เมล็ดพันธุ์ พิลังกาสา 20 เมล็ด
พิลังกาสา (ชื่อวิทยาศาสตร์: Ardisia elliptica Thunb) เป็นไม้พุ่มขนาดเล็กถึงขนาดกลาง มีลักษณะเด่นคือมีผลสีแดงสดใสคล้ายลูกปัดครับ โดยทั่วไปมีรายละเอียดดังนี้
- ลำต้น เป็นไม้พุ่ม สูงประมาณ 1-5 เมตร ลำต้นแตกกิ่งก้านจำนวนมาก เปลือกต้นสีน้ำตาล
- ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ รูปรีหรือรูปไข่กลับ ขอบใบหยักเล็กน้อยหรือเป็นคลื่นเล็กน้อย ปลายใบแหลมหรือมน โคนใบสอบ เนื้อใบค่อนข้างหนา สีเขียวเข้มเป็นมัน
- ดอก ออกเป็นช่อตามซอกใบหรือปลายกิ่ง ดอกมีขนาดเล็ก สีขาวหรือสีชมพูอ่อน กลีบดอก 5 กลีบ เกสรสีเหลือง
- ผล เป็นผลสดแบบมีเนื้อ ทรงกลมขนาดเล็ก เมื่อสุกจะมีสีแดงสดใส เป็นมัน สวยงาม ติดผลเป็นพวงจำนวนมาก
คุณสมบัติ
พิลังกาสามีคุณสมบัติที่น่าสนใจหลายประการ
- ความสวยงาม ผลสีแดงสดใสเป็นจุดเด่นที่ทำให้พิลังกาสาเป็นไม้ประดับที่สวยงาม
- ความทนทาน เป็นไม้ที่ค่อนข้างทนทานต่อสภาพแวดล้อมต่างๆ ได้ดี ทั้งแสงแดดรำไรและแสงแดดจัด
- สรรพคุณทางยา (ตามตำรายาพื้นบ้าน)
- ราก ใช้ต้มดื่มแก้ไอ ขับเสมหะ แก้ท้องเสีย
- ใบ ใช้ตำพอกแผล
- ผล มีรสเปรี้ยวฝาด ใช้รับประทานได้เล็กน้อย แต่ส่วนใหญ่ใช้เป็นยาแก้ไอ ขับเสมหะ
- เป็นแหล่งอาหารของสัตว์ ผลของพิลังกาสาเป็นอาหารของนกหลายชนิด ช่วยส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่
ประโยชน์ของพิลังกาสา
- ไม้ประดับ ด้วยผลสีแดงสดที่ติดทนนาน ทำให้พิลังกาสาเป็นไม้ประดับที่ได้รับความนิยมในการปลูกตามบ้านเรือน สวนสาธารณะ หรือปลูกเป็นไม้กระถางเพื่อความสวยงาม
- สมุนไพร ตามตำรายาพื้นบ้าน มีการนำส่วนต่างๆ ของพิลังกาสามาใช้ในการรักษาอาการต่างๆ เช่น ไอ ท้องเสีย และแผล
- ส่งเสริมระบบนิเวศ เป็นแหล่งอาหารที่สำคัญของนก ช่วยกระจายพันธุ์ และเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ
- ใช้ในงานจัดสวน รูปทรงของต้นและสีสันของผลทำให้พิลังกาสาเป็นองค์ประกอบที่น่าสนใจในการจัดสวน
วิธีการปลูก
-
การเพาะเมล็ด
- เก็บเมล็ด เลือกเก็บผลที่สุกเต็มที่ มีสีแดงสด นำมาแกะเอาเนื้อออก ล้างให้สะอาด ผึ่งลมให้แห้ง
- เพาะกล้า เตรียมดินร่วนผสมทรายและอินทรียวัตถุ ใส่ในกระถางเพาะหรือแปลงเพาะ หว่านเมล็ดลงไป กลบดินบางๆ รดน้ำให้ชุ่ม
- ดูแลต้นกล้า รดน้ำสม่ำเสมอ ให้ได้รับแสงแดดรำไร เมื่อต้นกล้ามีใบจริง 2-3 คู่ สามารถย้ายลงปลูกในกระถางที่ใหญ่ขึ้น หรือลงแปลงปลูกได้
- เตรียมดินปลูก เลือกพื้นที่ที่มีแสงแดดรำไรถึงแสงแดดจัด ดินร่วน ระบายน้ำได้ดี ขุดหลุมให้มีขนาดใหญ่กว่าตุ้มดินของต้นกล้าเล็กน้อย
- ย้ายกล้า นำต้นกล้าลงปลูก กลบดินให้แน่น รดน้ำให้ชุ่ม
-
การตอนกิ่ง
- เลือกกิ่ง เลือกกิ่งกึ่งแก่กึ่งอ่อนที่สมบูรณ์ ไม่อ่อนหรือแก่จนเกินไป
- ควั่นกิ่ง ควั่นเปลือกกิ่งออกเป็นวงกว้างประมาณ 1-2 เซนติเมตร
- พอกตุ้มตอน นำดินร่วนผสมขุยมะพร้าวและน้ำ พอกบริเวณที่ควั่นให้หนาพอสมควร หุ้มด้วยพลาสติกใส มัดหัวท้ายให้แน่น
- ดูแลตุ้มตอน รดน้ำให้ตุ้มตอนมีความชื้นอยู่เสมอ ประมาณ 1-2 เดือน รากจะงอกออกมา
- ตัดกิ่งตอน เมื่อรากงอกแข็งแรงดีแล้ว ให้ตัดกิ่งตอนลงปลูกในกระถางหรือแปลงที่เตรียมไว้
- การดูแลรักษา
- การให้น้ำ พิลังกาสาชอบดินที่ชุ่มชื้น แต่ไม่แฉะ ควรรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงแรกที่ปลูกและในช่วงฤดูแล้ง
- การใส่ปุ๋ย ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ เช่น ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก ปีละ 2-3 ครั้ง เพื่อบำรุงต้นให้แข็งแรงและมีผลดก
- การตัดแต่งกิ่ง ตัดแต่งกิ่งที่แห้ง เป็นโรค หรือกิ่งที่แน่นทึบเกินไป เพื่อให้ทรงพุ่มสวยงามและแสงแดดส่องถึง
- แสงแดด พิลังกาสาสามารถเจริญเติบโตได้ดีทั้งในที่มีแสงแดดรำไรและแสงแดดจัด แต่ถ้าปลูกในที่มีแสงแดดจัด ผลจะมีสีสดใสมากขึ้น