เมล็ดพันธุ์ พริกกะเหรี่ยง

เมล็ดพันธุ์ พริกกะเหรี่ยง 100 เมล็ด

พริกกะเหรี่ยง (ชื่อวิทยาศาสตร์: Capsicum frutescens) เป็นพริกชนิดหนึ่งที่มีชื่อเรียกตามกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง ซึ่งเป็นผู้ปลูกและบริโภคพริกชนิดนี้มาอย่างยาวนาน มีชื่อเรียกอื่นๆ อีก เช่น พริกขี้หนูสวนเม็ดเล็ก พริกน้ำปลา หรือพริกแด้ ลักษณะเด่นคือ ผลมีขนาดเล็ก เรียวแหลม ชี้ขึ้นฟ้า เมื่อสุกจะมีสีแดงสด รสชาติเผ็ดร้อนจัดจ้านมาก

คุณสมบัติ

• ลักษณะผล
  • ขนาดเล็ก เรียวแหลม ปลายชี้ขึ้นฟ้า
• สีของผล
  • เปลี่ยนแปลงตามระยะการเจริญเติบโต จากเขียวอ่อน เขียวเข้ม ส้ม และแดงสดเมื่อสุก
• รสชาติ
  • เผ็ดร้อนจัดจ้านมาก ถือเป็นพริกที่มีความเผ็ดระดับสูง
• ลำต้น
  • เป็นพุ่มขนาดเล็กถึงกลาง สูงประมาณ 0.5 – 1.5 เมตร
• การเจริญเติบโต
  • เจริญเติบโตได้ดีในเขตร้อนชื้น ต้องการแสงแดดจัด และดินร่วนระบายน้ำได้ดี
• ความทนทาน
  • ค่อนข้างทนทานต่อสภาพแวดล้อมและโรคบางชนิด

ประโยชน์ของพริกกะเหรี่ยง

• ใช้ประกอบอาหาร
  • เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ให้รสเผ็ดร้อนในอาหารไทยและอาหารเอเชีย โดยเฉพาะอาหารที่ต้องการความเผ็ดจัดจ้าน เช่น น้ำพริก แกงป่า ผัดกะเพรา หรือใช้รับประทานสดคู่กับอาหารต่างๆ
• สรรพคุณทางยา
  • มีสารแคปไซซิน (Capsaicin) ในปริมาณมาก ซึ่งมีคุณสมบัติทางยา เช่น ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อย ลดการอักเสบ กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ช่วยในการย่อยอาหาร และอาจมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ
• กระตุ้นความอยากอาหาร
  • รสชาติเผ็ดร้อนของพริกกะเหรี่ยงสามารถช่วยกระตุ้นความอยากอาหารได้
• เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ต่างๆ
  • สารสกัดจากพริกถูกนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น ครีมบรรเทาปวด หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

วิธีการปลูก

• การเตรียมเมล็ด: สามารถใช้เมล็ดพันธุ์พริกกะเหรี่ยงที่ซื้อมา หรือเก็บจากผลพริกที่สุกแล้ว นำเมล็ดไปตากแดดให้แห้งสนิท
• การเพาะกล้า:
  • นำเมล็ดไปแช่น้ำประมาณ 4-6 ชั่วโมง เพื่อกระตุ้นการงอก
  • เพาะเมล็ดในวัสดุเพาะ เช่น ดินเพาะกล้าสำเร็จรูป หรือดินร่วนผสมแกลบและปุ๋ยหมักละเอียด
  • กลบเมล็ดบางๆ รดน้ำให้ชุ่ม และวางในที่ร่มรำไร
  • เมื่อต้นกล้ามีใบจริง 2-3 คู่ สามารถย้ายลงกระถางหรือแปลงปลูกได้
• การเตรียมดินและแปลงปลูก:
  • เลือกพื้นที่ที่มีแสงแดดส่องถึงอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน
  • ไถพรวนดินให้ร่วนซุย ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์
  • ถ้าปลูกในกระถาง ควรเลือกกระถางที่มีขนาดเหมาะสมและมีรูระบายน้ำที่ดี
• การย้ายกล้า:
  • ขุดหลุมให้มีขนาดใหญ่กว่าตุ้มดินของต้นกล้าเล็กน้อย
  • นำต้นกล้าลงปลูก กลบดินให้มิดโคนต้น กดดินเบาๆ และรดน้ำให้ชุ่ม
  • เว้นระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 30-50 เซนติเมตร และระหว่างแถวประมาณ 60-80 เซนติเมตร
• การดูแลรักษา:
  • การให้น้ำ: รดน้ำสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงที่ต้นยังเล็กและช่วงติดดอกออกผล ระวังอย่าให้น้ำขัง
  • การใส่ปุ๋ย: ใส่ปุ๋ยที่มีธาตุอาหารครบถ้วน เช่น ปุ๋ยสูตร 15-15-15 หรือปุ๋ยอินทรีย์ เพื่อบำรุงต้นและผล ควรใส่ปุ๋ยในช่วงก่อนออกดอกและช่วงติดผล
  • การกำจัดวัชพืช: หมั่นกำจัดวัชพืชรอบๆ ต้นพริก เพื่อไม่ให้แย่งอาหารและเป็นที่อยู่ของแมลงศัตรูพืช
  • การป้องกันและกำจัดศัตรูพืช: ตรวจสอบต้นพริกอย่างสม่ำเสมอ หากพบแมลงหรือโรค ให้รีบกำจัดด้วยวิธีธรรมชาติ หรือใช้สารเคมีที่ปลอดภัย
• การเก็บเกี่ยว: พริกกะเหรี่ยงสามารถเก็บเกี่ยวได้เมื่อผลมีสีแดงสดและเริ่มแข็งแรง โดยสามารถทยอยเก็บเกี่ยวได้เรื่อยๆ