซนติเมตร ตากดินทิ้งไว้ประมาณ 1-2 สัปดาห์ เพื่อกำจัดวัชพืชและแมลงในดิน
- ปรับปรุงดินด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก
-
การเตรียมเมล็ด
- เลือกใช้เมล็ดมะระขี้นกที่สมบูรณ์ ไม่แตกหัก และไม่มีร่องรอยของโรคและแมลง
- อาจแช่เมล็ดในน้ำอุ่นประมาณ 6-8 ชั่วโมงก่อนปลูก เพื่อกระตุ้นการงอก
-
การเพาะกล้า (แนะนำเพื่อให้ได้ต้นกล้าที่แข็งแรง)
- เตรียมดินเพาะกล้า (ดินร่วนผสมขุยมะพร้าวและปุ๋ยหมัก) ใส่ในถาดเพาะหรือกระถางเล็ก
- หยอดเมล็ดลงในหลุมลึกประมาณ 1-2 เซนติเมตร กลบดิน รดน้ำให้ชุ่ม
- ดูแลต้นกล้าประมาณ 2-3 สัปดาห์ เมื่อต้นกล้ามีใบจริง 2-3 คู่ แข็งแรงดีแล้ว สามารถย้ายลงแปลงปลูกได้
-
การปลูกลงแปลง
- เตรียมหลุมปลูก ระยะห่างระหว่างหลุมประมาณ 50-70 เซนติเมตร และระยะห่างระหว่างแถวประมาณ 1-1.5 เมตร
- นำต้นกล้าลงปลูก กลบดินให้แน่น รดน้ำให้ชุ่ม
- ทำค้างให้มะระขี้นกเลื้อย โดยใช้ไม้ไผ่ ตาข่าย หรือเชือก
-
การให้น้ำ
- ควรรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงแรกของการเจริญเติบโต และในช่วงที่กำลังออกดอกและติดผล
- รักษาความชื้นในดินให้สม่ำเสมอ แต่หลีกเลี่ยงการให้น้ำมากเกินไปจนดินแฉะ
-
การใส่ปุ๋ย
- ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเป็นปุ๋ยรองพื้นในช่วงเตรียมดิน
- ในช่วงที่ต้นกำลังเจริญเติบโต ออกดอก และติดผล สามารถให้ปุ๋ยเคมีสูตรเสมอ (เช่น 15-15-15) ในปริมาณเล็กน้อยได้
-
การกำจัดวัชพืช
- ควรกำจัดวัชพืชรอบๆ ต้นมะระขี้นกอย่างสม่ำเสมอ
-
การป้องกันและกำจัดศัตรูพืชและโรค
- ศัตรูพืชที่พบบ่อย เช่น หนอนแตง เพลี้ยไฟ แมลงหวี่ขาว
- โรคที่พบบ่อย เช่น โรคราน้ำค้าง โรคใบจุด
- หากพบการระบาด ควรทำการป้องกันและกำจัดด้วยวิธีที่เหมาะสม เช่น การใช้สารชีวภัณฑ์ หรือสารเคมี (ตามคำแนะนำ)
-
การเก็บเกี่ยว
- มะระขี้นกจะเริ่มให้ผลผลิตประมาณ 2-3 เดือนหลังปลูก
- เก็บเกี่ยวผลอ่อนที่มีสีเขียวสด ผิวขรุขระเป็นปุ่มปม เมื่อผลเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองแสดงว่าแก่เกินไปและจะมีรสขมมากขึ้น
-